กมธ.ที่ดินฯลุยสอบสิทธิที่ป่า“กิ่วทัพยั้ง-ต้นน้ำแม่สลอง”ต่อ ชี้พิรุธเพียบ

เชียงราย - กรรมาธิการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินฯ เดินหน้าตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินเชียงรายต่อ ใช้ผลสอบยุค “ป.ป.ป.”สั่งยืดคืนที่ดิน 13,671 ไร่ เป็นเข็มทิศนำทาง หลังพบพิรุธหลายจุด ทำเรื่องยืดเยื้อร่วม 17 ปี

วันนี้(18 ก.พ.55) พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน การออกเอกสารสิทธิ์ และกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินและป่าไม้ สภาผู้แทนราษฎร ,นายนคร มาฉิม รองประธานฯ และคณะ ยังคงเดินหน้าตรวจการถือครองที่ดินที่เป็นปัญหาในพื้นที่เชียงราย ตามที่ ป.ป.ป.เคยแจ้งให้เพิกถอนสิทธิที่ดินหลายแห่งที่เป็นสาธารณประโยชน์ และบางแห่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ รวมทั้งชี้มูลความผิดข้าราชการ ประชาชน ไปจำนวนมากตั้งแต่ปี 2538 รวมทั้งเรื่องการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนและบุกรุกพื้นที่ส่วนป่ากิ่วทัพยั้ง และพื้นที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง จ.เชียงราย หลังจากมีการประชุมที่ศาลากลาง จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมาแล้ว

นายนคร เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการฯ ยังเดินหน้าเพื่อแก้ไขปัญหา เพราะลังจาก ป.ป.ป.หรือ ป.ป.ช. ในปัจจุบันได้มีมติให้เพิกถอนสิทธิที่ดิน 507 แปลง จำนวน 13,671 ไร่ ในพื้นที่ อ.แม่จัน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปแล้วนานร่วม 17 ปี แต่การดำเนินการทั้งหมดของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่บรรลุผลตามนั้น

หลังจากเข้ารับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่ดินแจ้งว่าได้มีการเพิกถอนสิทธิแล้วบางส่วนและจะรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการที่เหลือต่อคณะกรรมาธิการฯ อีกทุกระยะ ทำให้เป็นที่ยอมรับกันว่าเรื่องนี้มีความล่าช้าจริง จึงน่าสงสัยอย่างมาก แต่ก็ทราบกันว่าส่วนหนึ่งของปัญหาเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ที่ดินถูกฟ้องร้องจากผู้ถูกเพิกถอนสิทธินั่นเอง

นายนคร กล่าวว่า ส่วนสวนป่ากิ่วทัพยั้ง พื้นที่คาบเกี่ยว อ.เมือง และ อ.แม่จัน ซึ่งมีปัญหาอยู่จำนวน 49 ไร่นั้น จากการลงพื้นที่ยังมีข้อสงสัยหลายอย่างที่มีผู้พยายามปกปิดข้อมูลความจริงรวมถึงการถือครองที่ดินแทนนายทุน โดยมีเงื่อนงำว่า ทางเจ้าพนักงานอัยการ ได้ชี้มูลว่า มีความผิดในกรณีดังกล่าวจริง เพียงแต่ไม่มีการฟ้อง เพราะผู้ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีหรือครอบครองได้เสียชีวิตแล้ว

เรื่องนี้ถ้าจะว่ากันตามสามัญสำนึกแล้วก็ไม่ได้หมายความว่าที่ดินแปลงดังกล่าวออกเอกสารสิทธิ์โดยชอบธรรม เพียงแต่คู่กรณีได้เสียชีวิตไปแล้วเท่านั้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปดำเนินการเพื่อไม่ให้มีการบุกรุกถือครองป่าอีก แต่กลับปล่อยให้เกิดปัญหาจนถึงปัจจุบัน

"เมื่อได้เอกสารหลักฐานจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้ว ทางคณะกรรมาธิการฯ จะตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด นำคดีเหล่านี้มารื้อฟื้นทบทวนใหม่หมด เพื่อทวงคืนผืนป่าให้กับประเทศชาติให้ได้ และยังพบด้วยว่าการชี้มูลของ ป.ป.ป.ให้เพิกถอนกรรมาสิทธิ์ที่ดินจำนวนมากนั้นทราบว่า หลังการดำเนินการของ ป.ป.ป.ทางกรมที่ดินกลับตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาใหม่และมติในบางกรณีสวนทางกันว่าไม่มีความผิดอีก ซึ่งเรื่องนี้ทาง ป.ป.ช.จะต้องหยิบยกขึ้นมาพิจารณาใหม่อีกครั้งด้วย" นายนคร กล่าว

นายนคร ยังบอกด้วยว่า ในส่วนของพี่น้องประชาชนที่ทำมาหากินโดยสุจริตนั้นทางคณะกรรมาธิการฯ ไม่ได้กลั่นแกล้งแต่อย่าง จึงไม่ต้องเกรงกลัวใดๆ แต่ผู้ที่ทุจริต และประพฤติมิชอบนั้น ยืนยันว่า ทางคณะกรรมาธิการฯ จะติดตามอย่างเข้มข้น เพื่อให้เห็นว่าเรื่องที่ผิดก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย และหากยังไม่ได้รับความชัดเจนก็จะนำเรื่องเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลด้านกฎหมายให้มีความศักดิ์สิทธิ์ต่อไป