xs
xsm
sm
md
lg

กมธ.ลุยถอนเอกสารสิทธิคืนป่าเชียงราย 1.3 หมื่นไร่ ปชป.-“เอี้ยง” ซัดกันนัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน การออกเอกสารสิทธิ์ และกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินและป่าไม้ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมคณะเดินทางขึ้นเชียงราย ตรวจสอบการออกฉโนดทับที่ป่า ซึ่ง ป.ป.ป.เคยชี้มูลความผิดไว้ตั้งแต่เกือบ 20 ปีก่อน
เชียงราย - กรรมาธิการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินฯ ยกคณะขึ้นเชียงราย รื้อปัญหาออกโฉนดทับที่ป่ารวม 5 กรณี 1.3 หมื่นกว่าไร่ ทวงคืนผืนป่าให้แผ่นดิน หลัง ป.ป.ป.ชี้มูลตั้งแต่เกือบ 20 ปีก่อน แต่หลายเรื่องยังเงียบเป็นเป่าสาก แต่ผลประกฎห้องประชุมแทบแตก หลัง “เอี้ยง-ดำรงค์ พิเดช กับ ส.ส.ปชป.” เปิดฉากซัดกันนัว

วันนี้ (17 ก.พ.) ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลาง จ.เชียงราย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาแก้ไขปัญหาที่ดินทำกิน การออกเอกสารสิทธิ และกฎหมายเกี่ยวกับที่ดินและป่าไม้ สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดการประชุมเรื่องการหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนกรณีการบุรุกพื้นที่สวนป่ากิ่วทัพยั้ง และพื้นที่หน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง จ.เชียงราย และมีกำหนดการณ์เดินทางไปประชุมและศึกษาดูงานระหว่าง 17-18 ก.พ.55 นี้

คณะกรรมาธิการได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดย นายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย, นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, อัยการ-ที่ดินจังหวัด-ที่ดินอำเภอ-ฝ่ายปกครอง ฯลฯ เข้าร่วมให้ข้อมูลด้วย

พล.ต.ท.วิโรจน์ ระบุในที่ประชุม ว่า คณะกรรมาธิการ โดยสภาผู้แทนราษฎร ได้ดำเนินการศึกษาปัญหาป่าไม้ทั่วประเทศมาได้กว่า 2 เดือนแล้ว สามารถแก้ไขปัญหาได้หลายจังหวัด เช่น สุโขทัย สุรินทร์ อุบลราชธานี ชัยภูมิ ฯลฯ

พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวอีกว่า สำหรับเชียงราย พบว่า มีความน่าสนใจ เพราะทาง ป.ป.ป.ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2535-2536 จำนวน 5 เรื่อง คือ

1.เรื่องการออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์หรือ น.ส.3 ก.ทับพื้นที่สาธารณประโยชน์ที่ อ.เชียงแสน จำนวน 2 แปลงเนื้อที่ 20 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา จึงชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ที่ดินจำนวน 3 คน และแจ้งให้พนักงานที่ดิน และจังหวัดเพิกถอนทั้ง 2 ฉบับ

2.เรื่องการออก น.ส.3 ก.ทับพื้นที่สาธารณประโยชน์ ภูเขา และป่าสงวนแห่งชาติที่ ต.เวียง ต.ป่าสัก ต.ศรีดอนมูล และ ต.โยนก อ.เชียงแสน จำนวน 369 แปลง เนื้อที่ 8,570 ไร่ 1 งาน 03 ตารางวา จนมีการชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ทั้งวินัยและอาญา จำนวน 10 คน และแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดิน และจังหวัดฯ เพิกถอน น.ส.3 ก.ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายทั้ง 152 ฉบับ เนื้อที่ 4,049 ไร่ 2 งาน 77 ตารางวา และให้ตวรจสอบอีกจำนวน 217 ฉบับที่เหลือด้วย

