“ยิ่งลักษณ์” เปิดงานผู้ไทนานาชาติที่จังหวัดกาฬสินธุ์

กาฬสินธุ์- นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานเปิดงานผู้ไทนานาชาติ ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ท่ามกลางประชาชนและชาวผู้ไทร่วมงานกว่า 2 หมื่นคน พร้อมชื่นชมงานผู้ไทยนานาชาติเป็นตัวอย่างขยายเศรษฐกิจในอาเซียน

เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้ (10 มี.ค.) ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำสายนาเวียง ตำบลกุดสิม อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเป็นประธานเปิดงานผู้ไทนานาชาติ ครั้งที่ 1 ซึ่งจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยชาวผู้ไทอำเภอเขาวง นำโดย นายประเสริฐ บุญเรือง ส.ส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย เขตเลือกตั้งที่ 6 และกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท จากประเทศเวียดนาม ลาวและประเทศไทยร่วมกันจัดขึ้น

ทั้งนี้ เพื่อประกาศให้ทั่วโลกรู้ว่า กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท มีวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาหลายร้อยปียังคงอยู่ และรักษาเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งด้านภาษาพูด เครื่องแต่งกายและศิลปะการแสดงที่ไม่เหมือนใคร และร่วมกันสืบสาน อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมอันเป็นอัตลักษณ์ของชาวผู้ไทให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

อีกทั้งเป็นการยกระดับการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมรูปแบบใหม่จากระดับท้องถิ่นสู่ระดับสากล ตลอดจนเป็นการขับเคลื่อนงานสู่ความร่วมมือทางวิชาการ การค้าและการลงทุน ระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

ในวันนี้นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และกลุ่ม ส.ส.หญิงและชายพรรคเพื่อไทยภาคเหนือ กลาง อีสาน ยังได้แต่งกายในชุดผู้ไท ได้เรียกเสียงตบมือจากประชาชนและชาวผู้ไทที่เข้าร่วมงานกว่า 2 หมื่นคน

ภายหลังเปิดงานหญิงชาวผู้ไทกว่า 2 พันคน ซึ่งมาจากทุกสารทิศได้ร่วมกันฟ้อนผู้ไท ซึ่งได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและเทศที่เข้าร่วมงาน เพราะทั้งการแต่งกายและท่ารายรำในแต่ละพื้นที่จะไม่เหมือนกัน แต่ดนตรีที่มีปี่ผู้ไทได้สร้างจิตนาการถึงความเป็นอยู่

ในช่วงเย็นยังมีการแสดงแสดง สี เสียง ตำนานชาวผู้ไทโดยนักเรียนจากวิทยาลัยนาฏศิลป์ กาฬสินธุ์

ทั้งนี้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมความพยายามและแนวคิดในการจัดงานที่ได้จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยได้รวมเอา กลุ่มชาติพันธุ์ชาวผู้ไทยในประเทศไทย และยังมีผู้ไทยจากประเทศลาว ด้วยเครื่องแต่งกาย โดยเฉพาะภาษาที่สามารถสื่อสารถึงกันได้นับเป็นมิติใหม่ที่สามารสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ

รวมถึงการขยายผลทางด้านเศรษฐกิจในระดับอาเซียน เพราะกิจกรรมนี้ถือเป็นการเปิดประตูสู่มิตรภาพที่ไร้พรมแดน ซึ่งเชื่อว่า ในอนาคตจะมีการสานต่อในด้านการค้า สนับสนุนการขาย ที่จะทำให้เกิดธุรกิจในอนาคต

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินเที่ยวชมนิทรรศการของชาวผู้ไท ซึ่งได้ให้ความสนใจการทอผ้าของชาวผู้ไทย และผ้าไหมพรวาของชาวผู้ไทยกาฬสินธุ์ ต่อจากนั้น ได้เดินทางไปสำรวจปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ และเยี่ยมชมอุโมงค์ผันน้ำลำพะยังภูมิพัฒน์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมี นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่บริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ เพื่อเกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างสูงสุด โดยเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง ต้องบริหารจัดการอย่างทั่วถึงและให้ผ่านพ้นไปให้ได้