xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ป.ลุยสอบทุจริตจำนำข้าวเปลือกกาญจน์ พบมีนักการเมืองท้องถิ่น-นายทุนเงินกู้บงการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กาญจนบุรี - รรท.ผบก.ป.ป.ป.สนธิกำลังเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมการเกษตร และ ก.พาณิชย์ บุกสอบการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล หลังมีถูกร้องเรียนมีการทุจริตสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำข้าวเปลือก พร้อมเรียกเกษตรกรมาสอบปากคำ 4 ราย โดย 2 รายให้การรับสารภาพได้ร่วมขบวนการทุจริตจริง พร้อมแฉมีนายทุนชื่อ “จิ๋ม” เป็นทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและปล่อยเงินกู้นอกระบบผู้บงการอยู่เบื้องหลัง คาดมีข้าราชการมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (6 ก.พ.) พ.ต.อ.วิฑูรย์ สัตยเทวา รรท.ผบก.กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (ป.ป.ป.) พ.ต.อ.นิติพัฒน์ จารุเรืองพงศ์ รองผบก.ป.ป.ป., พ.ต.อ.จตุรงค์ เปรมศิริ ผกก.ป.ป.ป.พร้อมด้วยทีมพนักงานสอบสวนของ ป.ป.ป.ได้ร่วมกับ นายธวัชชัย โสภาเสถียรพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ นายสุชาติ สินรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบฯ กระทรวงพาณิชย์ นางอัจฉรา อุทโยภาศ ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตร เดินทางมาที่บริเวณสำนักงานเกษตรอำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมประสานนายอนันท์ ขุนทองเพชร เกษตรอำเภอท่าม่วง ให้ติดตามตัวเกษตรกรชาวนา 4 รายที่ถูกร้องเรียนว่าทุจริตสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาลโดยผิดกฎหมายมาสอบปากคำ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้มีการเปิดเผยรายชื่อเกษตรกทั้ง 4 ราย

พ.ต.อ.วิฑูรย์ เปิดเผยภายหลังว่า การเดินทางมาในวันนี้เพื่อสอบปากคำเกษตรกรทั้ง 4 รายที่อยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่ถูกร้องเรียนว่าทุจริตสวมสิทธิ์โครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ซึ่งจากคำพยานและแนวทางคำร้องได้ระบุว่า เกษตรกรทั้ง 4 รายมีส่วนในการกระทำการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกของรัฐบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัวมาสอบสวนปากคำเป็นรายบุคคล โดยใช้เวลาในการสอบสวนนานกว่า 4 ชั่วโมง โดยเกษตรกร 2 ใน 4 รายได้ให้การยอมรับสารภาพ โดยเกษตรกรรายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ชายได้เปิดปากยอมรับสารภาพ ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังชื่อ นางจิ๋ม ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง และเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบในเขตพื้นที่ ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง กระทำการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล โดยระบุว่า นางจิ๋ม เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด

“จากการสอบปากคำเกษตรกรทั้ง 2 ราย โดยรายแรกได้เปิดเผยกับเจ้าหน้าที่ ว่า มีอาชีพทำนา จริงๆ แล้วมีที่นาอยู่เพียงแค่ 5 ไร่เท่านั้น แต่ นางจิ๋ม ได้แนะว่า ถ้าอยากได้เงินเพิ่มมาใช้หนี้ก็ให้แจ้งยอดที่นา และจำนวนข้าวที่จะนำไปจำนำเพิ่มอีก 40 ไร่ รวมเป็น 45 ไร่ก็จะได้เงินเพิ่ม รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6 แสนกว่าบาท ส่วนอีกรายมีที่นาและทำนาจริงเพียงแค่ 5 ไร่ก็เพิ่มอีก 30 เป็น 35 ไร่ โดย นางจิ๋ม แนะนำว่า ไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่เซ็นชื่อกำกับในเอกสารการคำร้องก็พอ แต่พอได้เงินมาก็จะถูกหักตามความเป็นจริงเพียงแค่ 5 ไร่ ส่วนเงินส่วนต่างที่ได้ก็จะถูกหักเป็นค่าหักหนี้” พ.ต.อ.วิฑูรย์ กล่าว

พ.ต.อ.วิฑูรย์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรอีกหลายรายที่กระทำในลักษณะเดียวกันนี้ ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกษตรกรที่ไม่รู้กฎหมาย และถูกชักนำไปในทางที่ผิด หากผู้ใดพบหรือสงสัยให้โทร.ไปที่สายด่วน 1569 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะคอยให้บริการและชี้แนะให้

พ.ต.อ.วิฑูรย์ กล่าวต่ออีกว่า จากการให้ปากคำของ 2 เกษตรกร ที่ยอมรับสารภาพเชื่อว่ายังมีผู้ที่กระทำผิดในลักษณะแบบเดียวกันนี้อยู่อีกจำนวนหลายราย อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นต้องขอปิดไว้เป็นความลับโดยเฉพาะรายชื่อของเกษตรกรทั้ง 4 ราย ที่เราเชิญตัวมาสอบสวนเพื่อเป็นแนวทางสืบสวนสอบสวนหาผู้อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาเวลา 16.00 น. พ.ต.อ.วิฑูรย์ สัตยเทวา ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ธนู ฮอบประเสริฐ ผกก.สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เพื่อขอสถานที่ห้องประชุมของ สภ.เพื่อนำเกษตรกรทั้ง 2 ราย ไปทำการสอบสวนปากคำเพิ่มเติม หลังจากเกษตรกรทั้ง 2 ราย ได้ให้การยอมรับสารภาพถึงวิธีการกระทำทุจริตการรับจำนำข้าวเปลือก

มีรายงานข่าวแจ้งว่า การกระทำทุจริตสวมสิทธิในการรับจำนำข้าวเปลือกโครงการรัฐบาลครั้งนี้ นอกจาก “นางจิ๋ม” ซึ่งเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง และมีอาชีพหลักปล่อยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่จะอยู่เบื้องหลังแล้ว เจ้าหน้าที่คาดว่ามีข้าราชการของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องและทำกันเป็นขบวนการด้วย

สำหรับพฤติกรรมของ “นางจิ๋ม” นั้น นอกจากจะเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ ต.บ้านใหม่ อ.ท่าม่วง และมีอาชีพหลักปล่อยเงินกู้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่แล้ว เมื่อเกษตรกรรายใดที่กู้เงินนอกระบบจากนางจิ๋ม ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทไปแล้ว หากใครไม่มีเงินใช้หนี้หรือต้องการใช้ก็จะถูกชักนำไปในลักษณะนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น