ลำปาง - เครือข่ายสภาประชาชนแห่งชาติภาคเหนือจัดเสวนาสภาประชาชนสัญจรที่ลำปาง พร้อมจัดตั้งเครือข่ายประชาชนลำปางเพื่อร่วมกิจกรรม ตั้งเป้าขับเคลื่อนการทำงานภาคประชาชนเพื่อร่วมกันปฏิรูปประเทศ ที่ประชุมชี้การเมืองไทยเป็นต้นตอปัญหา พร้อมหวั่นภาครัฐบอกบูรณาการแก้ปัญหาแต่ใช้จริงไม่เป็นผล ยกตัวอย่างน้ำท่วมคนแก้ไม่รู้จริง-สั่งการสับสน เป็นห่วงหลังน้ำท่วมมีโรคระบาดหลังสารพิษจากโรงงานรั่วไหลแต่ภาครัฐกลับมองข้าม
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่อาคารอเนกประสงค์ภายในโรงเรียนวิสุทธิ์วิทยากรลำปาง (วัดป่ารวก) จ.ลำปาง ได้มีการจัดเสวนาสภาประชาชนสัญจรเพื่อปฏิรูปประเทศไทย ภาคประชาชน โดยมีตัวแทนจากเครือข่ายสภาประชาชนแห่งชาติ 17 จังหวัดภาคเหนือ เข้าร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกว่า 50 คน
พร้อมกันนี้ได้ร่วมกันจัดตั้งเครือข่ายประชาชนของจังหวัดลำปางขึ้น เพื่อร่วมเดินหน้าในการขับเคลื่อนกิจกรรมต่างๆ ของภาคประชาชนทั่วประเทศ ร่วมกับเครือข่ายประชาชนคนรักชาติ ปกป้องสถาบันและแผ่นดิน และเครือข่ายอื่นๆ ในการช่วยกันปฏิรูปการเมืองของประเทศให้เดินหน้าไปได้โดยมีประชาชนมีส่วนร่วมมากที่สุด
สำหรับการเสวนาในวันนี้ นอกจากจะมีการจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชนของจังหวัดลำปางแล้ว หัวข้อที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึง คือ ปัญหาทางการเมืองของประเทศในช่วงที่ผ่านมา และส่งผลถึงปัจจุบัน ซึ่งประกอบด้วยสาเหตุหลายประการ ได้แก่ การที่นักการเมืองไม่มีจริยธรรม ประชาชนอ่อนแอ ยอมรับการโกงถึง 60% วัตถุนิยมสูง นักธุรกิจครอบงำการเมืองเพื่อแสวงหาประโยชน์ ระบบราชการมีสองมาตรฐาน ประชาชนมีหนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประชาชนไม่ทำหน้าที่ในการตรวจสอบภาครัฐและนักการเมือง สถาบันหลักของชาติถูกทำลาย เยาวชนในปัจจุบันมีภูมิความรู้เรื่องการเมืองอ่อนแอ
ประชาชนเกิดความแตกแยกแบ่งสีแบ่งฝักแบ่งฝ่ายขาดความสามัคคี ค่าครองชีพสูงขึ้น สินค้าราคาแพงเพราะกลุ่มนายทุนกำหนดราคา ขณะที่การแก้ปัญหาความทุกข์ของประชาชนกลับเป็นการแก้ไขอย่างไม่ยั่งยืน แม้จะบอกว่าบูรณาการ แต่การบูรณาการกลับทำงานไม่ได้จริง
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ยกตัวอย่างของการแก้ปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันว่า จากข่าวที่ออกมาจะพบว่าผู้ที่รับผิดชอบไม่ได้มีองค์ความรู้ในการจัดการแก้ปัญหาที่แท้จริง อีกทั้งยังมีการตัดสินใจที่ขัดแย้งกันจนก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น
สิ่งที่ผู้ร่วมเสวนาเป็นห่วงในขณะนี้ คือ การทำงานของรัฐบาลที่ยังไม่มีการประกาศพื้นที่โรคระบาด เนื่องจากที่ผ่านมาได้เกิดน้ำท่วมในนิคมอุตสาหกรรมหลายแห่ง ซึ่งมีสารเคมีที่รั่วไหลออกมากับน้ำ เกรงว่าสารเคมีที่รั่วไหลดังกล่าวจะส่งผลต่อสุขภาพของประชาชน เพราะสารเคมีบางตัวหากได้รับปริมาณน้อยจะเกิดผื่นคัน แต่หากได้รับมากอาจะเสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตามรัฐบาลกลับไม่มีการประกาศเตือนประชาชนในเรื่องดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงอย่างมาก