ศปภ.วางแผนรอรับน้ำป้องกัน 3 จุดเสี่ยง ก่อนน้ำเข้ากรุง “เมืองเอก-คันกั้นน้ำคลอง 8 ถึงประตูน้ำจุฬาลงกรณ์-มหิดล ศาลายา” พร้อมเร่งขุดลอกคลอง 5 สายหลัก ระบายน้ำออกทะเลโดยเร็ว คาดเสร็จไม่เกิน 13 ต.ค.
วันนี้ (11 ต.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) นายวิม วัฒนจินดา โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แถลงข่าวถึงกรณีสถานการณ์น้ำท่วมในช่วงนี้ ว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา (10 ต.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น.หลังคันกั้นน้ำเจ้าพระยากับเขตเทศบาล อ.สามโคก เกิดการแตก และทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนในหลายพื้นที่ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้พยายามต่อสู้กับน้ำที่ไหลทะลักเข้ามา แต่ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ โดยมีการอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัย ซึ่งไม่มาก จึงไม่ใช่เรื่องยากในการอพยพ ถึงขณะนี้ได้ระดมกำลังทหารและกรมชลประทานเพื่อซ่อมพนังกั้นน้ำดังกล่าวแล้ว ส่วนในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกรัฐมนตรี ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปตรวจสภาพพื้นที่พร้อมทั้งนำอาหาร เครื่องดื่ม ไปส่งให้ในพื้นที่ห่างไกล เข้าถึงได้ยาก
นายวิม กล่าวต่อว่า ในการดำเนินการเพื่อป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ กทม.นั้น ที่ประชุม ศปภ.ได้มีการทำแผนในการป้องกันใน 3 จุด ที่น้ำจะเข้าสู่พื้นที่ กทม.คือ 1.บริเวณเมืองเอก 2.คันกั้นน้ำบริเวณคลอง 8 ถึงประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และ 3.บริเวณมหิดล ศาลายา โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จในวันที่ 16 ต.ค.นอกจากนี้ ยังให้มีการขุดลอกคลอง 5 คลองหลัก เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็ว โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จไม่เกินวันที่ 13 ต.ค.
“การประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีการสั่งปิดประตูระบาย น้ำคลอง 13 ที่จะระบายน้ำจากวังน้อย จ.อยุธยา และจังหวัดนครนายก มายังคลองแสนแสบ คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต และคลองประเวศ-บุรีรมย์ เพื่อเร่งระบายน้ำที่อยู่ในลำคลองดังกล่าวให้มีระดับลดลง พร้อมทำการขุดลอกคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ช่วง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ จนถึง คลองด่าน เพื่อไหลออกสู่ทะเล และขุดลอกคลองประเวศ-บุรีรมย์ ตั้งแต่ อบต.คลองหลวงแพ่ง ไปจนถึงแม่น้ำบางปะกง รวมถึงมีการขุดลอกคลองหนองงูเห่า คลองจระเข้ใหญ่ และคลองบางโฉลง เพื่อให้พร้อมที่จะรองรับการระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อการขุดลอกคลองทั้ง 5 เสร็จ ก็จะมีการเปิดประตูระบายน้ำคลอง 13 อีกครั้ง เพื่อทำการระบายน้ำต่อไป ส่วนการระบายน้ำทางฝั่งตะวันตกของ กทม.นั้น ขณะนี้รอเพียงระดับน้ำของแม่น้ำท่าจีนที่ยังคงมีระดับสูงและระบายค่อนข้างช้า ถ้าระดับน้ำแม่น้ำท่าจีน ลดลงจ ะสามารถรองรับน้ำได้อีกก็จะเร่งระบายไปทางฝั่งตะวันตกทันที” นายวิม กล่าว
