ศูนย์ข่าวภูมิภาค-น้ำมูลทะลักท่วมเมืองพิมาย แล้ว บ้านเรือน-สถานที่ราชการจม ขณะที่น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลาง 22 โครงการเกินจุดวิกฤตทั้งหมด จนท.ต้องเร่งระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อน และเตือนชาวบ้านเตรียมรับมือน้ำท่วม "กันทรารมย์"กระอักน้ำท่วมถึงหลังคา ชาวบ้านอพยพโกลาหล ส่วนบุรีรัมย์หอพักนักศึกษาเริ่มจม ขณะที่ 4 โรงงานตัดเย็บในศูนย์ซีเบริ์ดบุรีรัมย์เร่งขนย้ายเครื่องจักรขึ้นที่สูง พร้อมสร้างพนังกั้นน้ำป้องกัน โดยที่โรงงานบางส่วนโดนท่วมแล้ว ตร.กรุงเก่ารวบแก๊งแมวน้ำพายเรือตะเวนขโมยของ
วานนี้(17 ต.ค.)หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องอีก 3 วันในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูล ช่วงผ่าน อ.พิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากอำเภอต่างๆ ของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 200 ไร่ ทั้งนาข้าวและไร่อ้อยของประชาชนใน ต.ท่าหลวง ต.สัมฤทธิ์ และ ต.ธารระหลอด อ.พิมาย ได้รับความเสียหาย และน้ำยังเอ่อเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชนในที่ลุ่มที่อยู่ติดลำน้ำมูลกว่า 50 หลังคาเรือนและระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุดน้ำในลำน้ำจักราช ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาลำมูลที่ไหลผ่านกลางตัวเมืองพิมายได้เอ่อเข้าท่วมสถานที่ราชการต่างๆ ในพื้นที่ อ.พิมาย โดยเฉพาะ สภ.พิมาย ระดับน้ำสูงประมาณ 20 ซม.และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันเร่งนำกระสอบทรายมาปิดกั้นเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าด้านในสถานีตำรวจ
ขณะที่นายวิจิตร สายเชื้อ นายอำเภอพิมาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกตำบล เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และ รายงานระดับน้ำทุกพื้นที่ของอำเภอพิมายให้ทางอำเภอทราบทุกระยะ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
**เผยน้ำทุกเขื่อนเกินจุดวิกฤตทั้งหมดแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางของ จ.นครราชสีมา รวม 22 โครงการปริมาณน้ำเกินจุดวิกฤตทั้งหมดแล้วและล้นทะลักอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานชลประทานฯได้รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 4 โครงการ วานนี้(17)ว่า มีปริมาณน้ำรวม 1,066.64 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 107.10% ของความจุระดับเก็บกัก รวม 995.52 ล้าน ลบ.ม.
โดยเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้วที่ไหลผ่านย่านเศรษฐกิจ ชุมชน หลายอำเภอรวมทั้งตัวเมืองนครราชสีมา มีปริมาณน้ำรวม 336.05 ล้าน ลบ.ม.(ไม่รวมน้ำบนอ่างเขายายเที่ยง 8.96 ล้าน ลบ.ม.)คิดเป็น 106.86% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 314 ล้าน ลบ.ม.อยู่ในเกณฑ์แจ้งเตือนภัยน้ำท่วมระดับ 3 (เตรียมรับน้ำท่วม)และเหลือความจุอีกเพียง 17 ล้าน ลบ.ม.จะล้นบานประตูระบายน้ำล้นหรือสปิลล์เวย์ที่ทางเขื่อนได้เสริมแผ่นเหล็กเพิ่มความจุของเขื่อนเป็น 353 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเป็นจุดวิกฤตที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมโคราชรุนแรงหรืออยู่ในเกณฑ์การแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมขั้นสูงสุดระดับ 4 โดยล่าสุด มีน้ำไหลลงอ่าง 3.950 ล้าน ลบ.ม.และทางเขื่อน ระบายน้ำลงใต้เขื่อนวันละ 1.3-1.4 ล้าน ลบ.ม./วัน
เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำรวม 116.31 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 106.09% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 109 ล้าน ลบ.ม.ระดับน้ำสูงกว่าปากช่องสปิลล์เวย์ 90 ซม.ทำให้น้ำล้นลงพื้นที่ใต้เขื่อนอย่างต่อเนื่อง และ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 1.306 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำ 1.206 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรีมีปริมาณน้ำรวม 161.57 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 114.59% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 141 ล้าน ลบ.ม.และมีน้ำไหลลงอ่าง 4.680 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำได้เพียง 6.8 หมื่น ลบ.ม./วัน
และเขื่อนลำแชะ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำรวม 288.82 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 105.03% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 275 ล้าน ลบ.ม.มีน้ำไหลลงอ่าง 3.520 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำได้เพียง 7.9 หมื่น ลบ.ม./วัน ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำตามลำน้ำธรรมชาติพื้นที่ใต้เขื่อนล้วนเต็มตลิ่งอยู่แล้วจากการที่ฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การระบายน้ำออกจากเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 4 โครงการ ขณะนี้ทำได้ในปริมาณจำกัด
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 18 โครงการ ของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำรวม 166.87 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 98.77% จากความจุที่ระดับเก็บกักรวม 168.94 ล้าน ลบ.ม.
