ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ระทึก! ดินหลังประตูระบายน้ำ “เขื่อนพิมาย” ทรุดหลังน้ำทะลักหนัก ด้าน ผอ.เขื่อน ยันไม่กระทบความแข็งแรง คาด เกิดจากน้ำมากกัดเซาะ ระดม จนท.อุดโพรงที่เกิดจากดินทรุดแล้ว ขณะโคราชสรุปถูกน้ำท่วมแล้ว 13 อำเภอ พื้นที่เกษตรเสียหายกว่า 6 หมื่นไร่ อ.พิมาย-ชุมพวง-เมืองยาง หนักสุด ด้านเขื่อนใหญ่น้ำล้นเกินความจุสูงต่อเนื่อง “ลำตะคอง” ใกล้วิกฤตจ่อล้นสปิลล์เวย์
วันนี้ (18 ต.ค.) ศูนย์เตือนภัยพิบัติจังหวัดนครราชสีมา (ศตภ.จว.นม.) สรุปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุด จนถึงขณะนี้มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้วทั้งหมด 13 อำเภอ 47 ตำบล 179 หมู่บ้าน 578 หลังคาเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 61,842 ไร่ ถนนถูกน้ำท่วม 129 สาย โรงเรียนถูกน้ำท่วม 1 แห่ง และ วัดอีก 2 แห่ง แบ่งเป็น อ.โนนสูง, อ.หนองบุญมาก, อ.ชุมพวง, อ.โนนไทย, อ.จักราช, อ.ครบุรี, อ.บัวใหญ่, อ.เมืองนครราชสีมา, อ.พิมาย,อ.แก้งสนามนาง, อ.เมืองยาง อ.ห้วยแถลง และ อ.เฉลิมพระเกียรติ
สำหรับพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมสูงและเป็นบริเวณกว้าง ได้แก่ อ.พิมาย น้ำท่วมแล้ว 11 ตำบล 39 หมู่บ้าน 303 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรเสียหาย 10,528 ไร่ ถนน 46 สาย ต้องการเรือท้องแบน, รองลงมาคือ อ.ชุมพวง น้ำท่วมแล้ว 7 ตำบล 51 หมู่บ้าน 64 หลังคาเรือน พื้นที่เกษตรเสียหาย 12,862 ไร่ ถนน 24 สาย โรงเรียน 1 แห่ง และวัด 2 แห่ง และ อ.เมืองยาง น้ำท่วม 4 ตำบล 14 หมู่บ้าน 16 หลังคาเรือน ถนนถูกน้ำท่วม 5 สาย พื้นที่เกษตรเสียหาย 23,511 ไร่
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ยังขยายวงกว้างต่อเนื่องและเพิ่มระดับสูงขึ้นโดยระดับน้ำที่ท่วม สภ.พิมาย และ สถานที่ราชการต่างๆ สูงประมาณ 50 ซม.
นอกจากนี้ น้ำในเขื่อนพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นเขื่อนทดน้ำและระบายน้ำลำน้ำมูล มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องเช่นกันสาเหตุเกิดจากฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อน และการระบายน้ำของเขื่อนขนาดใหญ่ใน จ.นครราชสีมา ลงมาตามลำตะคอง, ลำบริบูรณ์ และ ลำน้ำมูล ไหลลงสู่ อ.พิมาย เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์อำเภอพิมาย ต้องระดมนำเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำลงสู่ด้านล่างให้เร็วที่สุด
ล่าสุด ได้เกิดเหตุ ดินด้านข้างหลังประตูระบายน้ำเขื่อนพิมายทรุดตัวลง ทำให้เกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่ลึกกว่า 3 เมตร กว้าง 2 เมตร ทางเขื่อนต้องระดมเจ้าหน้าที่นำดิน หิน และปูนซีเมนต์ จำนวนมากมาเทอุดจุดที่ดินทรุดตัว เพื่อป้องกันไม่ให้ดินทรุดตัวขยายวงกว้างออกไปอีก ซึ่งคาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากปริมาณน้ำในเขื่อนมีมากและกัดเซาะดิน ทำให้เกิดการทรุดตัวดังกล่าว
ด้าน นายกิติกุล เสภาศีราภรณ์ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ อำเภอพิมาย เปิดเผยว่า การทรุดตัวของดินด้านหลังประตูระบายน้ำเขื่อนพิมายนั้น ไม่มีผลต่อความแข็งแรงมั่นคงของเขื่อนแต่อย่างใด ยืนยันว่า เขื่อนพิมายยังแข็งแรงดี ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้นำปูนซีเมนต์และหิน มาอุดโพรงดินดังกล่าวและเพื่อป้องกันไม่ให้ น้ำในเขื่อนกัดเซาะเพิ่มเติมอีก อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด
ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำ หรือเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลาง ของ จ.นครราชสีมา รวม 22 โครงการนั้น ยังคงล้นเกินความจุเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ จ.นครราชสีมา 4 โครงการ ล่าสุด วันนี้ (18 ต.ค.) ระบุว่า เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำรวม 338.360 ล้าน ลบ.ม.(ไม่รวมน้ำบนอ่างเขายายเที่ยง 8.96 ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็น 107.59 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 314 ล้าน ลบ.ม.(คิดเป็น 95.85% ของความจุเก็บกักเพิ่มใหม่ 353 ล้าน ลบ.ม.) น้ำไหลลงอ่าง 3.770 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำ 1.369 ล้าน ลบ.ม.
อยู่ในเกณฑ์แจ้งเตือนภัยน้ำท่วมระดับ 3 และเหลือความจุอีกเพียงประมาณ 15 ล้าน ลบ.ม.จะล้นบานประตูระบายน้ำล้น หรือ สปิลล์เวย์ ที่ทางเขื่อนเสริมแผ่นเหล็กเพิ่มความจุเป็น 353 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเป็นจุดวิกฤตจะทำให้เกิดน้ำท่วมโคราชรุนแรง หรืออยู่ในเกณฑ์แจ้งเตือนภัยน้ำท่วมขั้นสูงสุดระดับ 4
ขณะที่ เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำรวม 118.260 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 107.87% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 109 ล้าน ลบ.ม. ระดับน้ำสูงล้นช่องสปิลล์เวย์ต่อเนื่อง และมีน้ำไหลลงอ่าง 3.558 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำ 1.608 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำรวม 172.460 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 122.31% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 141 ล้าน ลบ.ม.น้ำไหลลงอ่าง 12.930 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำ 0.710 ล้าน ลบ.ม.
และเขื่อนลำแชะ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำรวม 303.880 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 110.50% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 275 ล้าน ลบ.ม.มีน้ำไหลลงอ่าง 15.010 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 0.920 ล้าน ลบ.ม.