xs
xsm
sm
md
lg

เผย “คอขวด”คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ตัวขวางระบายน้ำตะวันออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ฉะเชิงเทรา – ชาวบ้านฉะเชิงเทรา ใต้ทางน้ำจากกรุงเทพฯ ไม่ขัดหาก ศปก.จะระบายน้ำเข้าพื้นที่ แนะก่อนเจาะถนน 5 สาย คิดให้ดีก่อน หากแก้ไม่ตรงจุดเท่ากับปล่อยน้ำเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เผยตัวการระบายน้ำฝั่งตะวันออก ล่าช้า คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิตมีสภาพเป็นคอขวด ที่ ต.คลองหลวงแพ่ง

นายสำเริง อินทร์เกตุ อายุ 46 ปี ชาวตำบลคลองหลวงแพ่ง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งมีที่พักอาศัยอยู่บริเวณริมคลองชลประทานพระองค์เจ้าไชยานุชิต หรือคลองหลวงแพ่ง เส้นทางระบายน้ำออกสู่ทะเลด้านฝั่งตะวันออก ของกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงกรณีที่ ศปภ.มีแผนที่จะเจาะถนนในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ รวม 5 สาย ประกอบด้วยถนนประชาร่วมใจ ถนนราษฎร์อุทิศ ถนนสุวินทวงศ์ ถนนร่วมพัฒนา และถนนนิมิตรใหม่เพื่อเปิดเส้นทางการระบายน้ำลงสู่คลองหลวงแพ่ง ออกสู่ทะเล ตามแนวคิดของ เอกชนบางราย และ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมว่า แผนงานดังกล่าวจะทำให้ ชาวคลองหลวงแพ่งได้รับผลกระทบโดยตรง

ทั้งนี้หากรัฐบาลหรือ ศปภ. จะระบายน้ำเพิ่มเข้ามาในพื้นที่ก็ขอให้เป็นการ ระบายผ่านเข้ามาอย่างเป็นระบบและมีขอบเขต หรือมีขีดจำกัดเท่าที่คลองพระองค์เจ้าไชยยานุชิตจะรองรับได้ โดยหากเป็นการระบายเข้ามาในแนวคลองที่ไม่สูงเกินกว่าคันดินที่กรมชลประทาน เพิ่งเข้ามาตักทำแนวขอบไว้ก็คงไม่เกิดปัญหา แต่ถ้าหากระบายเข้ามาเกินขีดจำกัดชาวบ้านก็คงได้รับความเดือดร้อน จึงขอรัฐบาลทบทวนและไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้จึงค่อยตัดสินใจ

ขณะที่ นายวินัย รัตนกำเนิด อายุ 49 ปี ซึ่งพักอยู่บ้านเลขที่ 59/3 หมู่ 8 ตำบลคลองหลวงแพ่ง กล่าวว่า ขณะนี้การระบายน้ำในคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ยังมีปัญหาอยู่ ซึ่งรัฐบาล หรือ ศปภ.ควรจะทำแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับทางเดินของน้ำให้ได้เสียก่อน ทั้งนี้ปัญหาในการระบายน้ำออกจากคลองพระองค์ไชยานุชิตลงสู่ทะเลในปัจจุบันยังมีปัญหาอยู่ เนื่องจากทางเดินของน้ำไม่สะดวกเพราะลำคลองยังเป็นคอขวด โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลคลองหลวงแพ่ง ที่เปรียบเสมือนตัวขวดและพื้นที่ก่อนที่จะออกสู่ทะเลไปยังเขตจังหวัดสมุทรปราการ ที่เปรียบเสมือนปากขวดที่ลีบและเล็ก ดังนั้นหาก ระบายน้ำเข้ามามากเท่าไหร่ก็ไม่สามารถระบายออกได้ทัน และจะล้นออกนอกลำคลอง

“โดยเฉพาะที่บริเวณสะพานรถไฟข้ามคลองบริเวณพื้นที่หมู่ 11 ตำบลคลองหลวงแพ่ง ระหว่างสถานีรถไฟคลองอุดมชลจร และสถานีรถไฟคลองหลวงแพ่ง หรือที่บริเวณแนวคลองระยะที่ 22+700 นั้นพบว่าที่บริเวณใต้สะพานมีทางเดินน้ำคับแคบมาก เพราะมีช่องใต้สะพานขนาดเล็กกว่าลำคลองที่ได้ขุดลอกขยายถึง 2 เท่า จึงทำให้น้ำจากทางตอนบนของลำคลองไม่สามารถระบายออกไปได้อย่างสะดวกและมองเห็นถึงความแตกต่างกันได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ที่บริเวณใต้คอสะพาน ยังตื้นเขินและมีสันดอนใต้น้ำสูงขึ้นมาก เนื่องจากการขุดลอกที่ผ่านมาเข้าไม่ถึง”

นายวินัย ยังเผยอีกว่า ศปภ. ควรที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาทางเดินของน้ำให้ตรงจุดเสียก่อนที่จะคิดเจาะถนนระบายน้ำออกจากกรุงเทพฯ เพราะหากเจาะระบายน้ำออกมาแล้วไม่มีทางไป หรือไม่มีทางระบายก็เท่ากับเปล่าประโยชน์ ซึ่งนอกจากที่บริเวณใต้คอสะพานรถไฟข้ามคลองคลองหลวงแพ่งแล้ว ศปภ. หรือรัฐบาลยังควรที่จะเจาะขยายลำคลองที่บริเวณแนวคอสะพานทุกสะพานไปจนถึงสถานีสูบน้ำคลองด่าน เนื่องจากที่ผ่านมา ชาวบ้านได้เดินทางไปดูแนวคลองตลอดสายจนถึงพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ แต่ปรากฏว่าน้ำในลำคลองพระองค์ไชยานุชิต ที่เขตจังหวัดสมุทรปราการ กลับมีระดับน้ำอยู่แค่เพียงครึ่งหนึ่งของลำคลองเท่านั้น ซึ่งสาเหตุเชื่อว่ามาจากสภาพลำคลองที่เป็นคอขวด



กำลังโหลดความคิดเห็น