xs
xsm
sm
md
lg

ชี้ ราคาบ้านขึ้นแล้วลงยาก เพราะเป็นการวางล่วงหน้า คาดใช้โปรโมชันแทน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นายก ส.อสังหาฯ ชี้ ราคาบ้านขึ้นแล้วลดลงยาก แม้ราคาปูน กระเบื้อง จะปรับลดตามดีเซล เผย ที่ผ่านมา ปรับขึ้นไปเกือบ 4% โดยเป็นราคาล่วงหน้า คาดผู้ประกอบการใช้การจัดโปรโมชัน ลดแลกแจกแถม แทนการลดราคา

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยถึงราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวลดลง ทั้งปูนซีเมนต์ ขนาดถุง 50 กิโลกรัม ลดลง 5-10 บาท กระเบื้องมุงหลังคา ลดลงแผ่นละ 5 บาท ตามราคาน้ำมันดีเซลนั้น ไม่มีผลให้ราคาบ้านในไทยปรับตัว ลดลงแต่อย่างใด ทั้งราคาบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม เนื่องจากต้นทุนจากปูนซีเมนต์ และกระเบื้องมุงหลังคาคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ของต้นทุนการก่อสร้างทั้งหมด และยังคาดการณ์ไม่ได้ว่าราคาวัสดุก่อสร้างจะอยู่ในระดับ เท่าเดิมนานเพียงใด

นอกจากนี้ ยังพบว่า ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ได้ปรับขึ้นราคาบ้านไปแล้วประมาณ 3.84% สมาคมจึงมองว่าการที่ผู้ประกอบการจะกลับมาลดราคาขายบ้านคง เป็นเรื่องที่ยากพอสมควร โดยคาดว่า ผู้ประกอบการจะใช้วิธีทำ โปรโมชั่น และแจกของแถมให้กับผู้บริโภคแทนมากกว่า

“ผู้ประกอบการไม่สามารถลดราคาขายบ้านให้แก่ลูกค้าได้ เพราะที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นราคาขายบ้านในตลาด เฉลี่ยประมาณ 3.84% ไปแล้ว ตามต้นทุนในด้านอื่นๆ ที่สูงขึ้นมาก และส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะวางราคาขายไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงหันมาทำโปรโมชั่นและอัดของแจก แถม ให้กับลูกค้าแทน และอีกเหตุผลที่ผู้ประกอบการไม่สามารถลดราคาขายได้มาจากไม่รู้ว่าราคาปูนซีเมนต์จะอยู่ในระดับเท่าเดิมไปอีกนานเท่าไหร่”

ในขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการยังได้รับผลกระทบหนัก จากการขึ้นค่าแรง 300 บาทของรัฐบาล ทำให้มีต้นทุนสูงขึ้น 6-10% และอาจส่งผลให้บ้านในอนาคตปรับราคา ขึ้นได้ จึงประเมินไม่ได้ว่าราคาบ้านในปี 2555 จะปรับขึ้นในระดับเท่าใด

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผู้ประกอบการต้องการให้รัฐบาล เร่งดำเนินการมากที่สุด คือ การให้ความชัดเจนของนโยบายซื้อบ้านหลังแรกที่ยังไม่มีข้อสรุป ทำให้ขณะนี้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อบ้านออกไป จนกว่ารัฐบาลจะมีข้อสรุปในนโยบายนี้ออกมา

ส่วนภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในสิ้นปี 2554 คาดว่า อาจจะไม่มีการเติบโตหรืออาจติดลบเมื่อเทียบกับปี 2553 โดยคาดว่า จะมียอดจดทะเบียน 100,000 หน่วย (ยูนิต) เป็นผลมาจากมีหลายปัจจัยลบกระทบต่อกำลังซื้อ และความไม่ชัดเจนของนโยบายรัฐบาล คาดว่าคอนโดมิเนียม จะได้รับผลกระทบมากที่สุด เพราะมียอดการก่อสร้างจำนวนมาก และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการก่อสร้างโครงการใหม่จนเกินความต้องการของผู้บริโภค แตกต่างจากบ้านเดี่ยวที่ยังมีความต้องการในตลาดสูง แต่ก็มองว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจจากตลาดคอนโดมิเนียม มีน้อย ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของรายใหญ่ที่มีสภาพคล่องทางธุรกิจสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น