ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุ สถานการณ์หมอกควันไฟป่าภาคเหนือรุนแรงยอดผู้ป่วยพุ่ง ก.สาธารณสุข สั่งเร่งสำรองเตียงรับแล้ว เตือนหากสภาพอากาศเลวร้ายให้กลุ่มเสี่ยงมาพักที่ รพ.ส่งเสริมสุขภาพ/ศูนย์พักพิงของ อปท.ชี้ ต้องหยุดเผาทันทีลดปริมาณหมอกควัน ส่วนระยะยาวแนะท้องถิ่นหารือจัดระเบียบการเผา หากหยุดเผาไม่ได้ให้จัดโซนเวียนเผาแทน
นายแพทย์ พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ระหว่างเป็นประธานในกิจกรรมรณรงค์ป้องกันภัยสุขภาพจากปัญหาหมอกควันในกลุ่มแกนนำอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ณ โรงพยาบาลชุมชนตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ในวันนี้ (6 มี.ค.) ว่า ปริมาณหมอกควันและฝุ่นละอองในพื้นที่ภาคเหนือถือว่าค่อนข้างรุนแรง โดยมีจำนวนสูงกว่าค่ามาตรฐานปกติราว 8 สัปดาห์แล้ว โดยในหลายพื้นที่มีความรุนแรงมาก เช่น ที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นต้น
จากสถานการณ์ดังกล่าว พบว่า ส่งผลให้ปริมาณผู้ป่วยในหลายพื้นที่เพิ่มมากขึ้น โดยที่จังหวัดพะเยา พบว่า มีสถิติผู้ป่วยโรคตาแดงเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เท่า เช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคถุงลงโป่งพองในพื้นที่จังหวัดพะเยา ลำปาง และ ลำพูน ที่เพิ่มขึ้น 5-6 เท่า ขณะที่ตัวเลขผู้ป่วยทั้งในกลุ่มของผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และโรคเกี่ยวกับหัวใจและหลอดเลือดในภาพรวมของพื้นที่ภาคเหนือเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 10-20% แล้ว
นายแพทย์ พรเทพ กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้รัฐมนตรีว่าการะทรวงสาธารณสุข และปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทั้งหมดเร่งทำการสำรองเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นแล้วประมาณ 10% นอกจากนี้ ยังอนุญาตให้ใช้พื้นที่ของโรงพยาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนสำหรับเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับเด็ก คนชรา และผู้ป่วยเรื้อรัง ในกรณีที่ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศมีค่าสูงกว่า 200 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ นายแพทย์ พรเทพ ระบุว่า ขอให้ประชาชนอาศัยการสังเกตสภาพแวดล้อมเพื่อประเมินสถานการณ์ความรุนแรงของปัญหาหมอกควัน โดยแนะนำให้สังเกตเสาไฟฟ้า หากสามารถมองเห็นเสาไฟฟ้าตั้งแต่ 4 ต้นขึ้นไป ถือว่าสภาพอากาศยังไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่หากมองเห็นเสาไฟฟ้าได้ต่ำกว่า 4 ต้น ถือว่าสภาพอากาศเริ่มเกินค่ามาตรฐาน ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง และพยายามอาศัยอยู่ภายในอาคาร พร้อมทั้งพยายามใช้การฉีดพ่นละอองน้ำ เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและดักจับฝุ่นที่ลอยอยู่ในอากาศ
แต่ถ้าประชาชนสามารถมองเห็นเสาไฟฟ้าได้เพียง 1-2 ต้น ถือว่าสภาพอากาศค่อนข้างวิกฤต ผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงควรย้ายมาพักพิงในพื้นที่ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเตรียมไว้รองรับประชาชน หรือเข้าไปพักพิงที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล
ด้านการดูแลสุขภาพของประชาชน นายแพทย์ พรเทพ กล่าวว่า หากจำเป็นต้องออกไปภายนอกบ้าน หรืออาคารในช่วงนี้ ควรใช้หน้ากากผ้าชุบน้ำหมาดๆ ปิดปากปิดจมูก ซึ่งจะช่วยดักจับฝุ่นละอองได้ดีอีกทั้งสามารถนำไปซักล้างและนำมาใช้ใหม่ได้อีกด้วย
ส่วนกรณีของการวางแผนอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ นายแพทย์ พรเทพ ชี้แจงว่า คงจะไม่มีการอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่ เพราะในขณะนี้พื้นที่ทั้งหมดต่างได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควันเช่นเดียวกัน แต่จะใช้การจัดเตรียมพื้นที่ของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือไปอยู่ในพื้นที่พักพิงที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจัดเตรียมขึ้น โดยในพื้นที่พักพิงจะมีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เครื่องกรองอากาศ รวมทั้งติดตั้งเครื่องฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดฝุ่นและเพิ่มความชุ่มชื้น
สำหรับท้องถิ่นใดที่ยังไม่ได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ดังกล่าว ควรเร่งดำเนินการเพื่อเตรียมไว้รองรับประชาชนหากเกิดปัญหา โดยจากข้อมูลการจัดเตรียมสถานที่พักพิงในหลายำพื้นที่ พบว่าใช้งบประมาณเพียง 1-2 หมื่นบาท เท่านั้น
อธิบดีกรมควบคุมโรคยังได้กล่าวถึงที่มาของปัญหาหมอกควันไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเผาในพื้นที่ โดยเฉพาะจากการที่ปีที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี ทำให้ไม่เกิดปัญหาหมอกควันขึ้น แต่กลับส่งผลให้เกษตรกรทำการเผากันมากในปีนี้ทดแทน ขณะที่เชื้อเพลิงในป่าก็เพิ่มจำนวนมากขึ้นจากการที่ไม่ถูกเผาไปในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้เมื่อเกิดไฟป่าก็จะมีความรุนแรงมากกว่าปกติ
สำหรับการแก้ไชปัญหาดังกล่าวนั้น อธิบดีกรมควบคุมโรค ระบุว่า ต้องขอร้องให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่หยุดการเผาโดยเด็ดขาดในช่วงนี้ อย่างไรก็ตาม เข้าใจว่า การเผาเป็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ รวมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของการประกอบอาชีพอีกด้วย ดังนั้น ในระยะยาว จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนในพื้นที่ควรจะต้องหารือกันเพื่อจัดระเบียบการเผาในพื้นที่ใหม่
ทั้งนี้ หากไม่สามารถงดเว้นการเผาได้ ก็ควรจัดแบ่งโซน หรือระยะเวลาในการเผา แล้วจึงทำการเวียนเผาในแต่ละจุดเพื่อไม่ให้ปริมาณหมอกควันเพิ่มสูงมากจนเกินค่ามาตรฐาน รวมทั้งควรเริ่มทำการเผาตั้งแต่เศษวัสดุทางการเกษตรหรือกิ่งไม้ใบไม้แห้งยังมีจำนวนไม่มากนัก เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงหากเกิดเหตุไฟป่าขึ้น
นอกจากนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค ยังได้ให้ความเห็นด้วยว่า แม้หลายพื้นที่ในภาคเหนือจะยังประสบกับปัญหาหมอกควันไฟป่าอย่างรุนแรง แต่สถานการณ์ในอีกหลายจุดก็ยังสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ตามปกติ อย่างเช่นที่จังหวัดเชียงใหม่ หลายจุดคุณภาพอากาศยังอยู่ในเกณฑ์ดี อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวที่ตัดสินใจจะมาท่องเที่ยวในช่วงนี้ ควรเตรียมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน ขณะที่ผู้ป่วยเรื้องรังก็ควรเตรียมยารักษาโรคไว้ให้พร้อมด้วยเช่นกัน