“ยิ่งลักษณ์” รับหน่วยงานรัฐประสานงานระบบเตือนภัยทำชาวบ้านสับสน สั่งบูรณาการใหม่ เตรียมถกกรมชลฯ แก้ปัญหาประตูระบายน้ำบางโฉมศรี ด้าน “ยงยุทธ” เผยระบบราชการทำการช่วยเหลืออุทกภัยไม่ทั่วถึง กำชับเจ้าหน้าที่ห้ามหักหัวคิว โว 1 ปีรัฐบาลวางระบบแก้น้ำท่วมครบวงจร
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีปัญหาน้ำท่วม ดินถล่ม จ.เชียงใหม่ ที่เกิดความโกลาหลเนื่องจากมีการรับทราบข้อมูลข่าวสารจากหลายทางว่า เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมาได้ประชุมระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้ว่าราชการจังกหวัดเชียงใหม่แล้ว เนื่องจากวันนี้มีหลายหน่วยงานที่ทำการชี้แจงการเตือนภัย จึงทำให้เกิดความการสับสน ซึ่งท่านผู้ว่าฯ ได้แก้ไขชี้แจงข่าวสารให้ถูกต้องแล้ว หลังจากนี้จะมีการหารือร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่จะประมวลการเตือนภัยต่างๆ ให้เป็นระบบมากขึ้น
น.ส.ยิ่งลักษณ์ยอมรับว่า ระบบการเตือนภัยถือว่าเป็นจุดอ่อนในการทำงาน เนื่องจากเรามีหลายหน่วยงานในการประมวลผล ทั้งกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงวิทยาศาสตร์ที่สามารถทำได้ รวมถึงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ฉะนั้นทุกอย่างต้องมีกลไกในการบูรณาการร่วมกัน เพื่อใช้ในการประมวลผลให้แม่นยำและถูกต้องแก่ประชาชน และที่สำคัญวันนี้เรายังไม่มีระบบเตือนภัยที่ถาวร ซึ่งเรื่องระบบเตือนภัยจะนำไปหารือในคณะกรรมการบูรณาการและการจัดการเรื่องน้ำที่เราตั้งขึ้น
ส่วนปัญหาประตูระบายน้ำที่บางโฉมศรี จ.สิงห์บุรี รัฐบาลจะดูแลอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ สำหรับกรณีที่มีการร้องเรียนว่ากรมชลประทานไม่เข้าไปซ่อมแซมนั้น ตนจะนำไปหารือกับกรมชลฯ ในวันพฤหัสบดี ที่ 29 ก.ย.นี้ทันที
ด้าน นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ที่ยังมีเสียงร้องเรียนจากหลายพื้นที่ได้รับการช่วยเหลือยังไม่ทั่วถึงว่า ยอมรับว่าส่วนหนึ่งเป็นความจริงเพราะระบบราชการก็คือระบบราชการที่ต้องฟังรายงาน และมีขั้นตอนในการดำเนินการต่างๆ ในขณะที่นายกฯ ทำงานในภาคเอกชนมาก่อน ทำให้เกิดความคิดในการช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว และลดขั้นตอนทางราชการ ทำให้การช่วยเหลือประชาชนทำได้เร็วขึ้น ซึ่งหากจะมีการแก้ไขหรือยกเว้นระเบียบปฏิบัติบางอย่างแล้ว อาจจะมีการกล่าวหา ในเรื่องการทุจริต ก็ต้องขอให้หน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของราชการ ไม่ว่าจะเป็น สตง. หรือ ป.ป.ช.เห็นใจ และเข้าใจการทำงานของราชการด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในบางจังหวัดยังมีปัญหา พบว่ามีผู้ใหญ่บ้านเรียกเก็บค่าหัวคิวเงินช่วยเหลือน้ำท่วมของชาวบ้าน ซ้ำเติมประชาชน จะแก้ปัญหาอย่างไร รมว.มหาดไทยกล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับข้อมูลขนาดนั้น แต่ได้สั่งการให้ระมัดระวังในการเบิกจ่าย และได้กำชับเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลา
ส่วนรัฐบาลยืนยันได้หรือไม่ว่า เมื่อครบรอบ 1 ปี รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและมีมาตรการป้องกันอย่างเป็นระบบได้ นายยงยุทธกล่าวว่า แน่นอนรัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหานี้ ถึงได้ตั้งสำนักงานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งเราจะต้องรีบลงมือทำงาน มันเป็นงานที่ท้าทายและต้องทำงานให้เห็นผล
