เชียงใหม่ - “วรวัจน์” รัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี นำขบวนรณรงค์แก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าที่เชียงใหม่ ระบุ นายกรัฐมนตรีกำชับสั่งการทุกภาคส่วนเร่งแก้ไขปัญหาให้เห็นผลภายใน 1 สัปดาห์ และต้องส่งรายงานทุกวัน ขณะที่สภาพเมืองเชียงใหม่วันนี้ (7 มี.ค.) ยังถูกหมอกควันคลุมหนาทึบ ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 พุ่งเฉียดทะลุ 200 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ไร้วี่แววลด
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและคุณภาพอากาศตามโครงการ NO BURN “หยุดเผาเพื่อลมหายใจ” ร่วมกับหม่อมหลวง ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเป็นการเริ่มต้นปฏิบัติโครงการรวมพลังร่วมแก้ปัญหาและเยียวยาผู้ประสบภัยจากวิกฤตหมอกควันด้วยพลังจิตอาสา ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนทั้ง 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้นำขบวนรถและเดินรณรงค์ เริ่มจากบริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ไปสิ้นสุดที่บริเวณลานประตูท่าแพ
ทั้งนี้ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนให้เสร็จสิ้นภายใน 1 สัปดาห์ โดยการประชุมดังกล่าว ได้สั่งการให้ตำรวจในพื้นที่รับผิดชอบดำเนินการกวดขันจับกุมผู้ลักลอบทำการเผาป่าทุกพื้นที่ หากฝ่าฝืนมีโทษให้จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท และได้ประสานกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล นำรถน้ำที่มีอยู่ช่วยออกมาฉีดล้างถนนและต้นไม้ทุกวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้สร้างความชุ่มชื้นให้กับอากาศ ทำให้กลุ่มควันและฝุ่นละอองเกิดการจับตัวและจางหายลง
ขณะเดียวกัน ให้มีการประสานขอความร่วมมือภาคการศึกษาให้มีการถ่ายทอดอบรมความรู้ถึงผลกระทบต่อสุขภาพจากการเผาทำลายป่า และผลกระทบระยะยาวต่อสุขภาพ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อให้เยาวชนถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้ปกครองต่อไป เพื่อลดการกระทำเรื่องการเผาทำลายป่าในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังได้ประสานให้ GISTDA หน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้มีการติดตามผลการดำเนินการ โดยบันทึกการถ่ายทางอากาศ รายงานจำนวนตำแหน่งจุดเกิดไฟป่าทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เพื่อติดตามผลการดำเนินงานอย่างใกล้ชิดและเป็นรูปธรรม โดยกำชับให้มีการรายงานประจำวันถึงผลการดำเนินงานทั้งหมดต่อนายกรัฐมนตรี
รายงานข่าวแจ้งว่า แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการออกทำกิจกรรมรณรงค์ต่างๆ มากมายเพื่อขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ไขและบรรเทาปัญหาหมอกควันและคุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ตลอดช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏว่า เกิดผลชัดเจนในการลดความรุนแรงของปัญหาลงแต่อย่างใด โดยวันนี้ (7 มี.ค.) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกหมอกควันปกคลุมหนาทึบเช่นเดิม และดูจะมากกว่าช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ซึ่งที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM10 ได้ 195.47 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และวัดค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ได้ 133 ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานและอยู่ในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน