ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านจับกลุ่มวิจารณ์ หลังน้ำในคลองแสนแสบ ถูกสูบทิ้งจนแห้งขอด ยุบหายไปกว่า 1 เมตร พร้อมตั้งคำถามเหตุใดเมืองกรุงยังถูกท่วม จนทำให้เกิดเหตุจลาจลแบบแฟชั่น “บุกรื้อบิ๊กแบ็ก”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในเขตเทศบาลตัวอำเภอบางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ต่างพากันจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์พูดคุยถึงเรื่องน้ำที่ยังคงท่วมกรุงเทพฯ และจังหวัดทางตอนบนของจังหวัดฉะเชิงเทรา เช่น จ.ปทุมธานี และนนทบุรี อยู่ จนทำให้เกิดปรากฏการณ์แฟชั่น ชาวบ้านบุกทลายบิ๊กแบ็ก จนกลายเป็นความขัดแย้งของคนทั้งสองฝั่งของแนวกั้น รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ สร้างความหดหู่ต่อภาพลักษณ์ของสังคมไทย ที่เคยเอื้อเฟื้อพึ่งพากันเป็นอย่างยิ่ง
ทั้งที่ในพื้นที่ทางตอนล่างฝั่งตะวันออก ภายในเขต จ.ฉะเชิงเทรา นั้น น้ำได้ลดระดับลงไปอย่างมากแล้ว โดยเฉพาะน้ำในลำคลองแสนแสบ ที่เชื่อมต่อมาจากกรุงเทพฯ นั้นได้ถูกสูบทิ้งออกจากลำคลอง ลงสู่แม่น้ำบางปะกง จนแทบแห้งขอดเหลือระดับน้ำอยู่ต่ำกว่าขอบตลิ่งมากถึงกว่า 1 เมตรแล้ว ขณะที่สภาพการไหลของน้ำนั้น อยู่ในสภาพเอื่อยเฉื่อย วัชพืชลอยน้ำคืบคลานไปอย่างเชื่องช้า คล้ายๆ กับไม่มีการเร่งรีบที่จะระบายน้ำทิ้งแต่อย่างใด
นางพยูง ภูเจริญ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/30 ม.1 ต.บางน้ำเปรี้ยว อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ชาวบ้านซึ่งอยู่อาศัยใกล้แนวตลิ่งคลองแสนแสบ แม่ค้าขายปลานิลย่างเผาเกลือ กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจที่เห็นน้ำในลำคลองแสนแสบนั้น ลดระดับต่ำลงอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนแทบจะเข้าสู่ภาวะแห้งขอดเป็นเวลานานกว่า 10 วันแล้ว แต่ทำไมน้ำในกรุงเทพฯ จึงยังไม่ลดและยังเกิดความขัดแย้งทะเลาะกันกับชาวบ้านในจังหวัดทางตอนบนอีกด้วย ทั้งที่คลองแสนแสบนั้น เป็นทางระบายน้ำออกจากรุงเทพฯ ก่อนมาสูบออกทิ้งที่ ต.บางขนาก อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ได้ยุบแห้งลงแล้ว
ถึงแม้ตนจะไม่มีเงินช่วยเหลือ แต่ก็อยากจะช่วยเหลือคนกรุงเทพฯ แต่ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร จึงอยากจะขอช่วยแบ่งเบาทุกข์ให้ระบายน้ำเข้ามาในพื้นที่บ้าง ให้สูบระบายน้ำลงมายังในเขตพื้นที่ฝั่งตะวันออก ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ให้มากๆ เพราะขณะนี้ จ.ฉะเชิงเทรา น้ำได้แห้งลดลงจนหมดแล้ว เพื่อจะได้ช่วยกันกระจายน้ำออกมาให้ท่วมเหมือนๆ กัน น้ำที่ท่วมขังอยู่ในหลายจังหวัดจะได้ลดลง ถือเป็นการแบ่งๆ กันไป
ขณะที่ นางฉวน สันทัด อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/5 ม.1 ต.บางน้ำเปรี้ยว กล่าวพร้อมกับชาวบ้านที่นั่งร่วมวงสนทนากันอีกหลายคน ว่า น้ำไม่มา ไม่รู้ว่าไปติดอะไรอยู่ เห็นประกาศเตือนตั้งหลายครั้งแล้ว ก็ไม่ยอมมา คนที่นี่ก็อยากท่วมด้วย พื้นที่ที่อยากให้มา ก็ไม่มา ไปทำให้คนอื่นเขาทะเลาะกันอยู่ได้ แต่สาเหตุเชื่อว่าอาจจะขาดประสิทธิภาพในการระบายน้ำของหน่วยงานที่รับผิดชอบ หรือรัฐบาลก็เป็นได้
นายบุรันท์ แซ่เตีย อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/19 ม.2 ต.บางน้ำเปรี้ยว ประกอบอาชีพเปิดร้านซ่อมรถ จยย.หน้าวัดบางน้ำเปรี้ยว กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจอยู่เช่นกันว่าน้ำในลำคลองแสนแสบลดลง แต่ในกรุงเทพฯ ยังถูกน้ำท่วม ทั้งที่คลองแสนแสบเป็นทางระบายน้ำทิ้งจากกรุงเทพฯลงสู่แม่น้ำบางปะกง หากจะสูบน้ำผ่านเข้าในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกก็ยินดีที่จะยอมรับ เพราะเห็นใจและอยากจะช่วยเหลือคนกรุงเทพฯที่กำลังเดือดร้อนบ้าง หากไม่ปล่อยมาจนบ่าล้นออกนอกลำคลอง คนที่นี่ยอมรับได้