เชียงราย- เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งจีนและลาว เหลืออดกับกองโจรติดอาวุธ ที่อาละวาดอยู่ตามลำน้ำโขง ล่าสุดสนธิกำลังเข้าตรวจตราพื้นที่บริเวณโครงการกาสิโนใหญ่ จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมยาบ้า 6 แสนเม็ดและอาวุธปืนพร้อมกระสุนอีก 3 กระบอก
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากกรณีเกิดกลุ่มติดอาวุธออกอาละวาดหนักบริเวณลุ่มแม่น้ำโขงเหนือสามเหลี่ยมทองคำ อ.เชียงแสน ขึ้นไปทางชายแดนพม่า-สปป.ลาว จนส่งผลกระทบต่อเรือสินค้าจีน และโครงการลงทุนของเอกชนจีนบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ รวมทั้งเกิดปัญหาการลักลอบขนและค้ายาเสพติดอย่างขนานใหญ่ในบริเวณเดียวกัน
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด (ปส.) ของประเทศจีน ได้นำเรือลาดตระเวนลงมาตามแม่น้ำโขงอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นภาระกิจที่ปฏิบัติเป็นประจำทุกปี
ในครั้งนี้ได้มีการร่วมกับตำรวจและทหาร สปป.ลาว ในการเข้าไปดำเนินการบริเวณพื้นที่โครงการ Kings Romans of Laos Asian & Tourism Development Zone ซึ่งเป็นกิจการของกลุ่มดอกงิ้วคำที่ดำเนินการโดยบริษัทจินมูเหมิน จำกัด เอกชนจีนจากมณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน ซึ่งได้รับสัมปทานบนเนื้อที่เกือบหมื่นไร่จากรัฐบาล สปป.ลาว เป็นเวลากว่า 99 ปี เพื่อพัฒนาพื้นที่เป็นแหล่งพาณิชย์ ท่าเรือ อุตสาหกรรม กาสิโน การเกษตร ฯลฯ
เจ้าหน้าที่จีน และ สปป.ลาว ได้ส่งกำลังจำนวนหนึ่งประจำอยู่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งมีลักษณะเป็นโดมใหญ่สีทอง สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนจากฝั่งไทย รวมทั้งให้มีการตรวจตราบ้านเรือนและอาคารพาณิชย์ในบริเวณเดียวกันให้มากขึ้น
จนมีรายงานข่าวออกมาว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ร้านอาหารบ้านดาวเรือง สามารถจับกุมชายได้ 1 คนชื่อนายหว่า เต้าหัว พร้อมของกลางเป็นยาบ้าจำนวน 300 มัด บรรจุในกระสอบรวมกันทั้งหมดประมาณ 20 กระสอบ รวมของกลางยาบ้าทั้งหมดประมาณ 600,000 เม็ด อาวุธปืนอีก 3 กระบอก และควบคุมตัวดำเนินคดีใน สปป.ลาว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่าปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่จีนและ สปป.ลาว ดังกล่าวได้มีความเข้มข้นขึ้นในช่วงปลายเดือน ก.ย.นี้เป็นเวลาร่วม 1 สัปดาห์แล้ว จนทำให้ก่อนการจับกุมครั้งนี้เกิดการปะทะกันอย่างหนักระหว่างเจ้าหน้าที่และกลุ่มติดอาวุธลุ่มแม่น้ำโขง ซึ่งมีกระแสว่ากลุ่มที่มีบทบาทมากที่สุดในขณะนี้คือกลุ่มของนายหน่อคำ ก่อเหตุทั้งเก็บค่าคุ้มครองจากเรือสินค้าจีน ยิงเรือสินค้าจีนและเจ้าหน้าที่จีนที่แล่นผ่าน เก็บค่าผ่านทางยาเสพติดประเภทยาบ้าเม็ดละ 3 บาท รวมทั้งพัวพันกับการตั้งโรงงานผลิตยาเสพติด และแหล่งพักบริเวณสามเหลี่ยมทองคำฝั่ง สปป.ลาว ด้วย
การปะทะกันที่ผ่านมา เป็นผลทำให้มีผู้เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจนหลบหนีเข้ามายังฝั่งไทย 4 คน รวมทั้งยังมีคนที่ถูกจับกุมตัวในฝั่งไทยพร้อมของกลางที่น่าสงสัยอีก 4 คน
เป็นที่น่าสงสัยเกตว่า แม้ทางการจีน และ สปป.ลาว ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกลุ่มดอกงิ้วคำจะเร่งปราบปรามเพื่อตัดอิทธิพลกลุ่มติดอาวุธลุ่มแม่น้ำโขงดังกล่าว แต่มีกระแสว่ากลุ่มติดอาวุธบางกลุ่มก็มีบทบาทภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษดังกล่าวอยู่เช่นกัน โดยกลุ่มของนายหน่อคำมีผลประโยชน์ในกิจการหลายอย่างภายในโครงการด้วย