“ยิ่งลักษณ์” ประธานมอบนโยบายพัฒนาระบบราชการ ชมมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ยันรัฐยึดธรรมาภิบาลต่อยอดปฏิรูปราชการ 45 พร้อมมอบ 8 ข้อ ใช้ทำงานร่วมกัน ฝากครม.ดูผลตอบแทนข้าราชการ
วันนี้ (3 ต.ค.) ที่หอประชุมกองทัพเรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานและมอบนโยบายการพัฒนาระบบราชการ โดยมีผู้เข้าร่วมงานสัมมนา ประกอบด้วยกระทรวง กรม จังหวัด และหน่วยงานของรัฐ นักวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ สื่อมวลชน ภาคเอกชนและประชาชนเข้าร่วมกว่า 1,300 คน
นายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า การที่หน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนมาพบกัน ถือว่าเป็นอีกมิติหนึ่งที่เราได้มาอยู่รวมกันในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ โดยชื่องานนี้คือ “สู่ 1 ทศวรรษพัฒนาระบบราชการ” โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี มีการจัดสัมมนาที่จะทำให้ในการพัฒนาต่างๆ เพื่อให้ประชาชนดีขึ้น ตนได้ติดตามการทำงานของทุกท่านก็เห็นแนวโน้มในการพัฒนาต่างๆ เป็นไปแนวทางที่ดีขึ้น และขอถือโอกาสนี้ชื่นชมในการดำเนินการของการพัฒนาระบบราชการที่ผ่านว่าเราก็มีการพัฒนาขึ้นอย่างเป็นลำดับ
นายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในเรื่องบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือการทำงานอย่างไรโดยยึดหลักธรรมมาภิบาล ซึ่งก็เป็นการต่อยอดของการปฏิรูปราชการเมื่อปี พ.ศ. 2545 และที่สำคัญได้แถลงไว้อย่างชัดเจนในนโยบายทั้งหมด 8 ข้อ เพื่อเป็นนโยบายการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี
ทั้งนี้ นายกฯ ได้มอบนโยบายให้กับข้าราชการเพื่อนำไปพัฒนาระบบข้าราชการทั้งหมด 8 ข้อ เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการทำงานร่วมกันคือ 1.การบริหารงานโดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ความเหลื่อมล้ำ และพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน เพราะถือว่าระบบราชการเป็นศูนย์กลางในการกระจายนโยบายของรัฐบาลไปสู่ประชาชน และสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนมาสู่รัฐบาล 2.การรวมศูนย์กลางในการบริหารโดยเฉพาะด้านการบูรณาการด้านนโยบาย เพื่อให้มีความสอดคล้องทั้งระบบ และตอบสนองไปยังประชาชนให้มากที่สุด 3.สร้างกลไกของข้าราชการให้เป็นที่น่าเชื่อถือของประชาชน โดยการทำงานให้มีความโปร่งใส และต่อต้านการทุจริต ทั้งนี้ ของให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร. เข้ามาดูแลถึงเรื่องการทำอย่างไรให้ระบบราชการโปร่งใส 4.ให้ประชาชนตื่นตัวเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา โดยเปิดเวทีแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นระหว่างภาครัฐ ประประชาชน
5. การนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้เพื่อสนับสนุนให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น 6.ปรับลดบทบาทของภาครัฐให้มีความเหมาะสมโดยดึงภาคเอกชน เขามามีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน 7.การทำงานข้าราชการต้องเป็นในเชิงรุก และเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยเฉพาะเวทีอาเซียน ขณะเดียวกันต้องสื่อสารกับประชาชนที่ว่าจะต้องก้าวต่อไป สู่การเปลี่ยนแปลงทางด้านความมั่นคงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม ให้ดีขึ้น ต่อยอดสิ่งต่างๆ 8.การสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการโดยเฉพาะเรื่องระบบสวัสดิการต่างๆ ที่ข้าราชการควรจะได้รับ
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวปิดท้ายว่า อย่างไรก็ตาม ขอฝากไปยังคณะรัฐมนตรีและผู้ที่ดูแลกำกับข้าราชการให้เข้าไปให้กำลังใจข้าราชการทุกคน และช่วยดูแลเรื่องผลตอบแทน และให้สะท้อนกลับมาเป็นผลของการทำงานที่ดี อีกทั้งขอให้ช่วยกันส่งเสริมข้าราชการที่เป็นคนดี คนเก่งให้มีความก้าวหน้าในสายงานต่อไป