ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ภาคอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่หวั่นวัสดุก่อสร้างขาดตลาด หลังน้ำท่วมทำระบบขนส่ง-จัดการมีปัญหา ชี้หลังน้ำลดความต้องการของเพิ่มแน่เหตุพื้นที่น้ำท่วมต้องเร่งซ่อมแซมบ้านเรือน ระบุเรื่องเพิ่มค่าแรงภาคอสังหาฯ ยังพอรับได้ แต่กังวลผังเมืองใหม่ที่จำกัดไม่ให้เมืองโต ยืนยันหากดันทุรังใช้ราคาบ้านพุ่งพรวดแน่
นายไพศาล ภู่เจริญ รองประธานกรรมการบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงผลกระทบจากเหตุอุทกภัยต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดเชียงใหม่ว่า ขณะนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือปัญหาเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะเกิดการขาดแคลนหรือขาดตลาดในอนาคต เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่มีฐานการผลิตอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง แม้ว่าในขณะนี้จะยังคงมีสินค้าอยู่ในตลาด แต่ก็ประสบปัญหาจากการจัดเก็บสินค้าและการขนส่งซึ่งส่งผลให้การกระจายสินค้าไม่คล่องตัวเท่าที่ควร
โดยในส่วนนี้คาดว่าคงจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรกว่าที่สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ขณะเดียวกันการที่วัสดุก่อสร้างไม่ได้ผลิตจากโรงงานแห่งเดียวแบบเบ็ดเสร็จ หากแต่ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนและเชื่อมโยงกับโรงงานอื่นๆ ดังนั้นหากมีขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยจนต้องหยุดการผลิต ก็จะส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตสินค้าทั้งหมดและทำให้สินค้าขาดแคลนด้วยเช่นกัน
นายไพศาล กล่าวต่อว่า อีกกรณีหนึ่งที่จะมีผลกระทบต่อปริมาณวัสดุก่อสร้างในท้องตลาดในอนาคตก็คือ เมื่อเหตุอุทกภัยบรรเทาลงแล้ว ปริมาณความต้องการวัสดุก่อสร้างในท้องตลาดจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอนเนื่องจากมีความจำเป็นในการซ่อมแซมอาคารบ้านเรือนในพื้นที่ที่ประสบภัยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ซึ่งปริมาณความต้องการวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นนี้อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณวัสดุก่อสร้างที่ขึ้นมายังพื้นที่ภาคเหนือได้
รองประธานกรรมการบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเพิ่มเติมว่า อีกปัจจัยหนึ่งที่จะมีผลต่อทิศทางและตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดเชียงใหม่ในระยะยาวคือการประกาศผังเมืองของจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากผังเมืองใหม่ตามที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงใหม่เตรียมที่จะประกาศใช้นั้นไม่สอดคล้องกับการเติบโตของเมือง กล่าวคือปัจจุบันเชียงใหม่มีความต้องการด้านที่อยู่อาศัยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
แต่ผังเมืองฉบับใหม่กลับกำหนดการใช้ประโยชน์ในพื้นที่หลายจุดต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งเป็นเหมือนการจำกัดไม่ให้เมืองเติบโต หากเป็นเช่นนี้ในอนาคตจะส่งผลให้ที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอกับความต้องการ และทำให้ราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มสูงขึ้น โดยหากยึดตามผังเมืองที่จะประกาศใช้ คาดว่าภายใน 5 ปี ราคาอสังหาริมทรัพย์ในเชียงใหม่จะเพิ่มสูงขึ้นอีก 10%
ส่วนกรณีการปรับอัตราค่าจ้างแรงงานตามนโยบายของรัฐบาลนั้น นายไพศาลระบุว่าจากการประเมินของผู้ประกอบการ หากต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้น 10% จะส่งผลให้ต้นทุนการก่อสร้างเพิ่มขึ้น 2% ซึ่งถือว่ายังไม่ใช่ปัจจัยที่น่าเป็นห่วงนัก อย่างไรก็ตาม คงจะต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบ โดยในขณะนี้ทางแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ยังไม่มีการหารือกันถึงการปรับราคาขายแต่อย่างใด