ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - น้ำมูลล้นทะลักท่วมเมืองพิมายโคราชแล้ว บ้านเรือน สถานที่ราชการ ทั้งโรงพัก-หอสมุดแห่งชาติ-สำนักงานที่ดินจม หลังฝนตกต่อเนื่อง 3 วัน สมทบน้ำเขื่อนเร่งระบาย ขณะน้ำในเขื่อนใหญ่ทุกแห่งวิกฤตเกินความจุสูง ไม่หยุดล้นสปิลล์เวย์ทะลักใต้เขื่อนต่อเนื่อง ระบุ “ลำตะคอง” จ่อล้นบานเสริมสปิลล์เวย์ใกล้จุดเตือนภัยระดับสูงสุดท่วมโคราชรุนแรง
วันนี้ (17 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.นครราชสีมา ว่า หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องอีก 3 วัน ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูล ช่วงผ่าน อ.พิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากอำเภอต่างๆ ของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 200 ไร่ ทั้งนาข้าว และไร่อ้อยของประชาชนใน ต.ท่าหลวง ต.สัมฤทธิ์ และ ต.ธารระหลอด อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้รับความเสียหาย และน้ำยังเอ่อเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชนในที่ลุ่มที่อยู่ติดลำน้ำมูลกว่า 50 หลังคาเรือน และระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุด น้ำในลำน้ำจักราช ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาลำมูล ที่ไหลผ่านกลางตัวเมืองพิมายได้เอ่อเข้าท่วมสถานที่ราชการต่างๆ ในพื้นที่อำเภอพิมาย เช่น สำนักงานที่ดิน สาขาพิมาย, หอสมุดแห่งชาติ อ.พิมาย, สำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดสาขาพิมาย โดยเฉพาะสถานีตำรวจภูธร (สภ.) พิมาย อ.พิมาย ระดับน้ำสูงประมาณ 20 เซนติเมตร และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันเร่งนำกระสอบทรายมาปิดกั้นเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าด้านในสถานีตำรวจ
นายวิจิตร สายเชื้อ นายอำเภอพิมาย กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกตำบล เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และรายงานระดับน้ำทุกพื้นที่ของอำเภอพิมายให้ทางอำเภอทราบทุกระยะ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ของ จ.นครราชสีมา รวม 22โครงการ ปริมาณน้ำเกินจุดวิกฤตทั้งหมดแล้วและล้นทะลักอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานชลประทานจังหวัดนครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ จ.นครราชสีมา 4 โครงการ วันนี้ (17 ต.ค.) มีปริมาณน้ำรวม 1,066.64 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 107.10% ของความจุระดับเก็บกัก รวม 995.52 ล้าน ลบ.ม.
โดยเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว ที่ไหลผ่านย่านเศรษฐกิจ ชุมชน หลายอำเภอรวมทั้งตัวเมืองนครราชสีมา มีปริมาณน้ำรวม 336.05 ล้าน ลบ.ม.(ไม่รวมน้ำบนอ่างเขายายเที่ยง 8.96 ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็น 106.86% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 314 ล้าน ลบ.ม. อยู่ในเกณฑ์แจ้งเตือนภัยน้ำท่วมระดับ 3 (เตรียมรับน้ำท่วม) และเหลือความจุอีกเพียง 17 ล้าน ลบ.ม.จะล้นบานประตูระบายน้ำล้นหรือ สปิลล์เวย์ ที่ทางเขื่อนได้เสริมแผ่นเหล็กเพิ่มความจุของเขื่อนเป็น 353 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเป็นจุดวิกฤตที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมโคราชรุนแรงหรืออยู่ในเกณฑ์การแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมขั้นสูงสุดระดับ 4 โดยล่าสุด มีน้ำไหลลงอ่าง 3.950 ล้าน ลบ.ม.และทางเขื่อน ระบายน้ำลงใต้เขื่อนวันละ 1.3-1.4 ล้าน ลบ.ม./วัน
ขณะที่เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำรวม 116.31 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 106.09% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 109 ล้าน ลบ.ม.ระดับน้ำสูงกว่าปากช่องสปิลล์เวย์ 90 ซม.ทำให้น้ำล้นลงพื้นที่ใต้เขื่อนอย่างต่อเนื่อง และ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 1.306 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำ 1.206 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำรวม 161.57 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 114.59% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 141 ล้าน ลบ.ม.และมีน้ำไหลลงอ่าง 4.680 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำได้เพียง 6.8 หมื่น ลบ.ม./วัน
และเขื่อนลำแชะ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำรวม 288.82 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 105.03% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 275 ล้าน ลบ.ม.มีน้ำไหลลงอ่าง 3.520 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำได้เพียง 7.9 หมื่น ลบ.ม./วัน ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำตามลำน้ำธรรมชาติพื้นที่ใต้เขื่อนล้วนเต็มตลิ่งอยู่แล้วจากการที่ฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การระบายน้ำออกจากเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 4 โครงการ ขณะนี้ทำได้ในปริมาณจำกัด
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 18 โครงการ ของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำรวม 166.87 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 98.77 % จากความจุที่ระดับเก็บกักรวม 168.94 ล้าน ลบ.ม.
ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำโดยรวมยังเป็นปกติ ปริมาณน้ำฝนไหลลงอ่างเก็บน้ำลดลง มีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนน้อยมาก โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง มีฝนตกเพียงแค่ 4.5 มิลลิเมตร เท่านั้น ทางอ่างฯ สามารถรับน้ำได้อีก 17 ล้าน ลบ.ม.หากดูจากสภาพอากาศวันนี้ค่อนข้างสบายใจได้ ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดครึ้ม แต่มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากมวลอากาศเย็นแผ่เข้ามาปกคลุมในพื้นที่ส่งผลให้ฝนลดลงจึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ มากนัก
ส่วนน้ำที่ท่วมในพื้นที่ อ.พิมาย นั้น เกิดจากน้ำฝนที่ตกลงในพื้นที่ใต้เขื่อนและน้ำจากเขื่อนต่างๆ ระบายลงสู่ลำน้ำมูล จึงทำให้น้ำเอ่อเข้าท่วมสถานที่ราชการและบ้านเรือนประชาชน คาดว่า ปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 ซม.ซึ่งไม่สูงเท่ากับปีที่ผ่านมาที่เกิดน้ำท่วม อ.พิมาย รุนแรงระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และคาดว่า จะใช้เวลาไม่นานระดับน้ำมูลจะลดลง