รมต.แรงงานเตือนนายหน้าอย่าขูดรีดค่าหัวแรงงานไปอิสราเอล ลั่นต่อไปรัฐจัดส่งเอง

อุดรธานี - รมต.แรงงาน เปิดโครงการคลายทุกข์ สร้างสุข พร้อมมอบนโยบายการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานอิสราเอล เตือนบริษัทจัดหางานอย่าขูดรีดค่าหัวแรงงาน เป็นการซ้ำเติมคนยากจน ประกาศต่อไปแรงงานที่จะไปขุดทองอิสราเอลรัฐจัดส่งเองไม่ต้องกู้เงินเป็นค่าหัวให้นายหน้า

วันนี้ (27 มี.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการคลายทุกข์ สร้างสุข โดยมีแรงงานที่ลงทะเบียนไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลจำนวน 1,500 คน เข้าร่วมงาน

นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า จากสถานการณ์ความต้องการแรงงานภาคเกษตรในประเทศอิสราเอลเป็นจำนวนมาก ทำให้กลุ่มมิจฉาชีพที่แอบแฝงในคราบสาย มีช่องทางหารายได้ โดยหลอกลวงคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อตรวจสอบย้อนหลัง 3 ปี พบว่า ที่จังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดที่มีคนหางานเดินทางไปทำงานมากที่สุด

ในขณะเดียวกัน ก็เป็นจังหวัดที่มีคนหางาน ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือจากการถูกหลอกลวงมากที่สุดเช่นกัน กรมการจัดหางาน ได้ตระหนักถึงปัญหาการหลอกลวงคนไปทำงานต่างประเทศ จึงได้จัดโครงการคลายทุกข์สร้างสุข เพื่อดำเนินการให้ความรู้เกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ หลังจากเปิดโครงการแล้วเสร็จได้กล่าวมอบนโยบายในเรื่อง แนวโน้มการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในต่างประเทศตามนโยบายของรัฐบาลว่า ที่ผ่านมา คนหางานจำนวนไม่น้อยมาร้องทุกข์กับกรมจัดหางาน กรณีกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลวงโดยการชักชวนไปทำงาน และอ้างว่าสามารถส่งคนไปทำงาน ในต่างประเทศโดยอ้างรายได้ที่สูงเกินจริง หรือไม่มีอยู่จริง ซึ่งส่วนใหญ่จะมีหมายที่มีอาชีพเป็นเกษตรกรต่างจังหวัดและมีฐานะยากจน เนื่องจากเห็นว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่ต้องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม

ดังนั้น ราษฎรกลุ่มนี้จึงเป็นกลุ่มที่เสี่ยงต่อการถูกหลอกลวงมาที่สุด โดยเฉพาะราษฎรในภาพอีสานและภาคเหนือ ฉะนั้น เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาการหลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประเทศ กระทรวงแรงงานโดยกรมจัดหางานจึงได้จัดทำโครงการคลายทุกข์ สร้างสุข ซึ่งเป็นการดำเนินการป้องกันหลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประเทศในเชิงรุก

โดยการส่งเจ้าหน้าที่ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ราษฎร เกี่ยวกับขั้นตอน และวิธีการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และกลวิธีการหลอกลวงของบรรดากลุ่มมิจฉาชีพที่แอบแฝงในคราบสาย หรือนายหน้าจัดหางานเถื่อน นอกจากนี้ ยังเป็นการกระตุ้นและสร้างความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในองค์กรท้องถิ่น ให้มีส่วนร่วมป้องกันการหลอกลวงคนในหมู่บ้าน หรือชุมชน และเพื่อสร้างความคุ้นเคย รวมทั้งความไว้ใจให้แก่ราษฎรและคนหางานให้เข้ามาบริการของหน่วยงานภาครัฐมากกว่าจะไปพึ่งสาย นายหน้าจัดหางาน ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง
 
นายเผดิมชัย กล่าวต่อว่า ทางกระทรวงแรงงาน ให้ความสำคัญต่อปัญหาของแรงงานที่เดินทางไปทำงานต่างประเทศมาก เพราะว่าเป็นกลุ่มคนที่สามารถนำเงินรายได้เข้าประเทศได้ปีละเป็นจำนวนมาก แรงงานของประเทศไทยเป็นที่ต้องการของหลายๆ ประเทศ ปัญหาการจัดหางานที่ประเทศอิสราเอล ซึ่งตนเองได้รับการร้องเรียนจาก ส.ส.ในพื้นที่ว่ามีคนงานในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีได้รับความเดือดร้อนจากการที่บริษัทจัดหางานเรียกเก็บค่าหัวแพง คนละ 2-3 แสนบาทต่อคน

เมื่อเดินทางไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ครบสัญญาแล้ว ไม่เหลือเงินเลย และเมื่อคราวที่ลงพื้นที่เมื่อการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ตนก็ได้ไปพบกับชาวบ้าน มีการพูดคุยปัญหา จนได้รายละเอียด เห็นว่า เป็นเรื่องที่เอาเปรียบคนงานเกินไป จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว

นอกจากนี้ นายเผดิมชัย ยังบอกฝากไปยังบริษัทจัดหางานทุกแห่งที่จัดส่งแรงงานไทยไปประเทศอิสราเอล ที่เรียกเก็บค่าหัวรายละเป็นแสนๆ บาท ขอให้เลิกทำเสีย เพราะต่อไปนี้ทางกรมแรงงานจะทำการจัดส่งแรงงานไทย โดยเฉพาะที่ไปทำงานในภาคการเกษตร จะทำการจัดส่งในระบบรัฐต่อรัฐ โดยคนงานที่จะไปทำงานประเทศอิสราเอล ไม่ต้องไปกู้หนี้ยืมสินนอกระบบอีกต่อไป สำนักงานประกันสังคม จะเป็นแหล่งเงินกู้ให้กับคนงานดังกล่าวที่เป็นค่าใช้จ่ายตามความเป็นจริง

จากนั้น นายเผดิมชัย ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับผู้ลงทะเบียนไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล แล้วเดินทางต่อไปที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพนงาน อำเภอหนอหาน จังหวัดอุดรธานีเพื่อพบปะพูดคุยกับครอบครัวแรงงานไทยที่เคยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล