ชาวบ้านแปดริ้วก้มหน้ารับกรรม หลังถูกสูบน้ำพ่นใส่หลายทิศทาง

ฉะเชิงเทรา -ชาวบ้านแปดริ้วก้มหน้ารับกรรมแทนคนเมืองกรุง หลังถูกรุมสูบน้ำพ่นใส่หลายทิศทางท่วม ทั้งหมู่บ้านใกล้แนวเขตทางผ่านการระบายน้ำ จากทางภาคเหนือ และเส้นทางรองรับน้ำทิ้งจากคนชาวกรุง พร้อมเร่งระดมสร้างสะพานทางเดินข้ามเข้าบ้านพักอาศัย ก่อนช่วยกันทำเขื่อนทรายปิดกั้นล้อมตัวบ้าน เพื่อวิดน้ำออกหนีสถานการณ์เอาตัวรอด

วันนี้ (12 ก.ย.) นางมณฑา แจ่มอุทัย อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/3 ม.13 ต.คลองหลวงแพ่ง อ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ขณะนี้ทุกหมู่บ้านใน เขต ต.คลองหลวงแพ่ง และ ต.คลองอุดมชลจร กำลังประสบปัญหาน้ำท่วมขังทั่วทั้งพื้นที่แล้ว เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กับแนวเส้นทางการระบายน้ำลงมาจากทางภาคเหนือ และเป็นแหล่งรองรับน้ำทิ้งจากคนในกรุงเทพฯ หลังจากทางเขตลาดกระบัง ซึ่งมีพื้นที่ติดกันได้เร่งระดมสูบระบายน้ำทิ้งออกมาใส่ชาวบ้านที่อยู่ทางด้านฝั่งจังหวัดฉะเชิงเทรา จนทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านทุกหมู่บ้านต่างพากันถูกน้ำท่วมกันแล้วอย่างถ้วนหน้า

นอกจากนี้ ทางด้านสนามบินสุวรรณภูมิ ยังได้เร่งระดมสูบน้ำออกมาจากพื้นที่อีกด้านหนึ่งด้วย และได้ระบายน้ำลงมาใส่ยังคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งเป็นคลองระบายน้ำเส้นเดียวกันกับโครงการชลประทานพระองค์ไชยานุชิต ที่รับน้ำที่ไหลเลี่ยงเมืองกรุงเทพลงมาจากทางภาคเหนือ เพื่อระบายออกสู่ทะเลที่ ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ โดยสาเหตุนั้นเชื่อว่า เป็นเพราะทางสถานีสูบน้ำที่คลองด่านนั้น สูบระบายน้ำออกไม่ทันต่อปริมาณน้ำที่มีเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ชาวฉะเชิงเทราต้องรับน้ำทิ้งมาจากหลายทิศทาง

ขณะนี้ชาวบ้านต่างได้พากันขนข้าวของหนีน้ำขึ้นไปไว้ยังชั้นบนของตัวบ้าน และทำสะพานเดินข้ามทางน้ำ และภายในตัวบ้านชั้นล่างที่ถูกน้ำท่วม จากนั้นจึงได้ช่วยกันนำกระสอบทรายมาปิดกั้นไว้เพื่อสูบวิดน้ำออก โดยชาวบ้านต่างก็ต้องทำใจยอมรับสภาพ หลังพื้นที่ถูกกำหนดให้เป็นเส้นทางการระบายน้ำเพื่อรับภาระแทนคนในเมืองกรุงเทพฯ โดยที่ไม่ได้มีการกำหนดกฎเกณฑ์การระบายน้ำที่เหมาะสม