บุรีรัมย์ - ธ.ก.ส.บุรีรัมย์ชะลอจ่ายเงินจำนำข้าวให้กับเกษตรกรกว่า 200 ราย เป็นเงินกว่า 100 ล้าน หลังพบมีการทุจริตลักลอบสวมสิทธิ์จำนำข้าว พร้อมเร่งตรวจสอบคาดแล้วเสร็จภายใน 15 วัน เผยปีนี้ต้องจ่ายเงินให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 6 พันล้าน มากเป็นประวัติการณ์
วันนี้ (29 ก.พ.) นายนิยม รัตนเย็นใจ ผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 ของรัฐบาล ตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.2554 จนถึงสิ้นสุดโครงการฯ ในวันที่ 29 ก.พ. 2555 ว่า ได้มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ นำใบประทวนมายื่นขอรับเงินที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั้งจังหวัดบุรีรัมย์ แล้วกว่า 66,500 ราย ปริมาณข้าวกว่า 320,000 ตัน ซึ่งในจำนวนนี้ทาง ธ.ก.ส.ได้ดำเนินการโอนเงินเข้าบัญชีให้กับเกษตรกรไปแล้วกว่า 5,900 ล้านบาท จากวงเงินที่จะต้องจ่ายทั้งสิ้นกว่า 6,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามยังมีเกษตรกรอีกกว่า 200 ราย ที่นำใบประทวนมาขึ้นเงินที่ธนาคาร ธ.ก.ส.แล้ว แต่ต้องชะลอการจ่ายเงินไว้ก่อนรวมกว่า 100 ล้านบาท เพราะมีกระแสข่าวว่ามีการทุจริตลักลอบสวมสิทธิ์จำนำข้าวในโครงการฯ ในบางพื้นที่ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลของคณะกรรมการฯ และเจ้าหน้าที่ ว่ามีปัญหาหรือข้อผิดพลาดในขั้นตอนไหน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 15 วัน เพื่อจะได้ดำเนินการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรที่เหลือดังกล่าวต่อไป
นายนิยม กล่าวอีกว่า จากยอดเกษตรกรที่มาเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวในปีนี้ พบว่ามากที่สุดเป็นประวัติการณ์กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยหากเปรียบเทียบกับการเปิดรับจำนำเมื่อปี 2551/52 มีเกษตรกรมาเข้าร่วมโครงการเพียง 22,310 ราย ปริมาณข้าว 69,328 ตัน ยอดเงินรับจำนำกว่า 1,025 ล้านบาท เชื่อว่าสาเหตุที่เกษตรกรมาเข้าร่วมโครงการฯเป็นจำนวนมากมากนั้น เนื่องจากราคารับจำนำจูงใจถึงตันละ 20,000 บาท
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีความพร้อมในการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังรอบใหม่ตามนโยบายรัฐบาล ที่จะเริ่มเปิดรับจำนำในวันที่ 1 มี.ค.2555 นี้เป็นต้นไป ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่าจังหวัดบุรีรัมย์มีพื้นที่เพาะปลูกข้าวนาปรังทั้งจังหวัดกว่า 74,000 ไร่ และจะมีผลผลิตกว่า 29,000 ตัน ซึ่งคาดว่าจะมีเกษตรกรสนใจเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังในปีนี้ไม่น้อยกว่า 5,000 ราย
สำหรับราคารับจำนำที่ประกาศไว้ คือ ข้าวเปลือกจ้าว 100 เปอร์เซ็นต์อยู่ที่ตันละ 15,000 บาท ข้าวเปลือกจ้าวปทุมธานีอยู่ที่ตันละ 16,000 บาท ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาวตันละ 16,000 บาท ส่วนข้าวเปลือกหอมมะลิยังไม่ได้กำหนดราคารับจำนำ เนื่องจากขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะทำงานพิจารณารับจำนำข้าวนาปรัง ปี 2555
พร้อมกันนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการฯ ไปแจ้งขึ้นทะเบียนการเป็นเกษตรกรได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอหรือเกษตรจังหวัดได้ ตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.- 31 พ.ค. นี้ และจะมีการทำประชาคมในวันที่ 20 ม.ค. 15 มิ.ย.จากนั้นจะทำการออกหนังสือรับรองการเป็นเกษตรกรในระหว่างวันที่ 20 ม.ค.- 30 มิ.ย. 2555