พระนครศรีอยุยา - ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล ฮือประท้วงให้เปิดประตูระบายน้ำบางกุ้ง อำเภอบางบาล หลังถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 3 เมตร ขู่หากไม่จะเปิดพังประตูระบายน้ำเอง
วันนี้ (28 ก.ย.54) เวลา 15.00 น.นางกริณามาศ เจริญดี อาย 57 ปีกำนันตำบลบ้านกุ่ม พร้อมชาวบ้าจาก ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยากว่า 200 คนบุกจะไปพังประตูน้ำบางกุ้ง ที่ตั้งอยู่ ม.9 ต.บ้านกุ่ม ซึ่งกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยากับทุ่งนาฝั่งตะวันออกจำนวน 50,000 กว่าไร่ เขตติดต่อของทุ่ง อ.บางบาล, อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา และ อ.ป่าโมง จ.อ่างทอง หลังจากหมดความอดทนกับสภาพน้ำท่วมสูงในชุมชนติดแม่น้ำเกือบ 3 เมตรจนไม่มีที่อยู่อาศัยเพราะว่าบ้านที่ยกใต้ถุนสูงถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด
โดยชาวบ้านอ้างว่าระดับน้ำที่หน้าประตูน้ำติดเจ้าพระยาสูงกว่าน้ำในทุ่งที่อยู่หลังประตูน้ำถึง 3 เมตร และพื้นที่นั้นหากเป็นนาปรังนั้นเกี่ยวข้าวไปหมดแล้ว หากเป็นนาปีชาวนาพร้อมให้เสียหายเพราะว่าชาวบ้านที่มาประท้วงก็เป็นเจ้าของนาปีและยอมให้จมน้ำเพื่อให้น้ำในบ้านติดแม่น้ำลดลงบ้าง อีกทั้งในพื้นที่ทุ่งดังกล่าวถึงจะมีชุมชนแต่ก็ไม่มากส่วนใหญ่อยู่เพียงในเขต ต.ทับน้ำ อ.บางปะหันเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงประตูน้ำบางกุ้ง พบว่านางกริณามาศ เจริญดี กำลังเจรจากับนายเรืองรอง ภัทรรัตนนันท์ ปลัดอำเภอบางบาล และนายชัชวาล รัตนวรา หน.ฝ่ายส่งน้ำบำรุงรักษา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามหาราช เพื่อขอให้เปิดประตูน้ำบางกุ้ง หากไม่ยอมชาวบ้านจะพังประตู อย่างไรก็ตามระหว่างการเจรจาพบว่าชาวบ้านต่างแสดงอารมณ์ว่าเดือนร้อน และโวยวายว่า ลำบากเดือนร้อนไม่มีที่กินที่นอนแล้ว ที่ขับถ่ายก็ไม่มี หากไม่เปิดประตูน้ำจะบุกไปขับถ่ายที่หน้าบ้านนายกรัฐมนตรี
หลังเจรจาอยู่นานตัวแทนกรมชลประทานอ้างว่า ที่ไม่เปิดประตูน้ำเพราะต้องการรักษาพื้นที่เกษตรไว้และไม่อยากให้ชุมชนกลางทุ่งนาถูกน้ำท่วม แต่ชาวบ้านยืนยันว่า พื้นที่นาปรังเกี่ยวไปหมดแล้วและนาปีที่อยู่ในทุ่งก็เป็นของชาวบ้านและพวกเราพร้อมรับสภาพนาปีล่ม ส่วนหมู่บ้านในทุ่งถึงจะมีแต่ก็ไม่มากเท่าหมู่บ้านริมน้ำที่เดือนร้อน
ผลการเจรจากว่า 1 ชม.สรุปได้ว่า หน่วยงานชลประทานยอมเปิดประตูน้ำบางกุ้งที่ระดับ 40 ซม.ในทันที ซึ่งชาวบ้านพอใจและแยกย้ายกลับบ้าน แต่จะส่งคนมาเฝ้าให้มีการยกบานประตูน้ำตลอดเพราะเกรงกรมชลประทานจะโกหกเอาบานประตูน้ำลงเช่นกัน
