นครพนม-รองผู้ว่าฯนครพนมชี้โครงการสร้างเส้นทางรถไฟสายใหม่ บัวใหญ่(ขอนแก่น)-มุกดาหาร-นครพนม เพื่อเชื่อมโครงข่ายคมนาคมกับสะพานข้ามโขงแห่งที่ 3 จะสำเร็จช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมืองหนุน หากให้ความฝันชาวนครพนมเป็นจริงต้องเสนอเข้าครม.ทันแปรญัตติงบปี 55 ขณะที่ฝั่งลาวตัดทางรถไฟสายนครหลวงเวียงจันทน์-บอริคำไซ-คำม่วนฯเพื่อเชื่อมเวียดนามไว้รอแล้ว คาดแล้วเสร็จปี 55
นายสมดี คชายั่งยืน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าหลังจากเข้าร่วมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนชาวนครพนม กรณีโครงการศึกษาทบทวนความเหมาะสมการก่อสร้างทางรถไฟสายบัวใหญ่(ขอนแก่น)-มุกดาหาร-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมนครพนมริเวอร์วิว เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นอีกความฝันหนึ่งที่ชาวนครพนมใกล้จะเป็นจริง หลังจากความฝันแรกที่ชาวนครพนมอยากได้ คือ สะพานข้ามแม่น้ำโขงเป็นจริงไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การศึกษาเส้นทางรถไฟสายบัวใหญ่(ขอนแก่น)-มุกดาหาร-นครพนม ที่บริษัทที่ปรึกษามาเปิดรับฟังความคิดเห็น ก่อนนำไปเสนอรัฐบาลนั้นจะสำเร็จได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะ ส.ส.นครพนม 4-5 คน และ ส.ว.ต้องช่วยกันสนับสนุน โดยนำโครงการดังกล่าวเสนอเข้า ครม.ให้ทันพิจารณาแปรญัตติงบประมาณปี 2555 ในงบการศึกษาสำรวจเส้นทางสายดังกล่าว จำนวน 200-250 ล้าน
ปัจจุบันกระแสการขนส่งระบบรางกำลังเป็นที่สนใจ ซึ่งจากข้อมูลของประเทศเพื่อนบ้านทราบว่าในปี 2555 เส้นทางรถไฟสายเวียงจันทร์ในลาวจะผ่านแขวงบริคำไชย มาสู่แขวงคำม่วน วิ่งทะลุสู่ท่าเรือบุ่งอาน เมืองฮาตินห์ ประเทศเวียดนาม หากมีเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวเกิดขึ้นจะช่วยให้การขนส่งสินค้าไปกรุงเทพฯ สะดวกมาก และในอนาคตอาจมีการสร้างรางรถไฟเพื่อวิ่งคู่ขนานกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3
ด้านนายสาธิต มาลัยธรรม วิศวกรโครงการฯ กล่าวว่า ตามแผนหากการออกแบบศึกษาแล้วเสร็จ คาดว่าแนวทางที่ 4 ทางรถไฟสายใหม่ คือ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม จะสามารถลงมือก่อสร้างได้ในปี 2560 ก่อสร้างแค่ 3 ปี ระยะทาง 380 กิโลเมตร หากมีผู้รับเหมา 4 ราย ร่วมลงมือทำเส้นทางสายนี้ คาดว่าจะใช้เวลาสร้างแค่ 1 ปีเสร็จ แต่มีปัญหาเดียวคือการเวนคืนที่ดิน ซึ่งจะทำอย่างไรให้กระทบต่อชุมชนให้น้อยที่สุด
นายสาธิต ระบุอีกว่าความจริงโครงการก่อสร้างรถไฟสายอีสานกลางมีมาตั้งนาน แต่เพิ่งมีการพูดถึงและผลักดันอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2532 คือ สายอุดรธานี-นครพนม และสายบัวใหญ่-นครพนม ผ่านมา 6 ปี ก็ได้มีการริเริ่มโครงการเส้นทางสายบัวใหญ่ ฉีกมาทาง อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ แต่ในปี 2541 เกิดฟองสบู่แตกโครงการดังกล่าวจึงพับไป
