เขมรซุ่มเปิด “กาสิโน” ชายแดน “ช่องสะงำ”- ดูดนักพนันไทยแห่เล่น

ศรีสะเกษ - ทหารไทยตั้งด่านตรวจเข้มยาเสพติด-สิ่งผิด กม.และชาวต่างชาติเข้าออกชายแดนไทย-กัมพูชา ด้าน “ช่องสะงำ” ป้องกันลอบเข้าเมืองก่อการร้าย แฉ เขมรซุ่มเงียบเปิดบ่อนกาสิโนในโรงแรมสร้างเสร็จแค่ 50% ติดชายแดนไทย ดูดนักพนัน-นักท่องเที่ยวแห่เล่น

วันนี้ (21 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ค่ายทหารกองร้อยทหารราบที่ 1612 จุดด่านตรวจทหารบ้านนาตำบล ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นเส้นทางสู่จุดผ่านแดนถาวรไทย- กัมพูชา ช่องสะงำ ทหารไทยได้มีการตรวจเข้มยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งการเดินทางเข้าออกชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้ามาเคลื่อนไหวก่อการร้ายในประเทศไทย

ขณะเดียวกัน ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ได้มีการย้ายที่ทำการด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากรทั้งของไทยและกัมพูชาจากที่ตั้งเดิม ซึ่งอยู่บนถนนลูกรังมา อยู่ที่ทำการใหม่ ริมถนนลาดยางด้านขาวมือ ห่างจากที่ตั้งเดิม ประมาณ 200 เมตร

นายหัตถชัย เพ็งแจ่ม ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าการท่องเที่ยวช่องสะงำ กล่าวว่า ถนนสายนี้เป็นถนนที่สร้างเสร็จมานานแล้ว และขณะนี้ได้มีการดำเนินการก่อสร้างโรงแรมระดับ 5 ดาว ในเขตประเทศกัมพูชา ล่าสุดทำการก่อสร้างไปได้เพียง 50% เท่านั้น ยังสร้างไม่แล้วเสร็จแต่ได้เปิดให้มีการเล่นกาสิโนมาแล้วร่วมเดือน ซึ่งพนักงานประจำกาสิโนส่วนหนึ่งย้ายมาจากกาสิโนชายแดนกัมพูชา ด้านด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม จ.สุรินทร์ โดยบ่อนกาสิโนแห่งนี้อยู่ห่างจากด่านช่องสะงำประมาณ 200 เมตรเท่านั้น มีนักท่องเที่ยวและนักการพนันเดินทางเข้าไปเล่นกาสิโนกันหนาแน่นทุกวัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองของไทย ไม่อนุญาตให้คนไทยนำกล้องบันทึกภาพเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา โดยอ้างว่า ประเทศกัมพูชาไม่อนุญาตให้นำเข้าไปถ่ายภาพทุกแห่ง ทั้งที่มีการเปิดเสรีการท่องเที่ยวแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มว่า แม้แต่รถทัวร์ท่องเที่ยวของประเทศไทย ทางประเทศกัมพูชาก็ไม่อนุญาตให้ข้ามแดนเข้าไปวิ่งในฝั่งกัมพูชาต้องทำการขนถ่ายนักท่องเที่ยวที่บริเวณจุดผ่านแดนช่องสะงำ ไปนั่งรถทัวร์ของประเทศกัมพูชาเท่านั้น ซึ่งได้สร้างความแปลกใจให้แก่นักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นอย่างมาก

เจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองรายหนึ่ง เปิดเผยว่า สาเหตุน่าจะมาจากที่ผ่านมามีการโจรกรรมรถยนต์เข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ตามแนวชายแดนด้านนี้เป็นจำนวนมาก จึงมีข้อตกลงร่วมกันห้ามรถยนต์จากประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถพวงมาลัยซ้ายเข้าไปยังประเทศกัมพูชา แม้แต่รถยนต์ส่วนตัวก็เข้มงวด ซึ่งทั้ง 2 ประเทศ กำลังจะมีการประชุมหารือในเรื่องการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบด่านสากลต่อไป