**สำนักชลฯยันน้ำโดยรวมยังปกติ
ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำโดยรวมยังเป็นปกติ ปริมาณน้ำฝนไหลลงอ่างเก็บน้ำลดลง มีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนน้อยมาก โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง มีฝนตกเพียงแค่ 4.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ทางอ่างฯสามารถรับน้ำได้อีก 17 ล้าน ลบ.ม.หากดูจากสภาพอากาศวันนี้ค่อนข้างสบายใจได้ ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มแต่มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากมวลอากาศเย็นแผ่เข้ามาปกคลุมในพื้นที่ส่งผลให้ฝนลดลงจึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำต่างๆ มากนัก
ส่วนน้ำที่ท่วมในพื้นที่ อ.พิมาย เกิดจากน้ำฝนที่ตกลงในพื้นที่ใต้เขื่อนและน้ำจากเขื่อนต่างๆ ระบายลงสู่ลำน้ำมูล จึงทำให้น้ำเอ่อท่วมสถานที่ราชการและบ้านเรือนประชาชน คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 ซม.ซึ่งไม่สูงเท่ากับปีที่ผ่านมาที่เกิดน้ำท่วม อ.พิมาย รุนแรงระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานระดับน้ำมูลจะลดลง
**น้ำมูลทะลักท่วม“กันทรารมย์”
ที่ จ.ศรีสะเกษ บริเวณกลางทุ่งนา บ้านโคกสะอาด ต.ดูน อ.กันทรารมย์ ซึ่งอยู่ห่างจากแม่น้ำมูลประมาณ 1 กม.น้ำจากแม่น้ำมูลได้เอ่อล้นล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าไปท่วมไร่นา บ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วมาก และน้ำได้ท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน 4 หลังระดับน้ำสูงถึงหลังคาบ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องพากันนำเอาทรัพย์สินของมีค่าบรรทุกบนเรือ ขนหนีน้ำไปอยู่ริมถนนสาย อ.กันทรารมย์-อ.ยางชุมน้อย หลัก กม.ที่ 5 ต.ดูน อ.กันทรารมย์ พร้อมทั้งนำเอารถบรรทุก 6 ล้อมาบรรทุกข้าวของ เครื่องใช้ ไปฝากไว้บ้านญาติพี่น้อง ซึ่งอยู่ในที่สูงเป็นการชั่วคราว และ ปล่อยให้น้ำท่วมบ้านเรือนโดยที่ไม่สามารถป้องกันแก้ไขปัญหาอะไรได้
**"รง.ซีเบิร์ด"เร่งย้ายเครื่องจักร
สวนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ได้ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรจมน้ำเสียหายแล้วหลายหมื่นไร่ และยังมีฝนตกกระจายทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัด ประกอบกับน้ำเหนือจาก จ.นครราชสีมา ยังไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าระดับน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ จะเพิ่มสูงขึ้นอีก
ขณะที่โรงงานตัดเย็บทั้ง 4 บริษัท ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสาน หรือศูนย์ซีเบิร์ดลำปลายมาศ ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ ประกอบด้วย โรงงานผลิตกระเป๋า ของบริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด,โรงงานตัดเย็บรองเท้า ของ บริษัทบุรีรัมย์แพนฟุตแวร์ จำกัด,โรงงานตัดเย็บเครื่องนอนส่งออกต่างประเทศของบริษัท วราพร กาเมน จำกัด และบริษัทตัดเย็บชุดชั้นใน ซึ่งมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 800 คนได้เร่งช่วยกันขนย้ายเครื่องจักร และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตขึ้นสู่ที่สูง พร้อมได้ก่ออิฐบล็อกและวางแนวกระสอบทรายกั้นรอบอาคารและบริเวณโรงงานเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมภายในโรงงาน ซึ่งขณะนี้น้ำได้เริ่มเอ่อท่วมภายในโรงงานแล้วบางส่วน
