ฉะเชิงเทรา - แปดริ้วพับเก็บอุปกรณ์ช่วยระบายน้ำทิ้ง ออกเกลี้ยงทุกแนวประตูระบายน้ำลงสู่บางปะกงแล้ว หลังผู้ว่าฯ ถูกเด้งเข้ากรุยกแผง พร้อมด้วยนายอำเภอตามแนวน้ำทิ้งจากเมืองกรุง
วันนี้ (23 พ.ย.54) เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเคยถูกเลือกใช้เป็นเส้นทางของการระบายน้ำจากทางภาคกลาง และภาคเหนือ รวมทั้งน้ำทิ้งจากกรุงเทพฯ ผ่านลงสู่แม่น้ำบางปะกงก่อนออกทะเลนั้น ขณะนี้อุปกรณ์เกี่ยวกับการระบายน้ำเกือบทุกชนิดได้ถูกเก็บหายออกไปจากพื้นที่แล้ว จากเดิมที่เคยถูกน้ำมาติดตั้ง วางอยู่เต็มแน่นเหนือขอบของประตูระบายน้ำทุกบาน ทั้งท่อสูบน้ำขนาดใหญ่ (ขนาด 3 ลบม./วินาที) ของกรมชลประทานที่หยุดทำการสูบออก ทั้งท่อพญานาคของชาวบ้านจากภาคเกษตร และองค์กรส่วนท้องถิ่นที่ส่งเข้ามาช่วยจากหลากหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ซึ่งก่อนหน้านี้เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนเศษที่ผ่านมานั้น ได้เคยใช้ในการเร่งระดมสูบน้ำออกจากลำคลองใต้แนวเขต ของคลอง 6 วาสายล่าง และคลองแสนแสบ รวมถึงคลองพระองค์ไชยยานุชิต และเครื่องผลักดันน้ำรวมถึงเรือช่วยดันน้ำในลำน้ำบางปะกง ได้ถูกเก็บหายไปจากพื้นที่จนหมดเกลี้ยงแล้ว
จนทำให้สถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อก่อนหน้าทุกอย่าง กลับเข้าสู่ภาวะปกติคล้ายกับว่าไม่เคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาก่อนในพื้นที่ และไม่ได้มีการเร่งรีบในการช่วยระบายน้ำออกจากเขตภาวะน้ำท่วม ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร และจังหวัดทางภาคกลางตอนบนของ จ.ฉะเชิงเทรา แต่อย่างใด และได้สร้างความแปลกใจให้แก่ชาวบ้าน รวมถึงผู้คนในสังคมทั่วไปของจังหวัด ที่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า อาจเป็นผลมาจากเรื่องของทางการเมือง ที่ นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา นั้น
ได้ถูกคำสั่งเด้งออกจากพื้นที่ ให้ไปเป็นผู้ตรวจราชการประจำกระทรวง (สำนักปลัด มท.) จากมติ ครม. ภายใต้การนำ ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ในการประชุมลับ เมื่อวันที่ 15 พ.ย.54 ที่ผ่านมา เนื่องจากถูกมองว่ามีความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดกันกับพรรคการเมืองพรรคหนึ่งทางแถบอีสานใต้ ซึ่งไม่ได้ร่วมเป็นรัฐบาล หรืออาจถูกมองว่า ที่ผ่านมานนั้นการระบายน้ำผ่านพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นไปโดยไม่เต็มประสิทธิภาพตามเป้าหมาย ที่ได้มีการคาดหวังไว้ว่าจะช่วยระบายน้ำทิ้งออกจากเขตน้ำท่วม จากทางภาคกลาง และภาคเหนือได้มากกว่านี้
สอบถามจาก น.ส.ทวี เล่าฮะ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65 ม.1 ต.บางโรง อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงกับประตูระบายน้ำบางโรง ที่ถูกเก็บอุปกรณ์ในการช่วยระบายน้ำ จำนวนหลายสิบเครื่องออกไปจากพื้นที่ทราบว่า ได้ยินเจ้าหน้าที่บอกว่า ได้รับคำสั่งให้หยุดสูบน้ำออกตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว เนื่องจากน้ำในลำคลองที่จะสูบออกนั้นแห้งลงอย่างมากซึ่งก็ยังรู้สึกแปลกใจอยู่เช่นกันว่าทำไม น้ำที่ยังท่วมสูงอยู่ในกรุงเทพฯ ทำไมไม่มาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา จนทำให้ขณะนี้ชาวนาในพื้นที่กำลังจะขาดน้ำในการทำนากันอยู่แล้ว
เนื่องจากที่ผ่านมานั้น ได้มีการเร่งระดมสูบระบายน้ำออกทิ้งไปอย่างมาก จนทำให้น้ำแห้งหายไปจากลำคลอง ซึ่งหากน้ำยังไม่ไหลเข้ามาในลำคลองเพิ่มเติมขึ้นมากกว่านี้อีก เชื่อว่าชาวนาอาจจะขาดน้ำในการทำนาได้ เนื่องจากอีกไม่นานน้ำเค็มจากทะเลก็จะหนุนสูงเข้ามายังในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับการโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ จ.ฉะเชิงเทรา มีข้าราชการถูกโยกย้าย คือ ผู้ว่าราชการจังหวัด รวมนายอำเภออีก 6 ราย ซึ่งอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมทั้งสิ้น นายอำเภอพนมสารคาม บางคล้า บางน้ำเปรี้ยว บ้านโพธิ์ คลองเขื่อน และสนามชัยเขต โดยเฉพาะนายสรายุทธ แก้วกุลปรีชา นายอำเภอบางน้ำเปรี้ยว และนายไพศาล เหลืองวิชชเจริญ นายอำเภอคลองเขื่อน ที่อยู่ในพื้นที่ของการระบายน้ำทิ้งจากทางภาคกลางและภาคเหนือ รวมถึงกรุงเทพมหานคร นั้น อาจได้รับผลกระทบจากผลการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงที่ผ่านมา จนเป็นอีกเหตุผลหนึ่งในการถูกสั่งย้ายออกไปยังนอกพื้นที่ ในจังหวัดที่ห่างไกล แบบข้ามภูมิภาค