เชียงราย - ผู้ว่าฯนำทีม บูรณาการทีมเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย คุมเข้มตลอดแนวน้ำโขง เน้นปราบยาเสพติด พร้อมเจรจาเพื่อนบ้านแก้ปัญหาโจรสลัดอาละวาดปล้นเรือกลางแม่น้ำ
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่านายสมชัย หทยะตันติ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ,พ.ต.อ.จรัญฎ์ เริงธรรม รอง ผบก.ภ.เชียงราย และหัวหน้าชุดเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด จ.เชียงราย ,พ.อ.จิรเดช กมลเพชร ผบ.ฉก.ม.2 กองกำลังผาเมือง ,หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) ตำรวจน้ำ ฯลฯ ได้สนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกภาคส่วน เปิดยุทธการส่งเรือลาดตระเวนในแม่น้ำโขงบริเวณชายแดนไทย สปป.ลาว และพม่า ด้าน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้ายาเสพติด ตามโครงการศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด
หลังพบว่า ชายแดนด้านนี้ยังมีความพยายามที่จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น โดยมีเรือสินค้าจีนถูกยิงในแม่น้ำโขงบริเวณเมืองมอม ชายแดนพม่า สปป.ลาว เพื่อเรียกเก็บค่าคุ้มครองจนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถึง 4 คน เป็นชาวไทยใหญ่ 3 คนและชาวเขาเผ่ามูเซออีก 1 คน ทั้งหมดยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเชียงแสนและโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยทางตำรวจ สภ.เชียงแสน ได้ขอตัวไว้ทำการสอบปากคำอีกทางหนึ่งด้วย
นายสมชัยกล่าวว่า ได้มีการบูรณาการทุกหน่วยงานในการปล่อยชุดปฏิบัติการใน 5 อำเภอชายแดนคือเชียงแสน เชียงของ แม่สาย แม่ฟ้าหลวง และอำเภอเมือง มุ่งเน้นการปราบปรามและสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมาย โดยแบ่งเป็นสองภารกิจคือป้องกันรั้วชายแดนภายนอก และรั้วภายในโดยอาศัยกำนันผู้ใหญ่บ้าน อาสาสมัครต่าง ๆ เป็นการปฏิบัติการเชิงรุกด้านการข่าว ตลอดจนสร้างชุมชนให้เข้มแข็งเป็นเครือข่ายบำบัด พื้นฟูและลดจำนวนผู้เสพ
นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับเหตุลอบยิงเรือสินค้าในแม่น้ำโขง ทางจังหวัดไม่สามารถจัดการตามลำพังได้ เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่นอกเขตน่านน้ำไทย แต่ก็ได้มีการเฝ้าระวังไม่ให้โจรชายแดนเหล่านี้รุกล้ำเข้ามาอย่างเข้มงวด
ส่วนผลกระทบของเหตุการณ์ที่จะมีต่อการค้านั้นจะมีการหารือประเทศเพื่อบ้านโดยเสนอผ่านกระทรวงต่างประเทศและคณะกรรมการประสานชายแดนส่วนท้องถิ่น เพื่อขอให้ทางประเทศพม่า และ สปป.ลาว ช่วยกันปราบปรามและป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.ภพกร คูณเจริญสุข ผกก.สภ.เชียงแสน กล่าวว่า เหตุการณ์ยิงเรือสินค้าอยู่นอกเหนืออำนาจสอบสวนของ สภ.เชียงแสน เนื่องจากจุดเกิดเหตุอยู่เขตรอยต่อพม่าและสปป.ลาว ที่ทำได้คือการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บที่เหลือและทำการจดบันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์เท่านั้น เจ้าหน้าที่ไทยไม่สามารถไปจับกุมคนร้ายได้ แต่มูลเหตุที่เกิดขึ้นจะมีการสรุปให้ทางหน่วยงานเพื่อความมั่นคงได้พิจารณา เพื่อร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาที่จะมากระทบต่อประเทศไทยต่อไป