**ตำรวจกรุงเก่ารวบแก๊งแมวน้ำ
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากชาวบ้านจะต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักอยู่ในขณะนี้แล้ว จะต้องมาพบกับปัญหาแก๊งแมวน้ำที่ออกอาละวาดพายเรือตระเวนลักของชาวบ้านด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับได้หลายรายแล้ว
โดยวานนี้ พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า จากกรณีที่มีแก๊งแมวน้ำออกขโมยของตามร้านสะดวกซื้อช่วงที่มีน้ำท่วมรอบเกาะเมือง เป็นการซ้ำเติมชาวบ้าน ทางตำรวจได้ประสานกับตำรวจน้ำออกติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหากลุ่มนี้ จนสามารถจับผู้ต้องหาได้ 3 คน คือ นายประวิทย์ เขมปัญญา อายุ 30 ปี นายชัยชาญ กลิ่นวิโถ อายุ 34 ปี และนายพงศกร พันธุ์สาลี อายุ 24 ปี ขณะกำลังพายเรือออกตระเวนลักทรัพย์ในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ซึ่งถูกน้ำท่วมกลางเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า สาเหตุที่เข้าไปลักทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ เพราะไม่อยากกินมาม่าเพียงอย่างเดียว และต้องออกไปรับของ แต่ไม่มีของ
วานนี้(17 ต.ค.)หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องอีก 3 วันในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในลำน้ำมูล ช่วงผ่าน อ.พิมาย ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากอำเภอต่างๆ ของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องและเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ทางการเกษตรกว่า 200 ไร่ ทั้งนาข้าวและไร่อ้อยของประชาชนใน ต.ท่าหลวง ต.สัมฤทธิ์ และ ต.ธารระหลอด อ.พิมาย ได้รับความเสียหาย และน้ำยังเอ่อเข้าท่วม บ้านเรือนประชาชนในที่ลุ่มที่อยู่ติดลำน้ำมูลกว่า 50 หลังคาเรือนและระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
ล่าสุดน้ำในลำน้ำจักราช ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาลำมูลที่ไหลผ่านกลางตัวเมืองพิมายได้เอ่อเข้าท่วมสถานที่ราชการต่างๆ ในพื้นที่ อ.พิมาย โดยเฉพาะ สภ.พิมาย ระดับน้ำสูงประมาณ 20 ซม.และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันเร่งนำกระสอบทรายมาปิดกั้นเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าด้านในสถานีตำรวจ
ขณะที่นายวิจิตร สายเชื้อ นายอำเภอพิมาย ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมและสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกตำบล เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และ รายงานระดับน้ำทุกพื้นที่ของอำเภอพิมายให้ทางอำเภอทราบทุกระยะ เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที
**เผยน้ำทุกเขื่อนเกินจุดวิกฤตทั้งหมดแล้ว
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหรือเขื่อนทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางของ จ.นครราชสีมา รวม 22 โครงการปริมาณน้ำเกินจุดวิกฤตทั้งหมดแล้วและล้นทะลักอย่างต่อเนื่อง โดยสำนักงานชลประทานฯได้รายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ 4 โครงการ วานนี้(17)ว่า มีปริมาณน้ำรวม 1,066.64 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 107.10% ของความจุระดับเก็บกัก รวม 995.52 ล้าน ลบ.ม.
โดยเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้วที่ไหลผ่านย่านเศรษฐกิจ ชุมชน หลายอำเภอรวมทั้งตัวเมืองนครราชสีมา มีปริมาณน้ำรวม 336.05 ล้าน ลบ.ม.(ไม่รวมน้ำบนอ่างเขายายเที่ยง 8.96 ล้าน ลบ.ม.)คิดเป็น 106.86% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 314 ล้าน ลบ.ม.อยู่ในเกณฑ์แจ้งเตือนภัยน้ำท่วมระดับ 3 (เตรียมรับน้ำท่วม)และเหลือความจุอีกเพียง 17 ล้าน ลบ.ม.จะล้นบานประตูระบายน้ำล้นหรือสปิลล์เวย์ที่ทางเขื่อนได้เสริมแผ่นเหล็กเพิ่มความจุของเขื่อนเป็น 353 ล้าน ลบ.ม.ซึ่งเป็นจุดวิกฤตที่จะทำให้เกิดน้ำท่วมโคราชรุนแรงหรืออยู่ในเกณฑ์การแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมขั้นสูงสุดระดับ 4 โดยล่าสุด มีน้ำไหลลงอ่าง 3.950 ล้าน ลบ.ม.และทางเขื่อน ระบายน้ำลงใต้เขื่อนวันละ 1.3-1.4 ล้าน ลบ.ม./วัน
เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำรวม 116.31 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 106.09% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 109 ล้าน ลบ.ม.ระดับน้ำสูงกว่าปากช่องสปิลล์เวย์ 90 ซม.ทำให้น้ำล้นลงพื้นที่ใต้เขื่อนอย่างต่อเนื่อง และ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่าง 1.306 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำ 1.206 ล้าน ลบ.ม.
เขื่อนมูลบน ต.จระเข้หิน อ.ครบุรีมีปริมาณน้ำรวม 161.57 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 114.59% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 141 ล้าน ลบ.ม.และมีน้ำไหลลงอ่าง 4.680 ล้าน ลบ.ม.ระบายน้ำได้เพียง 6.8 หมื่น ลบ.ม./วัน
และเขื่อนลำแชะ ต.โคกกระชาย อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำรวม 288.82 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 105.03% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 275 ล้าน ลบ.ม.มีน้ำไหลลงอ่าง 3.520 ล้าน ลบ.ม. ระบายน้ำได้เพียง 7.9 หมื่น ลบ.ม./วัน ทั้งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำตามลำน้ำธรรมชาติพื้นที่ใต้เขื่อนล้วนเต็มตลิ่งอยู่แล้วจากการที่ฝนยังตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การระบายน้ำออกจากเขื่อนขนาดใหญ่ทั้ง 4 โครงการ ขณะนี้ทำได้ในปริมาณจำกัด
สำหรับอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 18 โครงการ ของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำรวม 166.87 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 98.77% จากความจุที่ระดับเก็บกักรวม 168.94 ล้าน ลบ.ม.
**สำนักชลฯยันน้ำโดยรวมยังปกติ
ม.ล.อนุมาศ ทองแถม ผอ.สำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำโดยรวมยังเป็นปกติ ปริมาณน้ำฝนไหลลงอ่างเก็บน้ำลดลง มีฝนตกในพื้นที่เหนือเขื่อนน้อยมาก โดยเฉพาะเขื่อนลำตะคอง มีฝนตกเพียงแค่ 4.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ทางอ่างฯสามารถรับน้ำได้อีก 17 ล้าน ลบ.ม.หากดูจากสภาพอากาศวันนี้ค่อนข้างสบายใจได้ ถึงแม้ท้องฟ้าจะมืดครึ้มแต่มีฝนโปรยปรายลงมาเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากมวลอากาศเย็นแผ่เข้ามาปกคลุมในพื้นที่ส่งผลให้ฝนลดลงจึงไม่น่าเป็นห่วงเรื่องปริมาณน้ำที่จะไหลลงอ่างเก็บน้ำต่างๆ มากนัก
ส่วนน้ำที่ท่วมในพื้นที่ อ.พิมาย เกิดจากน้ำฝนที่ตกลงในพื้นที่ใต้เขื่อนและน้ำจากเขื่อนต่างๆ ระบายลงสู่ลำน้ำมูล จึงทำให้น้ำเอ่อท่วมสถานที่ราชการและบ้านเรือนประชาชน คาดว่าปริมาณน้ำจะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 20 ซม.ซึ่งไม่สูงเท่ากับปีที่ผ่านมาที่เกิดน้ำท่วม อ.พิมาย รุนแรงระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร และคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานระดับน้ำมูลจะลดลง
