ดีเอสไอ เดินหน้าขุดคุ้ยขบวนการค้ายาเสพติด เครือข่ายขาใหญ่คุกระยอง ที่เชื่อว่า ยังมีเงินสดอีก 800-1,000 ล้านบาท ซุกซ่อนอยู่ โดยอยู่ระหว่างการหาแหล่งที่ซ่อนเงิน พร้อมเตรียมยกเคสนี้ เป็น “ชลบุรีโมเดล” ให้ ป.ป.ส.และดีเอสไอ ได้ศึกษา
วันนี้ (15 ก.พ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำจังหวัดระยอง หลังแนวทางการสืบในทางลับ ทราบว่า มีทรัพย์สินอีก 1,000 กว่าล้านบาทว่า ได้สั่งการให้ นายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออก ดีเอสไอ สืบสวนหาความเชื่อมโยงกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการค้ายาเสพติดของ นายไกรฤกษ์ นาคปฐม นักโทษคดียาเสพติดรายสำคัญทุกระดับชั้น ตั้งแต่ผู้สั่งการ ผู้ร่วมปฏิบัติ และเครือข่ายทุกคน ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ที่อยู่ในขบวนการของ นายไกรฤกษ์ หากการสืบสวนเชื่อมโยงถึงใคร ให้ดำเนินคดีข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าอายัดทรัพย์มาตรวจสอบ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลตรวจสอบแหล่งที่คาดว่า เป็นที่ซุกซ่อนเงินสดของเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไกรฤกษ์ หลังการสืบสวนในการลับ พบว่า นายไกรฤกษ์ ยังมีเงินสดอีกประมาณ 800-1,000 ล้านบาท
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าอายัดทรัพย์สินของเครือข่าย นายไกรฤกษ์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ส่วนกลาง ได้ถอดรูปแบบการกระทำผิดของเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว เป็นกรณีศึกษา เป็นชลบุรีโมเดล ให้สำนักงาน ป.ป.ส.ทุกภาค และดีเอสไอ เป็นแนวทางในการดำเนินคดีข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อเปิดทางไปสู่การอายัดทรัพย์สิน ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดของยาเสพติดในภาคตะวันออก เชื่อว่า จะดีขึ้น หลังรัฐบาล และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริงเอาจังในการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนแจ้งเบาะแสขบวนการค้ายาเสพติดกับภาครัฐ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหน่วยปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ได้เป็นการแย่งงาน เป็นการช่วยกันจัดการกับกลุ่มอาชญากรร้ายแรงที่เป็นภัยร้ายต่อสังคมและมวลมนุษยชาติให้ได้ เชื่อว่า มาตรการยึดทรัพย์สินจะเป็นมาตรการตัดตอน ตัดแขนตัดขาขบวนการค้ายาเสพติด โดยดีเอสไอจะมุ่งมั่นปราบปราม
วันนี้ (15 ก.พ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำจังหวัดระยอง หลังแนวทางการสืบในทางลับ ทราบว่า มีทรัพย์สินอีก 1,000 กว่าล้านบาทว่า ได้สั่งการให้ นายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออก ดีเอสไอ สืบสวนหาความเชื่อมโยงกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการค้ายาเสพติดของ นายไกรฤกษ์ นาคปฐม นักโทษคดียาเสพติดรายสำคัญทุกระดับชั้น ตั้งแต่ผู้สั่งการ ผู้ร่วมปฏิบัติ และเครือข่ายทุกคน ทั้งรายใหญ่และรายย่อย ที่อยู่ในขบวนการของ นายไกรฤกษ์ หากการสืบสวนเชื่อมโยงถึงใคร ให้ดำเนินคดีข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อเป็นช่องทางในการเข้าอายัดทรัพย์มาตรวจสอบ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลตรวจสอบแหล่งที่คาดว่า เป็นที่ซุกซ่อนเงินสดของเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไกรฤกษ์ หลังการสืบสวนในการลับ พบว่า นายไกรฤกษ์ ยังมีเงินสดอีกประมาณ 800-1,000 ล้านบาท
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าอายัดทรัพย์สินของเครือข่าย นายไกรฤกษ์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ส่วนกลาง ได้ถอดรูปแบบการกระทำผิดของเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว เป็นกรณีศึกษา เป็นชลบุรีโมเดล ให้สำนักงาน ป.ป.ส.ทุกภาค และดีเอสไอ เป็นแนวทางในการดำเนินคดีข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเพื่อเปิดทางไปสู่การอายัดทรัพย์สิน ส่วนสถานการณ์แพร่ระบาดของยาเสพติดในภาคตะวันออก เชื่อว่า จะดีขึ้น หลังรัฐบาล และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเอาจริงเอาจังในการปราบปรามขบวนการค้ายาเสพติดอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนแจ้งเบาะแสขบวนการค้ายาเสพติดกับภาครัฐ โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหน่วยปราบปรามยาเสพติดโดยเฉพาะ ซึ่งไม่ได้เป็นการแย่งงาน เป็นการช่วยกันจัดการกับกลุ่มอาชญากรร้ายแรงที่เป็นภัยร้ายต่อสังคมและมวลมนุษยชาติให้ได้ เชื่อว่า มาตรการยึดทรัพย์สินจะเป็นมาตรการตัดตอน ตัดแขนตัดขาขบวนการค้ายาเสพติด โดยดีเอสไอจะมุ่งมั่นปราบปราม
