ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดภาค 5 ระบุ สถานการณ์และแนวโน้มยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือยังส่อเค้าหนัก แม้ปีนี้จับกุมคดีสำคัญได้เฉียดร้อยคดี ยึดยาบ้ากว่า 12 ล้านเม็ด รวมทั้งไอซ์ เฮโรอีน และฝิ่น อีกเป็นจำนวนมาก ย้ำ ทุกฝ่ายต้องผนึกกำลังสกัดกั้น ขณะที่รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และ ผอ.ป.ป.ส.ภาค 5 เผย ยังไม่มีการออกหมายจับเพิ่มคดีพบการเบิกจ่ายยาแก้หวัดสารตั้งต้นยาเสพติดผิดปกติในโรงพยาบาลที่เชียงใหม่ แต่ยันกำลังเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนเต็มที่
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ตำรวจภูธรภาค 5 พลตำรวจตรีชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เป็นประธานประชุมศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดภาค 5 ครั้งที่ 2/2555 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยในการประชุมมีการรายงานสรุปผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ภาค 5 ในช่วงที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 255 ระหว่างวันที่ 1 ต.ค.54-20 มี.ค.55 มีทั้งสิ้น 78 คดี ผู้ต้องหา 123 คน และมีการวิสามัญ 7 คน สามารถยึดของกลางสำคัญเป็นยาเสพติด ประกอบด้วย ยาบ้า 12,757,794 เม็ด ไอซ์ 244.26746 กิโลกรัม เฮโรอีน 190.3 กิโลกรัม และฝิ่น 2 กิโลกรัม ขณะที่สถานการณ์และแนวโน้มยาเสพติดนั้น รายงานในที่ประชุมระบุว่าจากข้อมูลการข่าวพบว่าสถานการณ์และแนวโน้มยังคงมีความรุนแรง ซึ่งประธานได้เน้นย้ำทุกฝ่ายผนึกกำลังกันในการสกัดกั้น
ในส่วนความคืบหน้ากรณีพบความผิดปกติเกี่ยวกับการสั่งซื้อและเบิกจ่ายยาแก้หวัดที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดได้ของโรงพยาบาลดอยหล่อและโรงพยาบาลฮอด จังหวัดเชียงใหม่นั้น รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ป.ป.ส.และดีเอสไอ ได้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบพบความผิดปกติ 2-3 เรื่อง
สำหรับที่โรงพยาบาลดอยหล่อ พบว่า หัวหน้าเภสัชกรมีการสั่งจ่ายยาดังกล่าวด้วยตัวเอง ซึ่งทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดีแล้ว อย่างไรก็ตาม ยังมีการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลดังกล่าวแต่อย่างใด โดยต้องรอผลการสอบสวนก่อน และคดีนี้อาจมีการโอนให้ดีเอสไอเข้ามาดำเนินการต่อ ขณะที่การเข้าตรวจสอบโรงพยาบาลอื่นๆ นั้น จะต้องรอข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการองค์การอาหารและยา (อย.) เสียก่อน จึงจะดำเนินการได้
ขณะเดียวกัน พลตำรวจตรี ชำนาญ กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมยาเสพติดทำการจับกุมผู้กระทำผิดแต่ไม่ดำเนินคดีและเก็บของกลางไว้เองว่า ในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 5 ไม่ปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ได้มีการเน้นย้ำกำชับในเรื่องนี้อยู่เสมอ เช่นเดียวกับการกำชับไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องและพัวพันกับยาเสพติดโดยเด็ดขาด
ด้าน นายวิชัย ไชยมงคล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 กล่าวถึงความคืบหน้าการสืบสวนดำเนินคดียาแก้หวัดที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ว่า วันนี้(22 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 5 ได้ร่วมกันประชุมพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อดำเนินการกับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ โดยใช้ พ.ร.บ.มาตรการปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2534 ที่ว่าด้วยการสมคบกระทำความผิด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 2 ราย