**น้ำมูลทะลักท่วม“กันทรารมย์”
ที่ จ.ศรีสะเกษ บริเวณกลางทุ่งนา บ้านโคกสะอาด ต.ดูน อ.กันทรารมย์ ซึ่งอยู่ห่างจากแม่น้ำมูลประมาณ 1 กม.น้ำจากแม่น้ำมูลได้เอ่อล้นล้นตลิ่งไหลทะลักเข้าไปท่วมไร่นา บ้านเรือนของชาวบ้าน ซึ่งระดับน้ำได้สูงขึ้นอย่างรวดเร็วมาก และน้ำได้ท่วมบ้านเรือนของชาวบ้าน 4 หลังระดับน้ำสูงถึงหลังคาบ้าน ทำให้ชาวบ้านต้องพากันนำเอาทรัพย์สินของมีค่าบรรทุกบนเรือ ขนหนีน้ำไปอยู่ริมถนนสาย อ.กันทรารมย์-อ.ยางชุมน้อย หลัก กม.ที่ 5 ต.ดูน อ.กันทรารมย์ พร้อมทั้งนำเอารถบรรทุก 6 ล้อมาบรรทุกข้าวของ เครื่องใช้ ไปฝากไว้บ้านญาติพี่น้อง ซึ่งอยู่ในที่สูงเป็นการชั่วคราว และ ปล่อยให้น้ำท่วมบ้านเรือนโดยที่ไม่สามารถป้องกันแก้ไขปัญหาอะไรได้
**"รง.ซีเบิร์ด"เร่งย้ายเครื่องจักร
สวนสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ได้ขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะพื้นที่นาข้าวของเกษตรกรจมน้ำเสียหายแล้วหลายหมื่นไร่ และยังมีฝนตกกระจายทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัด ประกอบกับน้ำเหนือจาก จ.นครราชสีมา ยังไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่อง และคาดการณ์ว่าระดับน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ จะเพิ่มสูงขึ้นอีก
ขณะที่โรงงานตัดเย็บทั้ง 4 บริษัท ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์พัฒนาชนบทผสมผสาน หรือศูนย์ซีเบิร์ดลำปลายมาศ ต.โคกกลาง อ.ลำปลายมาศ ประกอบด้วย โรงงานผลิตกระเป๋า ของบริษัท นารายณ์อินเตอร์เทรด จำกัด,โรงงานตัดเย็บรองเท้า ของ บริษัทบุรีรัมย์แพนฟุตแวร์ จำกัด,โรงงานตัดเย็บเครื่องนอนส่งออกต่างประเทศของบริษัท วราพร กาเมน จำกัด และบริษัทตัดเย็บชุดชั้นใน ซึ่งมีพนักงานทั้งหมดประมาณ 800 คนได้เร่งช่วยกันขนย้ายเครื่องจักร และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตขึ้นสู่ที่สูง พร้อมได้ก่ออิฐบล็อกและวางแนวกระสอบทรายกั้นรอบอาคารและบริเวณโรงงานเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำทะลักเข้าท่วมภายในโรงงาน ซึ่งขณะนี้น้ำได้เริ่มเอ่อท่วมภายในโรงงานแล้วบางส่วน
**ตำรวจกรุงเก่ารวบแก๊งแมวน้ำ
ส่วนที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นอกจากชาวบ้านจะต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมอย่างหนักอยู่ในขณะนี้แล้ว จะต้องมาพบกับปัญหาแก๊งแมวน้ำที่ออกอาละวาดพายเรือตระเวนลักของชาวบ้านด้วย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับได้หลายรายแล้ว
โดยวานนี้ พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา เผยว่า จากกรณีที่มีแก๊งแมวน้ำออกขโมยของตามร้านสะดวกซื้อช่วงที่มีน้ำท่วมรอบเกาะเมือง เป็นการซ้ำเติมชาวบ้าน ทางตำรวจได้ประสานกับตำรวจน้ำออกติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหากลุ่มนี้ จนสามารถจับผู้ต้องหาได้ 3 คน คือ นายประวิทย์ เขมปัญญา อายุ 30 ปี นายชัยชาญ กลิ่นวิโถ อายุ 34 ปี และนายพงศกร พันธุ์สาลี อายุ 24 ปี ขณะกำลังพายเรือออกตระเวนลักทรัพย์ในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ซึ่งถูกน้ำท่วมกลางเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า สาเหตุที่เข้าไปลักทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ เพราะไม่อยากกินมาม่าเพียงอย่างเดียว และต้องออกไปรับของ แต่ไม่มีของ
