พระนครศรีอยุธยา - น้ำเหนือถึงอยุธยาเสียหายหนัก ชาวบ้านอำเภอผักไห่ที่ถูกน้ำท่วมกับชาวนาเปิดฉากทะเลาะกันเรื่องเปิดประตูระบายน้ำ จนรวมตัวกันปิดถนนขอให้เปิดน้ำ
วันนี้ (1 ก.ย.) เวลา 11.30 น.ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอีก 25 ซม.ไหลเข้าคลองบางบาล และคลองบางหลวง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนระดับน้ำสูงกว่า 2 เมตรต้องขนของไว้ที่สูงอีกรอบและขนย้ายมาไว้ริมถนน ที่บริเวณหมู่3 ต.บางหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่จากองค์การเภสัชกรรม นำยาสามัญประจำบ้านมาแจกให้กับชาวบ้าน 1,000 ชุด
แม่น้ำน้อยระดับน้ำเพิ่มขึ้นอีก 20 ซม.ไหลเข้าท่วม อ.ผักไห่ และ อ.บางไทร ขยายวงกว้างเดือดร้อนอย่างหนัก ที่ อ.ผักไห่น้ำไหลเข้าท่วมตลาดเก่าแก่ น้ำขังสูงกว่า 30 ซม.ที่นาข้าวกำลังจะเก็บเกี่ยวเสียหายกว่า 300 ไร่และที่บริเวณประตูน้ำชลประทาน ริมถนนสายผักไห่-วิเศษชัยชาญ หมู่ 1 ต.ผักไห่ มีชาวบ้านกว่า 200 คน นำเต็นท์และรถยนต์มาปิดกั้นถนนเพื่อประท้วงเจ้าหน้าที่ชลประทานไม่ยอมเปิดประตูระบายน้ำทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านสูงกว่า 1 เมตร
นายนิคม จุติสังวาร อายุ 68 ปี ตัวแทนชาวบ้านบอกว่าน้ำท่วมบ้านเดือดร้อนกันหลายครัวเรือนท่วมถึงเอวแล้วจะกินจะนอนจะถ่ายก็ลำบาก แต่ที่นายังไม่มีน้ำจึงรวมตัวมาเพื่อให้ชลประทานเปิดประตูระบายน้ำลงที่นาบ้าง
นางยุพา เจริญศรี อายุ 41 ปี ตัวแทนชาวนาใน อ.ผักไห่ บอกว่า ตนและเพื่อนบ้านที่ทำนากำลังรอเก็บเกี่ยวข้าวขอเวลาไม่เกินวันที่ 10 กันยายน เพราะตอนนี้รถเกี่ยวข้าวไม่ว่างขอให้เห็นใจกันบ้าง ถ้าปล่อยน้ำเข้ามานาตอนนี้ ข้าวในนาที่รอเก็บเกี่ยวก็เสียหายหมดมูลค่านับล้านบาท น้ำท่วมบ้านยังไม่เสียหายเท่าไหร่ พอน้ำลดยังเสียหายน้อยกว่าชาวนาที่ลงทุนทำนาต้องเสียหายกันคนละหลายร้อยไร่
ด้าน นายปัญญา ฤทธิ์ญาติ ปลัดอาวุโสอำเภอผักไห่ ได้เดินทางมาไกล่เกลี่ยกับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม จนกระทั้งหาข้อสรุปเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น ยอมให้เปิดประตูน้ำลาดชะโดขึ้น 30 ซม.และประตูน้ำลาดชิดและมะขามเทศ 20 ซม.ชาวบ้านพอใจจึงแยกย้ายกันกลับ