พท.ผวา “ยะใส” ตั้งกลุ่มการเมืองสีเขียว จับมือ พธม.โค่นระบอบทักษิณ

โฆษกพรรคเพื่อไทย รับบัญชาสร้างกระแสแก้ รธน.50 ฉบับรัฐประหาร อ้าง ส.ว.-พรรคร่วม รบ.-นักวิชาการ หนุน ชิงปฏิเสธไม่เกี่ยว “ทักษิณคิดเผาไทยทำ” ระแวง “สุริยะใส” ตั้งกลุ่มการเมืองสีเขียว จับมือพันธมิตรฯ สร้างเงื่อนโค่นระบอบทักษิณยุคปูโคลนนิง

วันนี้ (28 ส.ค.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะความคืบหน้าการตั้ง ส.ส.ร.ว่า ในหลักการพรรคเห็นว่า ควรแก้รัฐธรรมนูญ 2550 เนื่องจากไม่ได้มาจากฝ่ายประชาธิปไตย ซึ่งเบื้องต้น ส.ว.บางส่วน นักวิชาการ และพรรคร่วมรัฐบาลทั้ง 6 พรรค ต่างเห็นด้วย คาดว่า ในเร็ววันนี้คงจะมีการหารือกัน ส่วนที่มาของ ส.ส.ร.3 อาจมาจาก 3 ส่วน คือ 1.เลือกตั้งตัวแทนมาทั้ง 77 จังหวัด 2.กลุ่มนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญ 3.กลุ่มสาขาอาชีพ เพื่อเข้ามาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ส่วนที่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวหาว่า แก้รัฐธรรมนูญเพื่อช่วยเหลือคนๆ เดียว และกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน ที่ถูกตัดสิทธิ์ ก็ไม่เป็นความจริง โดยกรอบเราเมื่อได้ตัวแทนมาจากทั้ง 3 กลุ่มแล้ว เขาก็จะไปกำหนดกรอบกันเอง ว่าเป็นอย่างไร แก้มาตราใด ใช้เวลาเท่าใด โดยพรรคการเมืองไม่เกี่ยว อีกทั้งยังไม่ได้หารือว่า การเสนอแก้ไขควรให้ ครม. สภาฯ หรือประชาชน เป็นผู้เสนอแก้รัฐธรรมนูญ ตอนนี้ขอแก้ปัญหาให้ประชาชน ทั้งปัญหาค่าครองชีพ ปัญหาน้ำท่วมก่อน แต่หัวใจหลักของการแก้ไขคือให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด

เมื่อถามว่า หัวใจที่จะใช้รณรงค์เป็นเหมือนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยกำหนดไว้หรือไม่ คือ ให้ประชาชนเลือก รธน.ปี 2540 หรือปี 2550 นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ กำหนด แต่เรามองว่า รธน.40 เป็นโมเดล เพราะมาจากประชาชน ที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาแล้วว่า ถ้าแก้ก็จะเกิดวิกฤตรอบใหม่ ทั้งที่ก่อนหน้าเคยแก้เขตใหญ่เป็นเขตเล็ก และที่มาของส.ส.375 และ 125 ก็ดำเนินการไปแล้ว โดยอาศัยพวกมากลากไป ขอยืนยันการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล เป็นไปตามที่ได้ประกาศไว้ในช่วงหาเสียง ไม่ใช่การแก้เพื่อคนๆ เดียว แต่เพื่อประชาชนทุกคน เป็นการวางรากฐานให้ประชาธิปไตยและพรรคการเมืองแข็งแรง แล้วประชาชนจะแข็งแรงตามไปด้วย หากประชาธิปัตย์กล่าวหามาตั้งแต่ต้น ก็ต้องบอกว่า ปากประชาธิปไตย แต่หัวใจเผด็จการ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า กรณี นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ ออกมาตั้งกลุ่มการเมืองสีเขียว ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่ามีเป้าหมายเคลื่อนไหวเหมือนที่ผ่านมา โดยใช้กลุ่มพันธมิตรฯแปลงร่าง เป็นพลังสีเขียว เพื่อจ้องล้มรัฐบาลอีก วันนี้ประชาชนไม่โง่ เขารู้ประชาธิปไตยคืออะไร หากยังอยู่ในความคิดเดิมๆ ใช้เกมการเมืองเดิมๆ รอจังหวะเวลามาสร้างเงื่อนไขเดิมๆ บทเรียนการทำพรรคการเมืองก็จะเป็นเหมือนเดิม

นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า วันที่ 29 ส.ค.เวลา 13.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย จะมีการประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมาย มี พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ร่วมกับ ส.ส.บางส่วน โดยจะพิจารณากฎหมายที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งหลายฉบับเป็นประโยชน์กับประชาชน