ดีเอสไอขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงินของขาใหญ่คุกระยอง อายัดทรัพย์สินได้กว่า 100 ล้านบาทแล้ว พร้อมเตรียมตรวจสอบบัญชีแบงก์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกว่า 200 บัญชี เชื่อ เครือข่ายขาใหญ่คุกระยองมีทรัพย์สินรวมกันถึงพันล้านบาท
วันนี้ (14 ก.พ.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีเอสไอ พ.ต.ท.กรวัชร ปานประภากร ผบ.สำนักคดีพิเศษภาค ดีเอสไอ พ.ต.ท.พเยาว์ ทองเสน ผบ.สำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ นายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผอ.ศูนย์ปฎิบัติการคดีพิเศษภาคตะวันออก ดีเอสไอ ร่วมแถลงข่าวแนวทางการขยายผลอายัดทรัพย์สินเครือข่ายยาเสพติดของนายไกรฤกษ์ นาคปฐม อายุ 44 ปี นักโทษคดียาเสพติดในเรือนจำจังหวัดระยอง หลังสนธิกำลังตำรวจ ป.ป.ส.ปปง.เข้าอายัดทรัพย์สินว่า หลังจากการสนธิกำลังเข้าอายัดทรัพย์สินของเครือข่าย นายไกรฤกษ์ นาคปฐม อายุ 44 ปี นักโทษจำคุกตลอดชีวิตคดียาเสพติดรายสำคัญ ล่าสุดมียอดทรัพย์สินของเครือข่ายนายไกรฤกษ์ ที่ถูกอายัดเป็น 100 ล้านบาทแล้ว แยกเป็น เงินสด 2 ล้านบาท ทองคำแท่งหนัก 30 บาท ทองรูปพรรณหนัก 15 บาท เงินในบัญชีธนาคาร 53 ล้านบาท รถยนต์ 18 คัน จยย.15 คัน บ้านและที่ดิน 1 หลัง และที่ดิน 12 แปลง
นายธาริต กล่าวอีกว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคารของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง ประมาณ 200 บัญชี ที่ถูกเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) อายัดบัญชีไว้ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน( ปปง.)จะตรวจสอบความเชื่อมโยงของเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว หากเจ้าของบัญชีธนาคารไม่สามารถชี้แจงที่มาของจะถูกยึดทรัพย์ทันที
ขณะเดียวกัน จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า เครือข่ายยาเสพติดของ นายไกรฤกษ์ ยังมีทรัพย์สินอีกประมาณ 800-1,000 ล้านบาท เบื้องต้นดีเอสไอจะรวบรวมพยานหลักฐานเข้าอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมอีกครั้งประมาณ 50-100 ล้านบาท ในส่วนของผู้ต้องหาเครือข่ายค้ายาเสพติดของนายไกรฤกษ์ ดีเอสไอ ได้ออกหมายจับ 6 ราย ตามจับตัวได้ 4 ราย โดยล่าสุดสืบทราบที่กบดานของ น.ส.ปราณี บัวขาว ที่ทำหน้าที่ชักจูงให้บุคคลอื่นเปิดบัญชีธนาคารจนหลายคนผันตัวเป็นสมาชิกในเครือข่ายค้ายาเสพติดดังกล่าว ทางญาติของ น.ส.ปราณี ได้ติดต่อขอนำเข้ามอบตัวใน 2-3 วัน หากไม่มาจะตามจับต่อไป