กระบี่ - ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลม จ.กระบี่ เผย ศูนย์เรียนรู้ฯประสบปัญหาสถานที่คับแคบ หลังมีประชาชนเข้ามาศึกษาดูงานมากขึ้นเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตพอเพียง โดยเฉพาะในปี 54 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้มาศึกษาดูงานกว่า 256,000 คน ทำให้สถานที่ที่มีอยู่ไม่สามารถรองรับผู้เข้ามาศึกษาดูงานตัดสินใจขยายไปเปิดศูนย์แห่งใหม่ที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว ภายใต้ชื่อ “ศูนย์เรียนรู้แก้จนคนสหกรณ์”
นายสงวน มงคลศรีพันธ์เลิศ ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลม ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านเขากลม ต้องประสบปัญหาเรื่องสถานที่ไม่สามารถรองรับคนที่เข้ามาศึกษาดูงานจำนวนมากได้ เพราะแต่ละปีพบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะในปี 2554 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้มาศึกษาดูงานไม่รวมที่มาฝึกอบรม จำนวน 256,368 คน ซึ่งมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ ส่งผลให้สถานที่คับแคบ การจอดรถไม่สะดวก ประกอบกับทางศูนย์ไม่มีงบประมาณในการขยับขยายพื้นที่เพื่อรองรับจำนวนคนที่เพิ่มขึ้น มีเพียงเงินบริจาคเล็กๆ น้อยๆ จากผู้ที่มาศึกษาดูงานเท่านั้น
ซึ่งนอกจากคนไทยจะเข้ามาศึกษาดูงานแล้ว ยังมีชาวต่างชาติประเทศเพื่อนบ้านกลุ่มอาเซียน สนใจเข้ามาศึกษาดูงานด้วย เนื่องจากในต่างประเทศมีแต่เพียงการค้นคว้าวิจัย แต่ไม่มีการลงมือปฏิบัติจริง และชาวต่างชาติสนใจในวิถีชีวิตของคนไทยที่มีความเรียบง่าย บางคนลงทุนมาขอเรียนรู้อยู่ที่ศูนย์เป็นเวลาหลายวัน เพื่อที่จะศึกษาเรียนรู้วิถีแบบไทยๆ ซึ่งวิถีชีวิตของคนไทยสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี เพราะเรามีในสิ่งที่ต่างชาติไม่มี
นายสงวน เปิดเผยอีกว่า ตนได้รับการติดต่อประสานงานจากประชาชนที่มาศึกษาดูงานจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเคยเข้ามาทำการอบรมที่ศูนย์เมื่อปี54 จำนวนกว่า 1,000 คน ให้ไปเปิดศูนย์เรียนรู้ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเมื่อเร็วๆนี้ก็ได้เปิดสาขาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยใช้ชื่อ “ศูนย์เรียนรู้แก้จนคนสหกรณ์” ตั้งอยู่ที่สะพานเมืองใหม่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยตนเป็นประธานศูนย์ฯ แต่ก็ไม่ทิ้งศูนย์เรียนรู้ที่กระบี่ จะแบ่งเวลาเข้ามาดูแล และให้คนในพื้นที่ช่วยบริหาร
สำหรับศูนย์ฯที่แยกสาขาไปจากจังหวัดกระบี่นั้น เป็นศูนย์ขนาดใหญ่ เนื้อที่ 11 ไร่ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นอย่างดี รวมทั้งชาวบ้านในพื้นที่ โดยใช้ที่ดินที่ชาวบ้านได้รับจาก กรมธนารักษ์คนละ 2 ไร่ เป็นพื้นที่ แต่หลังผ่านการอบรมชาวบ้านบอกขอเพียงคนละ1 ไร่ก็พอ ที่เหลือให้คนอื่นที่เดือดร้อนเข้าไปร่วม แสดงให้เห็นว่าชาวบ้านเข้าใจถึงความพอพียง
จึงขอฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยกันหาวิธีการทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่ดีมีสุข ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่ที่ผ่านมามีโอกาสสูง ทั้งด้านการท่องเที่ยวยังมีธรรมชาติที่สวยงาม แต่หากไม่รู้จักรักษาก็จะทำให้เสื่อมโทรมได้ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้ความเจริญด้านการท่องเที่ยว และวิถีชีวิตของชาวบ้านสามารถไปด้วยกันได้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้การท่องเที่ยวของเรามีความยั่งยืน