สำหรับเส้นทางรถไฟสายใหม่ บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มีความเหมาะสม โดดเด่นทางด้านวิศวกรรมและจราจร ครอบคลุม 5 จังหวัด 14 อำเภอ มีจุดเริ่มต้นจากสถานีบ้านไผ่ ผ่าน อ.กุดรัง อ.บรบือ อ.เมืองมหาสารคาม อ.เมืองร้อยเอ็ด อ.เชียงขวัญ อ.โพนทอง อ.หนองพอก อ.นิคมคำสร้อย อ.เมืองมุกดาหาร อ.หว้านใหญ่ อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร และ อ.เมืองนครพนม รวมระยะทาง 336 กิโลเมตร
นายสมดี คชายั่งยืน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าหลังจากเข้าร่วมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชนชาวนครพนม กรณีโครงการศึกษาทบทวนความเหมาะสมการก่อสร้างทางรถไฟสายบัวใหญ่(ขอนแก่น)-มุกดาหาร-นครพนม ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมนครพนมริเวอร์วิว เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ถือได้ว่าเป็นอีกความฝันหนึ่งที่ชาวนครพนมใกล้จะเป็นจริง หลังจากความฝันแรกที่ชาวนครพนมอยากได้ คือ สะพานข้ามแม่น้ำโขงเป็นจริงไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม การศึกษาเส้นทางรถไฟสายบัวใหญ่(ขอนแก่น)-มุกดาหาร-นครพนม ที่บริษัทที่ปรึกษามาเปิดรับฟังความคิดเห็น ก่อนนำไปเสนอรัฐบาลนั้นจะสำเร็จได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะ ส.ส.นครพนม 4-5 คน และ ส.ว.ต้องช่วยกันสนับสนุน โดยนำโครงการดังกล่าวเสนอเข้า ครม.ให้ทันพิจารณาแปรญัตติงบประมาณปี 2555 ในงบการศึกษาสำรวจเส้นทางสายดังกล่าว จำนวน 200-250 ล้าน
ปัจจุบันกระแสการขนส่งระบบรางกำลังเป็นที่สนใจ ซึ่งจากข้อมูลของประเทศเพื่อนบ้านทราบว่าในปี 2555 เส้นทางรถไฟสายเวียงจันทร์ในลาวจะผ่านแขวงบริคำไชย มาสู่แขวงคำม่วน วิ่งทะลุสู่ท่าเรือบุ่งอาน เมืองฮาตินห์ ประเทศเวียดนาม หากมีเส้นทางรถไฟสายดังกล่าวเกิดขึ้นจะช่วยให้การขนส่งสินค้าไปกรุงเทพฯ สะดวกมาก และในอนาคตอาจมีการสร้างรางรถไฟเพื่อวิ่งคู่ขนานกับสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3
ด้านนายสาธิต มาลัยธรรม วิศวกรโครงการฯ กล่าวว่า ตามแผนหากการออกแบบศึกษาแล้วเสร็จ คาดว่าแนวทางที่ 4 ทางรถไฟสายใหม่ คือ สายบ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม จะสามารถลงมือก่อสร้างได้ในปี 2560 ก่อสร้างแค่ 3 ปี ระยะทาง 380 กิโลเมตร หากมีผู้รับเหมา 4 ราย ร่วมลงมือทำเส้นทางสายนี้ คาดว่าจะใช้เวลาสร้างแค่ 1 ปีเสร็จ แต่มีปัญหาเดียวคือการเวนคืนที่ดิน ซึ่งจะทำอย่างไรให้กระทบต่อชุมชนให้น้อยที่สุด
นายสาธิต ระบุอีกว่าความจริงโครงการก่อสร้างรถไฟสายอีสานกลางมีมาตั้งนาน แต่เพิ่งมีการพูดถึงและผลักดันอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2532 คือ สายอุดรธานี-นครพนม และสายบัวใหญ่-นครพนม ผ่านมา 6 ปี ก็ได้มีการริเริ่มโครงการเส้นทางสายบัวใหญ่ ฉีกมาทาง อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ แต่ในปี 2541 เกิดฟองสบู่แตกโครงการดังกล่าวจึงพับไป
สำหรับเส้นทางรถไฟสายใหม่ บ้านไผ่-มหาสารคาม-ร้อยเอ็ด-มุกดาหาร-นครพนม มีความเหมาะสม โดดเด่นทางด้านวิศวกรรมและจราจร ครอบคลุม 5 จังหวัด 14 อำเภอ มีจุดเริ่มต้นจากสถานีบ้านไผ่ ผ่าน อ.กุดรัง อ.บรบือ อ.เมืองมหาสารคาม อ.เมืองร้อยเอ็ด อ.เชียงขวัญ อ.โพนทอง อ.หนองพอก อ.นิคมคำสร้อย อ.เมืองมุกดาหาร อ.หว้านใหญ่ อ.ธาตุพนม อ.เรณูนคร และ อ.เมืองนครพนม รวมระยะทาง 336 กิโลเมตร
