พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยนายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะทำงานป้องกันปราบปรามฟื้นฟูและเยียวยาด้านยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกันแถลงผลการดำเนินการสอบสวนการรั่วไหลผิดปกติของสาร "ซูโดอีเฟดรีน" ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด
พล.ต.ท.จรัมพร ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบการกระทำความผิดยืนยันได้แล้วว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเจ้าหน้าที่ควบคุมคลังยาเกี่ยวข้อง โดยเป็นกระทำผิดในหลายลักษณะ อาทิ การแจ้งยอดบัญชีเท็จ และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบในเชิงลึกพบว่า เภสัชกรของ ร.พ.อุดรธานี มีส่วนเกี่ยวข้อง เบื้องต้น ได้ยึดบัญชีการสั่งจ่ายยา และสั่งอายัดทรัพย์สินไว้แล้ว และจากการตรวจสอบยังพบด้วยว่า 3 โรงพยาบาลในจังหวัดศูนย์อุดรธานี กาฬสินธุ์ และอุตรดิตถ์ มีลักษณะการกระทำผิดที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า จะเข้าไปตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
ด้านนายพสิษฐ์ ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งระงับการนำเข้ายาที่มีสารซูโดอินเฟรดรีน เป็นส่วนผสมจากประเทศทั้งหมดแล้ว พร้อมให้โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศ ส่งตัวเลขการเบิกจ่ายยามาที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำการเปรียบเทียบกับจำนวนตัวเลขของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อหาความผิดปกติ พร้อมระบุว่า เบื้องต้นพบว่าโรงพยาบาลที่มีการสั่งยามากเกินปกติมีจำนวนกว่า 10 โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งจะต้องตรวจสอบการสั่งยามากผิดปกตินั้น เกิดจากสาเหตุใด ยืนยัน หากพบเจ้าหน้าที่รัฐคนใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด โทษอาจจะถึงไล่ออกจากราชการ
นอกจากนี้ นายพสิษฐ์ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นนั้น มีการจ่ายยาให้กับผู้ป่วยนอกมากกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถิติการนำเข้าของสารซูโดอีเฟดรีน พบว่าในปี 2553 มีสั่งนำเข้าจำนวน 39 ตัน ปี 2554 จำนวน 25 ตัน และปี 2555 สั่งลดลงเหลือเพียง 12 ตัน ซึ่งมีแนวโน้มการสั่งลดลงอย่างต่อเนื่อง
พล.ต.ท.จรัมพร ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบการกระทำความผิดยืนยันได้แล้วว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเจ้าหน้าที่ควบคุมคลังยาเกี่ยวข้อง โดยเป็นกระทำผิดในหลายลักษณะ อาทิ การแจ้งยอดบัญชีเท็จ และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบในเชิงลึกพบว่า เภสัชกรของ ร.พ.อุดรธานี มีส่วนเกี่ยวข้อง เบื้องต้น ได้ยึดบัญชีการสั่งจ่ายยา และสั่งอายัดทรัพย์สินไว้แล้ว และจากการตรวจสอบยังพบด้วยว่า 3 โรงพยาบาลในจังหวัดศูนย์อุดรธานี กาฬสินธุ์ และอุตรดิตถ์ มีลักษณะการกระทำผิดที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่า จะเข้าไปตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
ด้านนายพสิษฐ์ ระบุว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งระงับการนำเข้ายาที่มีสารซูโดอินเฟรดรีน เป็นส่วนผสมจากประเทศทั้งหมดแล้ว พร้อมให้โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศ ส่งตัวเลขการเบิกจ่ายยามาที่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำการเปรียบเทียบกับจำนวนตัวเลขของคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อหาความผิดปกติ พร้อมระบุว่า เบื้องต้นพบว่าโรงพยาบาลที่มีการสั่งยามากเกินปกติมีจำนวนกว่า 10 โรงพยาบาลแล้ว ซึ่งจะต้องตรวจสอบการสั่งยามากผิดปกตินั้น เกิดจากสาเหตุใด ยืนยัน หากพบเจ้าหน้าที่รัฐคนใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด โทษอาจจะถึงไล่ออกจากราชการ
นอกจากนี้ นายพสิษฐ์ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เกิดปัญหาความรุนแรงเกิดขึ้นนั้น มีการจ่ายยาให้กับผู้ป่วยนอกมากกว่าปกติ
อย่างไรก็ตาม สำหรับสถิติการนำเข้าของสารซูโดอีเฟดรีน พบว่าในปี 2553 มีสั่งนำเข้าจำนวน 39 ตัน ปี 2554 จำนวน 25 ตัน และปี 2555 สั่งลดลงเหลือเพียง 12 ตัน ซึ่งมีแนวโน้มการสั่งลดลงอย่างต่อเนื่อง