3.เรื่องการออกโฉนดที่ดิน ต.แม่จัน อ.แม่จัน ทับภูเขาดอยผาตอง และดอยผาแตก เนื้อที่ 858 ไร่ 3 งาน 96 ตารางวา และมีการชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ ทั้งทางวินัยและอาญา จำนวน 7 คน และแจ้งความดำเนินคดีกับกับผู้ออกโฉนดอีก 1 คน รวมทั้งแจ้งให้พนักงานที่ดิน และจังหวัดเพิกถอนโฉนดทั้งสิ้น 23 ฉบับ

4.เรื่องกำนัน ต.สันทราย อ.แม่จัน และพวก ทุจริตและบุกรุกที่ดินดอยดงสุวรรณ ต.สันทราย โดยมีการออกโฉนดบนเนื้อที่ 1,374 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา จำนวน 50 แปลง จึงชี้มูลความผิดทางวินัยและอาญาผู้ที่เกี่ยวข้อง 7 คน และแจ้งให้เพิกถอนโฉนดเสีย

5.เรื่องเจ้าหน้าที่ที่ดินออกโฉนดทับที่ภูเขา ต.ท่าข้าวเปลือก อ.แม่จัน จำนวน 280 แปลง เนื้อที่ 7,367 ไร่ 3 งาน 70 ตารางวา จึงชี้มูลความผิดวินัยและอาญาเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 12 คน และแจ้งให้ดำเนินคดีอาญากับผู้ขอออกโฉนดที่ดิน 1 คน รวมทั้งแจ้งให้เพิกถอนโฉนดแล้ว

พล.ต.ท.วิโรจน์ กล่าวว่า เมื่อรวมทั้ง 5 เรื่อง ป.ป.ป.ได้ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้อง 41 คน แจ้งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินและหนังสือรับรองการทำประโยชน์ 507 ฉบับ เนื้อที่ 13,671 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา แต่ปรากฏว่า จนถึงปัจจุบันการดำเนินการยังไม่แล้วเสร็จทั้งหมดซึ่งก็ไม่แปลกที่ ป.ป.ป.จะได้ชื่อว่าเสือกระดาษจนทำให้เกิด ป.ป.ช.ขึ้นมาแทนที่

นายนคร มาฉิม รองประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ถูกปล่อยให้ยืดเยื้อมานานตั้งแต่ปี 2538 ร่วม 17 ปีแล้ว จึงน่าสงสัยว่า มีการใช้อิทธิพลทำให้ยืดเยื้อหรือไม่ ขนาดตนเองเมื่อออกมาผลักดันเรื่องนี้ก็ถูกขู่ฆ่า จนต้องแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ และแจ้งต่อกรรมาธิการฯ ไปแล้ว

จากนั้นที่ประชุมได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กรมที่ดินชี้แจงความคืบหน้าทั้ง 5 เรื่องดังกล่าว ซึ่งมีการระบุว่า กรณีที่ 1 มีการเพิกถอน น.ส.3 ก.ไปแล้ว แต่ผู้ถูกเพิกถอนฟ้องกลับกรมที่ดิน ปัจจุบันสู้กันถึงศาลฎีกา โดยเจ้าหน้าที่รัฐ ยังไม่มีการฟ้องกลับ กรณีที่ 2 มีการตั้งคณะกรรมการพิจารณาการเพิกถอนพบจำนวน 365 แปลงออก น.ส.3 ก.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนอีก 4 แปลงมี น.ส.3 ก.อยู่แล้ว แต่เมื่อพิจารณาอีกครั้งแจ้งว่าที่มีจำนวน 152 แปลงออกโดยชอบด้วยกฎหมายอีก

กรณีที่ 3 กรมที่ดิน มีคำสั่งให้เพิกถอนเอกสารสิทธิทั้งหมด ส่วนข้าราชการที่ถูกดำเนินการมีทั้งให้ออก ตัดเงินเดือน ฯลฯ กรณีที่ 4 ในปี 2552 มีการส่งข้อมูลให้ทางจังหวัด จัดทำแผนที่ประกอบการพิจารณาว่ามีความลาดชัน 35% ขึ้นไปหรือไม่ และกรณีที่ 5 เมื่อปี 2553 กรมที่ดินตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อเพิกถอนและให้เพิกถอนก่อน 49 แปลงที่เหลืออยู่ระหว่างพิจารณา

