อุตรดิตถ์ - มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย มอบถุงยังชีพให้กับราษฎรที่ประสบอุทกภัยที่อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ในวันนี้ จำนวน 1,500 ชุด ขณะที่นาข้าวเขตลับแล-อำเภอเมือง ยังจมบาดาลกว่า 5 พันไร่ เผย หากน้ำไม่ลดใน 2-3 วันนี้ มีสิทธิ์นาล่มแน่
รายงานข่าวจากจังหวัดอุตรดิตถ์ แจ้งว่า มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย โดยพระองค์เจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงโปรดให้นายอภัย จันทนจุลกะ รองประธานมูลนิธิ เป็นผู้แทนพระองค์ เดินทางมามอบถุงยังชีพให้กับราษฎรในพื้นที่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำป่าไหลหลากท่วมบ้านเรือนและอุปกรณ์การเกษตรในพื้นที่หมู่ 2, 3, 4, 6 และ 9 ของอำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์ ที่ประสบอุทกภัยน้ำป่าไหลหลาก ตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 ส.ค. 54
ทั้งนี้ ได้นำถุงยังชีพมามอบให้กับราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนทั้งหมดจำนวน 1,500 ชุด ณ สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลผักขวง อำเภอทองแสนขัน จังหวัดอุตรดิตถ์
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้หลายท้องที่ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ยังต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมอยู่ เช่น ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล, ต.วังกะพี้ อ.เมืองอุตรดิตถ์ ก็เกิดน้ำป่าไหลหลากท่วมนาข้าวกว่า 5,000 ไร่ เนื่องจากฝนตกต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายวัน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมเป็นจำนวนมาก และปริมาณน้ำในคลองแม่พร่อง และคลองห้วยไผ่ ที่ไหลมาจากอำเภอลับแลตอนบน ได้ไหลเข้าสู่พื้นที่การเกษตร ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกข้าวทั้ง 2 ตำบล จำนวนกว่า 5,000 ไร่
นางมาลัย แก้วคต อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51/1 ม.6 บ้านท้ายเตย อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งมีนาข้าวถูกน้ำท่วมขัง บอกว่า เหลือเวลาอีกเพียง 20 วันเท่านั้นก็จะเกี่ยวข้าวได้ แต่แล้วก็มาถูกน้ำท่วมขังเสียก่อนถ้าระดับน้ำยังไม่ลด อีกภายใน 2-3 วันข้างหน้า ข้าวในนาคงจะเน่าเสียหายอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ นางมาลัย แก้วคต ได้ร่วมกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวรายอื่นๆที่ได้รับความเดือดร้อนเหมือนกันได้ช่วยกันเปิดประตูระบายน้ำหวังว่าน้ำจะลดระดับลงและถ้าหากฝนไม่ตกลงมาซ้ำอีกนาข้าวที่กำลังออกรวงก็คงจะเก็บผลผลิตได้ทัน แต่ถ้ายังมีฝนตกลงมาซ้ำอีกน้ำไม่ลดระดับลงต้นข้าวของตนเองก็คงเน่าเสียหายอย่างแน่นอน
