ศูนย์ข่าวศรีราชา - DSI สนธิกำลัง ตำรวจภูธรภาค 2 ป.ป.ส.และปปง.กวาดล้างเครือข่ายยาบ้าภาคตะวันออก สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาและยึดทรัพย์ได้เกือบ 100 ล้านบาท
วันนี้ (13 ก.พ.) ที่ศูนย์สืบสวนภาค 2 จ.ชลบุรี นายคมสัน เอกชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) นายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผอ.ศูนย์ DSI ภาคตะวันออก พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. ร่วมกันแถลงข่าวหลังสนธิกำลังออกกวาดล้างจับกุมเครือข่ายยาบ้าแก๊งนายไกรฤกษ์ นาคปฐม ที่ถูกจับกุมและถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดระยอง และถูกย้ายไปคุมขังที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี ในขณะนี้
นายคมสันกล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน ประกอบด้วย DSI จากส่วนกลาง DSI จากภาคตะวันออก ตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ป.ป.ส. และปปง. บุกเข้าตรวจค้นและทำลายเครือข่ายยาบ้าดังกล่าว สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับและตรวจยึดทรัพย์สินจากเครือข่ายได้เป็นจำนวนมาก
การปฏิบัติการในครั้งนี้เพื่อเป็นการตัดตอนขบวนการค้ายาบ้าที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ให้ลดน้อยลงและหมดไป เนื่องจากสถานการณ์ยาบ้าในขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงต้องร่วมมือจากหลายๆ ฝ่ายเพื่อปราบปรามขบวนการยาบ้าดังกล่าว
ด้าน พล.ต.ท.ปัญญากล่าวว่า การสนธิกำลังในครั้งนี้เพื่อทำลายเครือข่ายยาบ้าในภาคตะวันออก ทั้งระยอง และชลบุรี โดยคนสั่งการมาจาก นช.ไกรฤกษ์ นาคปฐม ที่ถูกจำคุกที่ระยอง และย้ายไปควบคุมที่เรือนจำกลางเขาบิน จ.ราชบุรี โดยมีเครือข่ายกว่า 40 คน
ในวันนี้ได้ออกหมายจับกุมผู้กระทำผิดจำนวน 6 คน พร้อมบุกเข้าตรวจค้นรวมทั้งสิ้น 27 จุด ประกอบด้วย จ.ลำปาง 3 จุด จ.ระยอง 2 จุด และในจ.ชลบุรี 22 จุด โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่จากหลายๆฝ่ายกว่า 300 นาย จาก DSI ส่วนกลาง DSI จากภาคตะวันออก ชุดตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจภูธรจังหวัดระยอง ตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ป.ป.ส. ปปง. ทำให้ผลงานที่ดำเนินการครั้งนี้ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
พล.ต.ท.ปัญญากล่าวต่อไปว่า สำหรับผลงานที่ออกกวาดล้างในครั้งนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ประกอบด้วย นายพายัพ นาคปฐม นางณัชปภา นาคปฐม นายนนทนันท์ นาคปฐม น.ส.สุรางค์ บันเทิง และอีก 10 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอยู่ระหว่างสืบสวน
ส่วนทรัพย์สินที่ยึดได้ประกอบด้วย รถตู้ 1 คัน รถยนต์ 18 คัน จักรยานยนต์ 13 คัน เงินสด 1.8 ล้านบาท ทองคำ 30 บาท ที่ดิน 12 แปลง และเงินสดที่อยู่ในธนาคารจำนวน 53 ล้านบาท โดยรวมทรัพย์สินที่ยึดได้ในครั้งนี้เกือบ 100 ล้านบาท และพร้อมขยายผลเพื่อตัดตอนขยายการค้ายาบ้าดังกล่าวต่อไป เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีกหรือผู้ที่รู้จักและกำลังจะเข้าสู้ขบวนการนี้ล้มเลิกโครงการอย่างเด็ดขาด เพราะเจ้าหน้าที่จะทำการยึดทรัพย์ทุกสิ่งทุกอย่าง
พล.ต.ท.ปัญญากล่าวต่อว่า ขบวนการค้ายาบ้า มีการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน 7 ขั้นตอน คือ 1. ฝ่ายการตลาด 2. ฝ่ายส่งยาบ้า 3. ฝ่ายการเงิน 4. ฝ่ายกฎหมายที่ยื่นประกันตัวหรือต่อสู้ทางคดี 5. ฝ่ายติดตามหนี้สิน 6. ฝ่ายบังคับชำระหนี้ และ 7 . ฝ่ายองค์กรสั่งการ (จากเรือนจำ) โดยทุกฝ่ายจะแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน และในครั้งนี้เป็นการตัดขั้นตอนดังกล่าวลงไป
พ.ต.อ.ญาณพลกล่าวว่า การดำเนินการกวาดล้างขบวนการค้ายาเสพติดนั้นจะต้องเป็นการรวมพลังเพื่อต่อสู้กับภัยสงครามยาเสพติดดังกล่าวเพื่อให้ยาเสพติดลดน้อยลงหรือให้สิ้นซากไป และในครั้งนี้ก็สามารถจับกุมและยึดทรัพย์ได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ หากใครที่เข้าไปพัวพันหรือเกี่ยวข้องก็จะต้องถูกจับกุมและยึดทรัพย์ เพราะถือว่าเป็นผู้ร่วมในขบวนการดังกล่าวด้วย และที่สำคัญต้องการให้เห็นว่าใครที่มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็จะต้องตกเป็นผู้ต้องหาด้วย เช่น กรณีเปิดบัญชีก็ต้องถูกตรวจสอบและยึดทรัพย์ต่อไป
ด้าน น.ส.สุรางค์ บันเทิง หนึ่งในผู้ต้องหากล่าวว่า ตนถูก น.ส.ปราณี บัวขาว หลอกให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร จำนวน 3 บัญชี โดยได้ค่าจ้างในการเปิดบัญชีจำนวน 900 บาทเท่านั้น ส่วนเงินในบัญชีที่ทราบภายหลังว่ามีทั้งสิ้น 26 ล้านบาท ตนไม่ทราบว่ามาจากไหน และการเปิดบัญชีครั้งนี้ ก็ไม่ทราบว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย หากรู้ว่าผิดกฎหมายคงไม่กระทำอย่างแน่นอน และในวันนี้ทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ติดตามตัว และทราบจากข่าวว่าเป็นขบวนการค้ายาบ้าจึงได้เดินทางมามอบตัวในครั้งนี้