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้หยิบยกประเด็นเรื่อง สวนป่ากิ่วทัพยั้ง อ.แม่จัน จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ 135 ไร่ 70 ตารางวา มาพิจารณา เนื่องจาก ป.ป.ป.ระบุว่า อดีตกำนัน ต.แม่จัน และ ต.สันทราย ได้นำเจ้าหน้าที่กรมที่ดินออกโฉนดในปี 2536 อ้างว่า ชาวบ้านได้เข้าทำการเกษตรแล้วแต่ ป.ป.ป.ตรวจพบเป็นสวนป่าของกรมป่าไม้ ซึ่งปลูกไม้สักเอาไว้ตั้งแต่ปี 2515 และปลูกซ่อมปี 2520 จึงมีมติชี้มูลความผิดทางวินัยและอาญากับเจ้าหน้าที่ที่ดิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ไปแล้ว และแจ้งให้เพิกถอนโฉนดที่ดินด้วย

เมื่อพิจารณาถึงเรื่องดังกล่าว นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ซึ่งอยู่ในที่ประชุม ระบุว่า กรณีสวนป่ากิ่วทัพยั้ง ตัวเองก็ถูกร้องเรียนว่าตนบุกรุกอย่างหนัก จนทางตำรวจภูธรภาค 5 ก็ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบถึง 2 รอบ

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า จากนั้น นายนคร มาฉิม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประธิปัตย์ รองประธานธรรมาธิการ ได้ขอดูหลักฐานและสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ทำให้นายดำรง แสดงความเห็นว่า นายนคร ไม่ควรตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายใด และไม่ควรให้สัมภาษณ์กรณีนี้พาดพิงไปถึง นายยงยุทธ (ติยะไพรัช) โดยระบุว่า เป็นอดีตรัฐมนรีที่มีอิทธพลในเชียงราย เพราะเขาไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย แต่กลับจะทำให้เขาเสียหาย เพราะไม่ได้มีพฤติกรรมค้าที่ดินแน่นอน

นายนคร และกรรมาธิการ หลายคนชี้แจงว่า ไม่ได้ตกเป็นเครื่องมือฝ่ายใด แต่ทำตามหน้าที่ และหากไม่ตรวจสอบก็จะถูกอีกฝ่ายมองว่าเป็นเครื่องมือด้วยเช่นกัน

นายดำรงค์ ยังกล่าวอีกว่า ปัญหาที่ดินที่เชียงรายยืดเยื้อมานานกว่า 20-30 ปี เพราะเดิมมีประชากรน้อย เมื่อมีชาวเขาอาศัยอยู่ แล้วต่อมามีบัตรแสดงตน และขยายการทำการเกษตรก็เริ่มมีปัญหา คนพื้นราบก็บุกเข้าไป และอ้างว่าเจ้าหนาที่ ไม่ดำเนินคดีกับชาวเขา ครั้นจะดำเนินคดีกับฝ่ายใดก็จะถูกอีกฝ่ายร้องเรียนอีก ทำให้ทำอะไรไม่ได้เลย ปัญหาจึงมีความสลับซับซ้อนกว่าที่อื่น กระทั่งเกิดปัญหาขึ้นมาอีก เพราะหากเป็นพื้นที่นอกป่าสงวนแห่งชาติ ก็ให้ทางฝ่ายปกครองหรืออำเภอดูแลในลักษณะที่ดินที่รัฐจัดให้ประชาชนเข้าไปทำกิน

กรณีของตนนั้นถือว่าอยู่นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่กลับร้องเรียนตนไม่หยุดหย่อนโยงไปถึงนายยงยุทธ ทำให้ตนเคยฟ้องร้องสื่อรายหนึ่งจนศาลพิพากษาจำคุกมาแล้ว และกำลังฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายอีก 50 ล้านบาท

