“แปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป”จับตาราคาวัสดุก่อสร้างหลังน้ำลด ก่อนผุดโครงการใหม่

ศูนย์ข่าวศรีราชา - “แปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป” ขอจับตาสถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้างหลังน้ำลดก่อนออกแบบและกำหนดราคาขายบ้านใหม่ ในโครงการเฟส 3 ที่มีแผนก่อสร้างต่อจากเฟส 1 และ 2 บริเวณหลังตลาดหนองมน จังหวัดชลบุรี เชื่ออาจต้องปรับราคาขายตามราคาวัสดุที่พุ่งสูงขึ้น ส่วนการวิจัยตลาดหลังเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของประเทศ พบความต้องการที่อยู่อาศัยในจังหวัดชลบุรีไม่ผูกพันกับปัญหาทางกายภาพ

นายสมบูรณ์ วรปัญญาสกุล กรรมการผู้จัดการ แปซิฟิค พาร์ค กรุ๊ป ผู้บริหารบริษัท เมโทรลิงค์ จำกัด บริษัทลูกซึ่งดูแลโครงการหมู่บ้านแปซิฟิค โฮม 1 -2 บริเวณหลังทางเลี่ยงตลาดหนองมนชลบุรี และกรรมการผู้จัดการ บริษัท แปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าแปซิฟิค พาร์ค ศรีราชา เผยถึงการลงทุนด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2555ว่า ยังคงต้องจับตาสถานการณ์ราคาวัสดุก่อสร้างหลังสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ของประเทศลดลง โดยคาดว่าราคาวัสดุก่อสร้างในปี 2555 จะขยับตัวสูงขึ้นอย่างแน่นอน และอาจส่งผลต่อการกำหนดราคาขายบ้านจัดสรรโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ดี คาดว่าความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ในปี 2555 ผู้มีกำลังซื้อยังคงต้องการที่อยู่อาศัยซึ่งมีราคาตั้งแต่ 2 - 2.5 ล้านบาท โดยรูปแบบความต้องการจะเป็นทาวเฮ้าส์ และบ้านชั้นเดียวเป็นหลัก ขณะที่ความต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ยังมีอยู่สูง โดยกลุ่มผู้ซื้อมีความต้องการบ้านโดยไม่ผูกพันลักษณะทางกายภาพของพื้นที่

“ปีหน้าเราเตรียมที่ดินสำหรับเปิดโครงการใหม่ แต่ก็ต้องรอดูสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ก่อนว่าหลังน้ำลดแล้วราคาวัสดุก่อสร้างจะขยับตัวขึ้นมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ก็เพื่อจะได้กำหนดรูปแบบ และราคาบ้านได้อย่างถูกต้อง โดยคาดว่าโครงการในเฟสแรกจะปิดการขายได้ในปีนี้ ส่วนเฟสที่ 2 จะปิดการขายได้ในปีหน้า ”

ส่วนการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่อำเภอศรีราชานั้น ในปี 2555 บริษัทฯ ยังจะนำที่ดินกว่า 1 ไร่ติดถนนสุขุมวิท ด้านข้างห้างสรรพสินค้าโรบินสันศรีราชา มาพัฒนาเป็นโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ ระดับ 4 ดาว แห่งที่ 3 ขนาด 150 ยูนิต ภายใต้งบลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาทำงานและอาศัยอยู่ในพื้นที่ โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 18 เดือน จึงจะเปิดให้บริการได้

“ปัจจัยการเติบโตทางเศรษฐกิจของอำเภอศรีราชา ที่มาจากภาคธุรกิจนำเข้าและส่งออก รวมถึงการมีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก คือสิ่งที่เรามองว่าจะต้องมีการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวศูนย์การค้าฯ ที่เราเปิดมาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งถือเป็นปีที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจอย่างหนัก แต่เราผ่านมาได้และมีการขยายตัวทั้งกลุ่มลูกค้า และจำนวนร้านค้าที่เข้ามาเช่าพื้นที่จนเต็มศักยภาพในปัจจุบัน

เช่นเดียวกันการลงทุนด้านที่พักอาศัยก็เติบโตตามความต้องการของกลุ่มคนที่เข้ามาทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ เราสร้างเพื่อรองรับชาวญี่ปุ่น ส่วนชาวไทย เรามีโครงการบ้านจัดสรร ที่ขณะนี้พร้อมจะนำที่ดินที่มีในหลายพื้นที่ของจังหวัดมาพัฒนาแล้ว เพียงแต่ของดูทิศทางเศรษฐกิจอีกสักระยะ” นายสมบูรณ์ กล่าว