น่าน - ชาวบ้านเวียงสาโวยกรมศิลปากรบูรณะวัดบุญยืนพระอารามหลวง ทาสีทับจิตรกรรมฝาผนังหมด แถมพบร่องรอยการโบกปูนใหม่ทับในพระอุโบสถ ลักษณะคล้ายถูกขุดเอาของมีค่าใต้ฐานพระประธาน และลูกนิมิตออก ผู้ใหญ่บ้านนัดกรมศิลป์เคลียร์พรุ่งนี้ (20 เม.ย.)
รายงานข่าวจากจังหวัดน่านแจ้งว่า ขณะนี้ชาวบ้านบุญยืน ต.กลางเวียง อ.เวียงสา จ.น่าน ได้รวมตัวกันเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบกรณีจิตรกรรมฝาผนังของวัดบุญยืน พระอารามหลวงถูกลบทิ้งโดยการทาสีทับจากการบูรณะซ่อมแซมของกรมศิลปากร ซึ่งจิตรกรรมฝาผนังดังกล่าวเป็นศิลปะที่ทรงคุณค่าด้วยภาพเขียนฝีมือชาวบ้านแต่โบราณ แต่ได้ถูกทาสีขาวทับจนพื้นผนังกลายเป็นสีขาวทั้งหมด
นายประสิทธิ์ ปรมาพิชัย ชาวบ้านบุญยืน อ.เวียงสา กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่าแค่ปรับปรุงเปลี่ยนหลังคาวัด แต่ก็แคลงใจว่าหลังคาก็เพิ่งเปลี่ยนไปได้ไม่นานคือประมาณปีสองปีมานี้เอง แต่หลังจากมีนักท่องเที่ยวและนักเขียนชื่อดังมากราบไหว้ขอพรพระประธาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางยืนองค์เดียวของเมืองเหนือ ถึงกับตกใจเมื่อเห็นจิตรกรรมฝาผนังภายในวัดบุญยืน พระอารามหลวงแห่งนี้ถูกลบไปจนหมด แล้วทาทับด้วยสีขาวทั้งหมดเช่นกัน ส่วนโครงสร้างภายในวัดยังสมบูรณ์แข็งแรงไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่ลวดลายต่างๆ โดยช่างสมัยโบราณได้ถูกแกะออกไปหมด
ต่อมาได้ยินประกาศเสียงตามสายของชุมชนว่า ท่านใดมีรูปภาพเขียนภายในวัดบุญยืนให้นำส่งที่เทศบาลฯ ก็เกิดข้อสงสัยว่าชาวบ้านทราบเรื่องนี้หรือไม่ และรู้สึกต่อเรื่องนี้อย่างไร และเสียดายงานเขียนจากจิตรกรสมัยโบราณซึ่งทรงคุณค่าด้านจิตใจ เพราะเป็นรูปพุทธประวัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตั้งแต่ครั้งทรงบำเพ็ญพระบารมี 10 ชาติ จนมาตรัสรู้เป็นพระศาสดาของศาสนาพุทธ สะท้อนถึงพระวิริยอุตสาหะบำเพ็ญเพียรสร้างคุณความดีของพระพุทธเจ้าผ่านงานภาพเขียนบนฝาผนัง ให้สาธุชนและเด็กเยาวชนได้ศึกษาและประพฤติตาม แต่กลับมาถูกลบทิ้งโดยไม่มีการเก็บรายละเอียดไว้เลย
ชาวบ้านรายหนึ่งเล่าว่า ภาพเขียนดังกล่าวน่าจะมีอายุประมาณ 30-40 ปี โดยเมื่อตอนที่ตนยังเด็กๆ อายุ 5-6 ขวบ มาที่วัดก็เห็นอยู่แล้ว อายุภาพเขียน 30-40 ปีทรงคุณค่าทางจิตใจของชาวบ้านบุญยืน ซึ่งการบูรณะซ่อมแซมไม่เหลือร่องรอยดั้งเดิมอาจถือเป็นการทำลาย
“ที่สำคัญยังพบว่าภายในพระอุโบสถ เช่น ใต้ฐานพระประธาน และที่ฝังลูกนิมิตใจกลางพระอุโบสถ มีร่องรอยเหมือนถูกขุดเอาของมีค่าออกไป โดยมีรอยปูนใหม่โบกทับไว้ด้วย โดยเฉพาะที่ฝังลูกนิมิตที่คนโบราณจะเอาแก้วแหวนเงินทอง ของใช้มีค่า พระเครื่องบรรจุไว้ และที่ใต้ฐานพระก็เช่นกัน ซึ่งควรตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย”
นายบรรจบ ใจหล้า ไวยาวัจกร ผู้ทำธุระแทนพระสงฆ์ ประจำวัดบุญยืน พระอารามหลวง กล่าวว่า ทางวัดกับกรมศิลปากรติดต่อพูดคุยกันตลอดผ่านทางคณะกรรมการวัดที่มีประมาณ 14 คน แต่ที่มาทำงานจริงๆ มีประมาณ 3-4 คน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้บอกกล่าวชาวบ้านจริงๆ ก่อนจะทำ เพราะคิดว่าวัดดังกล่าวขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ทุกอย่างก็ต้องขึ้นต่อกรมศิลป์ที่จะตัดสินใจทำอะไร ส่วนงบประมาณบูรณะซ่อมแซมครั้งนี้มีจำนวน 16 ล้านบาท
นางธัญพร คำแท่น ผู้ใหญ่บ้านบุญยืน กล่าวว่า จากนี้ไปคงต้องเชิญชาวบ้านและวัด รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาประชุมหารือกันว่าจะแก้ไขอย่างไรต่อไป ซึ่งจะต้องให้ทางกรมศิลปากรส่งตัวแทนเข้าร่วมประชุมพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านในวันที่ 20 เมษายน 2555 นี้ เวลา 10.00 น. ณ วัดบุญยืนด้วย
