พระนครศรีอยุธยา - โรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ (Gulf) ร่วมกับ อบต.สามบัณฑิต เมืองกรุงเก่า จัดโครงการ ส่งเสริมศักยภาพชาวนาต้นแบบ "เกษตรกรรมยั่งยืน" อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันนี้ (6 มี.ค.55) นายมารุต แก้วงาม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ โรงไฟฟ้าอุทัย โรงไฟฟ้าในกลุ่มบริษัทกัลฟ์ และโรงไฟฟ้าอุทัย จัดโครงการ "ส่งเสริมศักยภาพชาวนา อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา" ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาและได้รับผลกระทบจากวิกฤตน้ำท่วม เนื่องจากโรงไฟฟ้าอุทัยได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาอาชีพ และการฟื้นฟูอาชีพเศรษฐกิจชุมชน หลังน้ำท่วม โดยน้อมนำแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและการทำการเกษตรแบบยั่งยืน ได้คัดเลือกเกษตรกรในพื้นที่ กว่า 200 คนเข้าร่วมโครงการฯ ผู้นำเกษตรต้นแบบ จัดกิจกรรมการอบรม ศึกษาดูงาน ที่โครงการที่ประสบผลสำเร็จ
เช่น โครงการในหลวงทำไร่ โครงการช่างหัวมัน อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ศูนย์เรียนรู้ โครงการหนองใหญ่ ตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ศูนย์เรียนรู้ชุมพรคาบาน่า และสวนคอนโดลุงนิล ปราชญ์เกษตร จ.ชุมพร เป็นต้น เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการได้รับความรู้และวิธีการบริหารจัดการตามแนวทางเกษตรพอเพียง การพึ่งตนเองในกระบวนการผลิตและการจัดการผลผลิตต่างๆ การทำปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ สมุนไพรไล่แมลง รวมทั้งการพัฒนาองค์กรชุมชน เป็นต้น
นอกจากการศึกษาดูงาน มีการรวมกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่อ.อุทัย จัดทำแปลงทดลองการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ และการใช้พื้นที่การเกษตรให้คุ้มค่าทางเศรษฐกิจมีรายได้เสริมตลอดทั้งปี เป็นต้นแบบให้ชุมชน ต่อไป
นายมารุต แก้วงาม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ โรงไฟฟ้าอุทัย เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าอุทัย มีนโยบายในการพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้าและท้องถิ่น ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนา และช่วงที่ผ่านมาเกิดภาวะน้ำท่วมจำเป็นต้องมีการฟื้นฟูอาชีพ เศรษฐกิจชุมชน รวมทั้งระบบนิเวศของผืนดินในการเกษตรกรรม
จึงจัดโครงการส่งเสริมศักยภาพเกษตรกร ชาวนาในพื้นที่ อ.อุทัย โดยร่วมกับองค์กรพัฒนาที่ชำนาญการด้านการเกษตร มาร่วมดำเนินการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต ของชุมชนโดยเน้นการเป็นต้นแบบตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สร้างองค์ความรู้สู่ชุมชน การทำแปลงทดลองและสร้างศูนย์การเรียนรู้ เพื่อถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆในท้องถิ่น เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
ว่าที่พันตรีแทน ทรงวรวิทย์ นายก อบต.สามบัณฑิต อ.อุทัย ผู้เข้าร่วมโครงการฯ กล่าวว่า กิจกรรมนี้ดีมากและเป็นการเปิดโลกทัศน์ของเกษตรกร ในพื้นที่ อ.อุทัย เราได้รับความรู้ใหม่ๆ เห็นถึงแนวทางการทำการเกษตรกรรมแบบยั่งยืน ซึ่งชาวบ้านเราทำกันแบบแบตามกระแสสมัยใหม่ ซึ่งต้องพึ่งพาสารเคมีเป็นหลัก และต้นทุนสูงขึ้นเรื่อยๆ เราไม่ได้คิดถึงเรื่องระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อม สภาพดินที่เสื่อมโทรมทุกๆ วัน และการสร้างมูลค่าเพิ่มในการจัดการที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ และการพึ่งตนเองของชุมชน
"โครงการนี้เป็นประโยชน์อย่างมากที่เราจะนำไปประยุกต์และส่งเสริมชุมชนในการพัฒนาอาชีพและทำเกษตรกรรม ทำนาอย่างมีคุณค่าและยั่งยืนต่อไป ขอขอบคุณโรงไฟฟ้าอุทัย แม้ว่าจะเป็นภาคธุรกิจเอกชน ยังให้ความสำคัญในการพัฒนาชุมชน พี่น้องเกษตรกรมาโดยตลอด"