อุตรดิตถ์ - ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นั่งหัวโต๊ะแถลงผลคดีเภสัชกร รพ.ทองแสนขัน ลักลอบส่งยาแก้ไข้หวัดใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาบ้า เตรียมค้นแหล่งจำหน่ายสารเคมี ที่ใช้ในการผลิตยาเสพติด 6 แห่งในเชียงใหม่
รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งว่า พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายป้องกันปราบปราม ได้เดินทางมาติดตามผลขยายการสืบสวนสอบสวนในกรณีเภสัชกรลักลอบจำหน่ายยาแก้ไข้หวัด ที่นำไปใช้ในการผลิตยาบ้า ที่ห้องประชุม 2 ตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ ถนนอุตรดิตถ์เด่นชัย ตำบลงิ้วงาม อำเภอเมืองอุตรดิตถ์
ทั้งนี้ มี พล.ต.ต.พิเชษฐ วัฒนลักษณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์, นายไมตรี วิริยะ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 6 รวมถึงคณะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่และผู้เกี่ยวข้อง ตลอดทั้ง สื่อมวลชนรับฟังรายละเอียดเป็นจำนวนมาก
ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ฝ่ายป้องกันปราบปราม แถลงว่า ตามที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบและเข้าตรวจยึดเวชภัณฑ์ยี่ห้อซูโดอีเฟรดีน จำนวนมากในจังหวัดอุดรธานี และเชียงใหม่ ที่ต้องสงสัยว่าจะนำไปใช้ในการผลิตเป็นสารตั้งต้น สำหรับใช้ผลิตยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าและยาไอซ์
จากการสอบสวนสืบสวนขยายผล ทราบว่า วัตถุพยานที่ตรวจยึดมาได้ มีการสั่งจ่ายให้กับโรงพยาบาลทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นยาแก้หวัดยี่ห้อซูโดอีเฟรดีน จำนวน 924,000 เม็ด โดยนายธีรพงษ์ เอียมอ่อน เภสัชกร โรงพยาบาลทองแสนขัน
จังหวัดอุตรดิตถ์ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อพบว่า มีมูล จึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยและอาญา เพราะเป็นการกระทำความผิดทั้งต่อตำแหน่งหน้าที่ และ พ.ร.บ.ยา พร้อมกับได้แจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว
จากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า กล่องพัสดุที่ยึดได้จากจังหวัดเชียงใหม่ มีการระบุชื่อโรงพยาบาลทองแสนขัน ซึ่งมีการบรรจุสารซูโดอีเฟรดีน ที่ส่งมาจากกรุงเทพมหานคร ถึงโรงพยาบาลทองแสนขัน คาดว่า กล่องดังกล่าวน่าจะมีการนำส่งจากจังหวัดอุตรดิตถ์ไปยังนายอุดร การสมพรต ที่จังหวัดเชียงใหม่นั่นเอง
เจ้าหน้าที่ได้ขอหมายศาลไปตรวจค้น ที่บ้านพักของ นายอุดร ที่อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ พบกล่องพัสดุระบุว่าส่งมาจากจังหวัดอุดรธานี และระบุชื่อผู้รับข้างกล่องเป็นโรงพยาบาลทองแสนขัน และยังพบยาที่อยู่ในกล่องอีก จำนวน 10,000 เม็ด เป็นที่มาที่ไปของการขยายผลในคดีนี้
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจจุดต่างๆ ทุกแห่งที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ทั้งที่โรงพยาบาลทองแสนขัน และที่ร้านขายยาของเภสัชกรรายนี้ รวมถึงจะเข้าตรวจโรงงานที่มีการผลิตยาและติดตามเส้นทางของสารเคมีทุกชนิด รวมทั้งเวชภัณฑ์ที่สามารถนำไปสกัดเป็นสารตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดอย่างน้อย 6 แห่งในจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
พล.ต.ท.จรัมพร ยังได้กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า สำหรับการติดตามขยายผลการสืบสวนสอบสวนในขณะนี้ ดำเนินไปตามแนวทางโดยไม่มีแรงกดดัน และขณะนี้ทางตำรวจได้ออกหมายจับนายสมชัย รักยอดยิ่ง กับ นายอุดร การสมพรต เป็นผู้ต้องหาในคดีนี้แล้ว ว่ามียาวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 ซูโดอีเฟรดีนไว้ครอบครองเกินกำหนดและมีไว้เพื่อขาย