ฉะเชิงเทรา- ตำรวจแปดริ้วล่อจับยาเสพติด ผ่านสายด่วนเรือนจำกลางเมืองระยอง ได้ผู้ต้องหาร 5 ราย พร้อมของกลางยาบ้า กว่า 1 แสนเม็ด ยาไอซ์ 1.68 กก.และยาอี 140 เม็ด มูลค่าเกือบ 50 ล้านบาท
วันนี้( 22 ธ.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วย พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และ กำลังชุด ปส.ภ.จว.ฉช.ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดเครือข่ายใหญ่ในภาคตะวันออก รับสั่งตรงออกมาจากเรือนจำกลาง จ.ระยอง พร้อมของกลาง เป็นยาบ้าจำนวน 113,040 เม็ด ยาไอซ์จำนวน 1,682.2 กรัม และ ยาอี จำนวน 140 เม็ด
ผู้ต้องหา 5 คน ประกอบด้วย นายจรินทร์ สังข์นุช (ริน) อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 ม.10 ต.คลองเปร็ง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา นายศิริพงษ์ ตุ้มปิ่ม (ทอม) อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.7ต.ดอนเกาะกา อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา นายสุรเชษฐ์ เกิดแก้ว (อ๊อด) อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 ม.4 ต.ดอนเกาะกา น.ส.ลาวัลย์ นิฉาย (แอน) อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15/7 ม.2 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว และนายไพศาล แสงอรุณ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85 ม.2 ต.ชุมพลอ.องครักษ์ จ.นครนายก (สามีของ น.ส.ลาวัลย์) พร้อมทรัพย์สินอื่นๆ อีกหลายรายการ ทั้งเงินสดรถยนต์เก๋ง และกระบะซึ่งเป็นยานพาหนะในการขนส่งยาเสพติดและโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร
พล.ต.ต.มณฑล กล่าวถึงขั้นตอนการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดครั้งนี้ ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เริ่มทำการล่อซื้อจับกุมตั้งแต่ระดับรายเล็ก ก่อนที่จะขยายผลไปจนถึงตัวการใหญ่ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น ผบช.ภ.2 โดยใช้กำลังจากชุดสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และชุด ปส.ทำการล่อซื้อยาบ้าจาก นายจรินทร์ ที่บริเวณหน้าห้องเช่า เลขที่ 19/3 ม.6ต.บางพระ อ.เมืองฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.54 ที่ผ่านมา จนสามารถยึดของกลางได้ยาบ้ามาจำนวน 900 เม็ด ยาไอซ์ 40 ถุงเล็ก หนักรวม 48 กรัม พร้อมโทรศัพท์มือถือโนเกีย 2 เครื่องเครื่องชั่งยาไอซ์แบบดิจิตอล 1 เครื่อง รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าวีโก้สีขาว ทะเบียน ณร 465 กทม.1 คัน
ด้าน นายจรินทร์ ให้การรับสารภาพว่าได้รับยาเสพติดทั้งหมดมาจากเครือข่ายของ นายนิ่ม หรือ นายชัย ไม่ทราบนามสกุลเป็นนักโทษในคดียาเสพติดและกำลังถูกคุมขังตัวอยู่ภายในเรือนจำกลาง จ.ระยอง โดยจะมี นายศิริพงษ์ และ นายสุรเชษฐ์ เป็นผู้นำยาเสพติดมาส่งมอบให้อีกทอดหนึ่ง ครั้งละประมาณ2-5 มัด (4,000-10,000 เม็ด) จากนั้น นายจรินทร์ ก็จะเป็นผู้รอคอยรับคำสั่งจากนายนิ่ม จากภายในเรือนจำอีกครั้งก่อนที่จะโทรศัพท์มาสั่งการให้นำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าของนายนิ่ม ตามสถานที่ต่างๆ ที่มีการสั่งซื้อ ซึ่งจะมีทั้งในเขต จ.ฉะเชิงเทรา และใกล้เคียง
เจ้าหน้าที่ได้วางแผนให้นายจรินทร์ ติดต่อสั่งยาบ้าจากนายนิ่ม อีกจำนวน 5 มัด (10,000 เม็ด) ในราคามัดละ 1.8 หมื่นบาท ต่อมาเมื่อเวลา 17.00น.ในวันเดียวกัน จึงได้มี นายศิริพงษ์ และ นายสุรเชษฐ์ นำยาบ้ามาส่งมอบให้อีกโดยนัดหมายกันที่บริเวณด้านหน้าคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง (เอกสิทธิ์คอนโดทาวน์) ริมถนนสายสุวินทวงศ์ พื้นที่ ม.6 ต.วังตะเคียน อ.เมืองฉะเชิงเทรา จึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 คน
พร้อมของกลาง ยาบ้าอีกจำนวน 106,140 เม็ด ยาไอซ์ถุงใหญ่ 6 ถุง รวมน้ำหนัก 1,3242 กรัม และยาอีอีก 140 เม็ด พร้อมรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำทะเบียนป้ายแดง ษ 7088 กทม.โทรศัพท์มือถือแบล็กเบอร์รี 1 เครื่อง โนเกีย1 เครื่อง ซัมซุง 1 เครื่อง
พล.ต.ต.มณฑล กล่าวต่อไปว่า จากนั้นยังได้ขยายผลต่อไปอีก จนทราบว่ายังมียาเสพติดที่ถูกนำไปส่งมอบให้ น.ส.ลาวัลย์ ซึ่งเคยเป็นอดีตครูอนุบาล ในโรงเรียนแห่งหนึ่งและเคยต้องโทษในคดียาเสพติด ด้วยการถูกล่อซื้อยาบ้าด้วยเงิน 100 บาทมาแล้ว จนถูกตัดสินให้จำคุกมาเป็นเวลา 2 ปี 4 เดือน และเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่กี่ปี พร้อมด้วยสามีอีก 1 คน จึงได้ทำการวางแผนในการเข้าจับกุมจนสามารถจับกุมตัวได้พร้อมกันทั้ง 2 คน ที่บริเวณริมถนนหน้าทางเข้าหมู่บ้าน ใกล้กับบ้านพักของทั้ง 2 คน ในพื้นที่ ม.2 ต.ดอนเกาะกา พร้อมของกลางยาบ้า อีกจำนวน 3 มัด (6,000 เม็ด) ยาไอซ์ 310 กรัม และรถยนต์เก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาว ทะเบียน ฌส 2378กทม.
การจับกุมในครั้งนี้ รวมผลการจับกุมยาเสพติดจากขบวนการใหญ่ เครือข่ายเรือนจำภาคตะวันออกได้เป็นมูลค่ามากถึงเกือบ 50 ล้านบาท พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 113,040 เม็ด ยาไอซ์ 1.6822 กิโลกรัม และยาอี 140 เม็ด