xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ชาติสรุป ศก.เหนือปี 54 ท่องเที่ยวรุ่งสุด เชื่อแนวโน้มปี 55 ยังดีต่อ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสุภาวดี ปุณศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แบงก์ชาติแถลงข่าวสรุปภาวะ ศก.เดือน ธ.ค.-ปี 54 พบภาคท่องเที่ยวรุ่งสุด หลังได้อานิสงส์อากาศหนาว-กิจกรรมคึกคัก ด้านอุตสาหกรรมยังโตใช้ได้ ส่วนเกษตรยังนิ่ง เผย ตัวเลขการบริโภค-การลงทุนชะลอตัวตามภาวะ ศก.แถมเงินเฟ้อยังสูง ชี้ เอกชนยังมั่นใจปี 55 ศก.จะดีต่อ แต่ต้องรอดูปัจจัยเสี่ยงทั้งใน-นอกประเทศ

นางสุภาวดี ปุณศรี ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ เปิดเผยถึงภาวะเศรษฐกิจและการเงินภาคเหนือเดือนธันวาคม และปี 2554 ในการแถลงข่าวของธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ณ ห้องประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ในวันนี้ (6 ก.พ.) ว่า ภาวะเศรษฐกิจการเงินของภาคเหนือในช่วงเดือน ธ.ค. 2554 มีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าในเกือบทุกภาคเศรษฐกิจ

ในส่วนของภาคการผลิต พบว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัวร้อยละ 11.8 อันเป็นผลจากการที่อุตสาหกรรมต่างๆ เริ่มกลับมาทำการผลิตอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์อุทกภัยภายในประเทศคลี่คลายลง และการย้ายฐานการผลิตจากพื้นที่ภาคกลางเป็นการชั่วคราว

ส่วนภาคการเกษตรนั้น รายได้เกษตรกรยังหดตัวร้อยละ 6.2 แต่ถือว่าดีกว่าเดือน พ.ย.ที่หดตัวอยู่ที่ร้อยละ 6.7 อย่างไรก็ตาม แม้รายได้เกษตรกรยังคงหดตัว แต่ก็มีสัญญาณที่ดีประกอบ นั่นคือ ราคาสินค้าเกษตรมีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากกการที่มีผลผลิตออกสู่ท้องตลาดน้อยกว่าความต้องการ

ขณะที่ในภาคการบริการ พบว่า การท่องเที่ยวมีการปรับตัวดีขึ้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะอากาศที่หนาวเย็น รวมถึงการจัดงานเทศกาลและกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ โดยในเดือน ธ.ค.จำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16.4 หรือประมาณ 5. ล้านคน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาด้านการบริโภคและการลงทุนแล้ว พบว่า การบริโภคและการลงทุนของภาคเหนือยังคงอยู่ในภาวะชะลอตัว เห็นได้จากดัชนีการบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวเพียงร้อยละ 1.1 อันเป็นผลจากการที่สินค้าหลายอย่างขาดแคลน หรือผลิตได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการจากเหตุการณ์อุทกภัย หรือดัชนีการลงทุนภาคเอกชนที่หดตัวลงร้อยละ 1.9 ตามการชะลอตัวของการลงทุน เพื่อก่อสร้างและการหดตัวของปริมาณการจดทะเบียนรถเพื่อการพาณิชย์ รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐที่หดตัวลงร้อยละ 6.3 เนื่องจากพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ยังไม่ประกาศใช้

ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีสัญญาณบวกจากความสนใจของนักลงทุนในภาคเหนือ ดังจะเห็นได้จากมูลค่าโครงการที่ได้รับอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI และการส่งออกผ่านด่านชายแดนที่ยังขยายตัวอยู่ โดยในเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.9

นางสุภาวดี กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของอัตราเงินเฟ้อในพื้นที่ภาคเหนือ พบว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับสูง ที่ร้อยละ 4.36 ซึ่งเป็นผลจากราคาสินค้า โดยเฉพาะในหมวดอาหารและเครื่องดื่มที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 3.68 ด้านอัตราการว่างงาน พบว่า มีอัตราว่างงานในระดับต่ำ ที่ร้อยละ 0.5 อย่างไรก็ตาม แม้อัตราการว่างงานจะต่ำแต่ตลาดแรงงานยังคงตึงตัว เนื่องจากผู้ประกอบการยังมีความต้องการแรงงานอีกเป็นจำนวนมาก

สำหรับแนวโน้มธุรกิจของผู้ประกอบการในภาคเหนือ ผู้อำนวยการอาวุโส ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ชี้แจงว่า ผลการสำรวจพบว่าผู้ประกอบการ คาดว่า แนวโน้มธุรกิจภาคเหนือโดยรวมในไตรมาสที่ 1/2555 จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากยังมีแรงส่งต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว ผลกระทบเชิงบวกจากเหตุอุทกภัย และมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายและฟื้นฟูประเทศภายหลังน้ำลดของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้ธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องยังคงเติบโต

ในขณะเดียวกัน ก็ต้องพิจารณาปัจจัยต่างๆ ที่อาจมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศประกอบด้วยมาตรการการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน นโยบายลดการแทรกแซงราคาพลังงาน และมาตรการในการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาล ส่วนในต่างประเทศได้แก่ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรป ซึ่งต้องติดตามว่าแนวทางการแก้ไขปัญหานี้สาธารณะของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรปจะส่งผลกระทบต่อประเทศต่างๆ มากน้อยเพียงใด


กำลังโหลดความคิดเห็น