ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ลุ่มแม่น้ำหลักโคราชเพิ่มระดับสูงต่อเนื่องท่วมขยายวงกว้าง เผยน้ำมูลจ่อล้นแนวกระสอบทรายทะลักจม “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย” แหล่งรวมโบราณวัตถุสำคัญของชาติกว่า 3,000 ชิ้น สรุปโคราชล่าสุดท่วมแล้ว 15 อำเภอ ใน 7 ลุ่มน้ำ เดือดร้อน 1,451 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตรจม 6.5 หมื่นไร่ ขณะน้ำเขื่อนใหญ่-กลางโคราช ยังเพิ่มไม่หยุด แต่โชคดีไม่มีฝนตกซ้ำเติม
วันนี้ (20 ต.ค.54) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุดมีพื้นที่ประสบอุทกภัยรวมรวม 7 ลุ่มน้ำ 15 อำเภอ 55 ตำบล 159 หมู่บ้าน 1,451 หลังคาเรือน พื้นที่การเกษตร 65,910 ไร่ ถนน 146 สาย บ่อปลา 205 ไร่ แบ่งเป็น 1. ลุ่มน้ำลำเชียงไกร ประกอบด้วย อ.โนนสูง ,โนนไทย 2.ลุ่มน้ำลำจักราช-ลุ่มน้ำมูล ประกอบด้วย อ.หนองบุญมาก, จักราช ,ชุมพวง , พิมาย ,เฉลิมพระเกียรติ
3.ลุ่มน้ำลำพระเพลิง -ลุ่มลำมาศตอนบน ประกอบด้วย อ.ครบุรี,เสิงสาง 4.ลุ่มน้ำลำสะแทด ประกอบด้วย อ.บัวใหญ่ 5.ลุ่มน้ำลำตะคอง ประกอบด้วย อำเภอเมืองนครราชสีมา 6.ลุ่มน้ำชี ประกอบด้วย อ.แก้งสนางนาง 7.ลุ่มลำมาศตอนปลาย อ.ห้วยแถลง , อ.เมืองยาง
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.พิมาย ล่าสุดปริมาณน้ำมูลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไหลเข้าท่วม สำนักงานการประปาส่วนภูมิภาคอำเภอพิมาย มีระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 20 เซนติเมตร (ซม.) และปริมาณน้ำยังไหลเข้าท่วมถนนทางเข้า สภ.พิมาย ระดับน้ำสูงประมาณ 70 ซม. รถยนต์เล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ประชาชนที่มาติดต่อราชการต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน นอกจากนี้ยังไหลเข้าท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้านขาม ต.ในเมือง อ.พิมาย สูงประมาณ 20 ซม. และ ท่วมบ้านเรือนประชาชนในหมู่บ้านม่วง ต.ในเมือง อ.พิมาย ได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน
สำหรับบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ซึ่งอยู่ติดกับลำน้ำมูล และเป็นสถานที่เก็บรวบรวมโบราณวัตถุสำคัญของชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโบราณวัตถุสำคัญของอีสานใต้จำนวนกว่า 3,000 ชิ้น เจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมาทำกำแพงสูงกั้นไม่ให้น้ำมูลไหลเข้าท่วมภายในพิพิธภัณฑฯ ล่าสุดปริมาณน้ำปริ่มกำแพงกระสอบทรายแล้ว เหลืออีกไม่กี่เซนติเมตรก็จะไหลเข้าภายในบริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ปริมาณน้ำมูลที่ท่วมสูงยังส่งผลให้ร้านอาหารที่อยู่ตามลำมูลต้องปิดกิจการชั่วคราว เช่น สวนอาหารริมมูล สวนอาหารสบายดี สวนอาหารเคียงมูล เนื่องจากน้ำได้เอ่อเข้าท่วมร้านค้าทั้งหมด อย่างไรก็ตาม สถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอพิมายยังต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ขณะที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนขนาดใหญ่ 4 โครงการ และอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 18 แห่ง ของ จ.นครราชสีมา ซึ่งปริมาณน้ำเกินความจุระดับเก็บกักทั้งหมดแล้วนั้น ล่าสุดระดับน้ำยังคงเพิ่มแต่เพิ่มในอัตราที่ลดลง เนื่องจากขณะนี้พื้นที่จ.นครราชสีมาไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติมทำให้น้ำไหลลงเหนือเขื่อนน้อยลง ซึ่งโครงการชลประทานนครราชสีมา รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 4 โครงการ ของจ.นครราชสีมา วันนี้ ( 20 ต.ค.) ระบุว่า มีปริมาณน้ำรวม 1,111.31 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 111.59 % ของความจุที่ระดับเก็บกักรวม 995.90 ล้านลบ.ม. มีปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 10.898 ล้านลบ.ม. ระบายน้ำ 8.716 ล้านลบ.ม.
โดยเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำรวม 342.60 ล้าน ลบ.ม. (ไม่รวมน้ำบนอ่างเขายายเที่ยง 8.96 ล้าน ลบ.ม.) คิดเป็น 111.77 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 314 ล้าน ลบ.ม. (คิดเป็น 97.05% ของความจุเก็บกักเพิ่มใหม่ 353 ล้านลบ.ม. ซึ่งถือเป็นจุดวิกฤตจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมโคราชระดับรุนแรง) น้ำไหลลงอ่าง 2.60 ล้านลบ.ม. ระบายน้ำ 1.1 ล้านลบ.ม.
ขณะที่เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำรวม 116.75 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 106.49 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 109 ล้าน ลบ.ม. ไม่มีน้ำไหลลงอ่าง ระบายน้ำ 1 ล้านลบ.ม.
เขื่อนมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำรวม 176.26 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 125.01 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 141 ล้าน ลบ.ม. น้ำไหลลงอ่าง 1.948 ล้านลบ.ม. ระบายน้ำ 1.490 ล้านลบ.ม.
และ เขื่อนลำแชะ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำรวม 308 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 112 % ของความจุที่ระดับเก็บกัก 275 ล้าน ลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่าง 1.507 ล้านลบ.ม. ระบายน้ำ 1.343 ล้านลบ.ม.
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลางจำนวน 18 แห่งของ จ.นครราชสีมา ล่าสุดวันนี้ ( 20 ต.ค.) มีปริมาณน้ำ 175.44 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 103.85 % ของความจุระดับเก็บกักรวม 168.94 ล้านลบ.ม. มีน้ำไหลลงอ่างรวม 6.059 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำ 4.737 ล้านลบ.ม.