ท้ายที่สุด พล.ต.ท.วิโรจน์ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งสรุปข้อมูลเอกสารส่งให้กับคณะกรรมาธิการ ได้พิจารณา โดยขอให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่าเผลอไปทำผิดอีก เพราะไม่เช่นนั้นข้าราชการรุ่นหลังๆ ก็ต้องมารับเคราะห์เหมือนข้าราชการยุคนี้ ที่ต้องมารับเคราะห์จากสิ่งที่คนในอดีตทำ

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพื้นที่ อ.แม่จัน จ.เชียงราย มีปัญหาที่ดินในลักษณะนี้ 2 แห่ง คือ ป่าสงวนแห่งชาติเขตหน่วยจัดการต้นน้ำแม่สลอง เนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ เป็นผืนป่าไม้สัก ที่เคยมีการโอนไปให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) ต่อมาได้มีผู้เข้าไปบุกรุก และออกเอกสารปลอมในการขอออกโฉนด กระทั่งปี 2536 จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บุกรุกที่ สภ.แม่จันว่า มีผู้เข้าไปบุกรุก และผู้บุกรุกก็เสียชีวิตไปแล้ว ตำรวจจึงเห็นควรสั่งไม่ฟ้องตาม ป.วิอาญา มาตรา 39 ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้ทวงคืนผืนป่าที่ถูกบุกรุกที่เป็นคดีความดังกล่าวกลับคืนมา ทำให้มีนายทุนรายอื่นสบช่องเพราะคดีสั่งไม่ฟ้อง พากันอ้างเอกสารดังกล่าวในการขอออกโฉนดกับกรมที่ดิน จนทำให้ผืนป่าทั้ง 5,000 ไร่ ถูกยึดครองเป็นโฉนดรวมกันไม่ต่ำกว่า 100 แปลง และกลายเป็นที่มาของโฉนดทับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในที่สุด

อ.อ.ป.เองก็ไม่สามารถเข้าไปดูแลและตัดไม้สักของรัฐได้ ทำให้การออกโฉนดทับซ้อนขยายวง และมีการซื้อขาย ถ่ายโอนกันหลายต่อ รวมไปถึงการนำไปค้ำประกันเงินกู้กับธนาคารติดต่อกันมานานหลายปีแล้วด้วย

ส่วนกรณีสวนป่ากิ่วทัพยั้ง เป็นพื้นที่คาบเกี่ยว อ.แม่จัน และ อ.เมือง มีที่ดินที่เป็นปัญหาประมาณ 49 ไร่ โดยมีคนเข้าไปสร้างบ้านพักเอาไว้ 3 หลัง ต่อมาปี 2547 หัวหน้าสวนป่ากิ่วทัพยั้ง ได้เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ต่อ สภ.เมืองเชียงราย ว่า ผืนป่าถูกบุกรุกโดยนายคำรณ คำมูล ซึ่งเป็นผู้ที่เสียชีวิตไปแล้วตั้งแต่ปี 2540 ทำให้พนักงานสอบสวนไม่สามารถสั่งฟ้องได้อีกเช่นเคย

ต่อมามีผู้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายเป็ง คำวัง ซึ่งเป็นผู้ที่แสดงตนเป็นเจ้าของที่ดินผืนดังกล่าวอีกคนหนึ่งด้วย แต่เรื่องก็เงียบหายไป จนกระทั่งคณะกรรมาธิการนำขึ้นมาตรวจสอบอยู่ในขณะนี้

นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าร่วมชี้แจงข้อมูลต่อที่ประชุม กมธ.และมีการโต้เถียงกันอย่างหนัก

พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ(ซ้าย) และนายนคร มาฉิม รองประธานกรรมาธิการฯ ที่ก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความว่า ถูกคนส่งจดหมายขู่ฆ่าถึงบ้าน หลังจากผลักดันให้มีการตรวจสอบเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดินทับป่ากิ่้วทัพยั้ง และต้นน้ำแม่สลอง จ.เชียงราย
กำลังโหลดความคิดเห็น