เชียงราย - กองกำลังเถื่อนเหนือสามเหลี่ยมทองคำ ยังเหิมไม่หยุด ล่าสุด ยิง M79 ใส่เรือสินค้าจีนอีก โชคดีกระสุนพลาดเป้าหล่นกลางน้ำโขงเหนือสามเหลี่ยมทองคำ ขณะที่เจ้าหน้าที่ลาวซ้อมลาดตระเวนทางเรือ เตรียมกำลังป้องกันเหตุรุนแรงเต็มที่ทุกวัน
รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า หลังจากเรื่องราวความรุนแรงในแม่น้ำโขงคลี่คลายลงตามลำดับ โดยในคดีปล้นและฆ่าหมู่ลูกเรือจีน 2 ลำ เมื่อวันที่ 5 ต.ค.54 ได้มีการดำเนินคดีกับทหารจากกองกำลังผาเมืองจำนวน 9 นาย และรัฐบาลจีนได้ส่งกำลังตำรวจตระเวนชายแดนร่วม 300-500 นาย พร้อมเรือติดอาวุธไม่ต่ำกว่า 8 ลำ ลาดตระเวนและคุ้มกันเรือสินค้าแม่น้ำโขงประมาณ 100 ลำ ที่แล่นจากท่าเรือกวนเหล่ย ซึ่งเป็นเมืองท่าหน้าด่านของจีนที่มณฑลหยุนหนัน ติดชายแดน สปป.ลาว มาจนถึงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำชายแดนพม่า-สปป.ลาว ระยะทาง 264 กิโลเมตร เพื่อส่งมอบให้กองกำลังศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดในแม่น้ำโขง (ศปปข.) ส่วนหน้า นำโดยตำรวจของไทยคุ้มกันต่อไปจนถึงท่าเรือเชียงแสนแห่งที่ 1 นั้น
ล่าสุด พบว่า ยังมีความพยายามที่จะสร้างความรุนแรงอีกโดยเหตุเกิดบริเวณริมฝั่งเมืองพง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตรงกันข้ามเมืองมอม แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งเป็นท่าเรือใหญ่ริม 2 ฝั่งแม่น้ำโขง ไม่ห่างจากบ้านสามปู ที่เคยมีเหตุปล้นเรือจีนมากนัก ก็ได้มีกระสุนปริศนายิงไปยังเรือสินค้าจีนจำนวน 2 ลำ ซึ่งพึ่งแล่นออกมาจากเมืองกวนเหล่ย พร้อมเรือคุ้มกันของทางการจีน และ สปป.ลาว
เรือดังกล่าวบรรทุกสินค้ามาเต็มลำเรือเตรียมจะเข้าเทียบฝั่งท่าเรือเชียงแสน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร ขณะที่แล่นลงมาห่างจากสามเหลี่ยมทองคำบ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ประมาณ 25 กิโลเมตร ปรากฏว่า ได้มีกระสุนได้ตกลงไปในน้ำห่างจากหัวเรือลำแรกประมาณ 50 เมตร แต่ไม่มีเรือลำใดได้รับความเสียหาย เพียงแต่ก็ทำให้ลูกเรือตื่นตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่เรือลาดตระเวนคุ้มกันจะออกตรวจสอบและไม่พบตัวผู้ยิงอาวุธแต่อย่างใด
เบื้องต้นกองเรือคุ้มกันคาดการณ์ว่า เป็นการยิงจากฝั่งเมืองพง โดยกองกำลังชนกลุ่มน้อยที่ไม่หวังดี หรือเคยก่อเหตุยิงเรือสินค้าจีนมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งเป็นการยิงจากอาวุธชนิดเอ็ม 79 เพราะเป็นการยิงหยอดขึ้นฟ้า และตกลงมา แต่ไม่ถูกเป้า ทำให้กองเรือได้เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น และสามารถคุ้มกันเรือสินค้าทั้งหมดให้เดินทางไปส่งมอบให้ ศปปข.ของไทยคุ้มกันต่อไปจนถึงท่าเรือเชียงแสนอย่างปลอดภัย
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังเหตุการณ์ดังกล่าวทางตำรวจและกองกำลังป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ของ สปป.ลาว ได้มีการซ้อมใช้เรือและอาวุธในแม่น้ำโขงเป็นประจำทุกวันตั้งแต่บริเวณสามเหลี่ยมทองคำขึ้นไปจนถึงเมืองมอม โดยใช้เรือเร็วขนาดใหญ่ที่ทางรัฐบาลจีนได้มอบให้ใช้งานและเรือท้องถิ่นที่เคยมีอยู่แต่เดิม การซ้อมเริ่มตั้งแต่เวลาประมาณ 10.00-15.00 น.ของทุกวัน คาดว่า เพื่อให้มีความชำนาญการลาดตระเวนทางเรือหลังจากได้รับมอบเรือจากจีน
ทั้งนี้ ความรุนแรงในแม่น้ำโขงเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมา เมื่อมีกองกำลังติดอาวุธลอบยิงเรือสินค้าจีนที่ไม่จ่ายค่าผ่านทาง รวมทั้งมีการค้ายาเสพติด กระทั่งเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา คนร้ายได้บุกเข้าปล้นเรือบรรทุกน้ำมันเชื้อเพลิง Hua Ping และเรือขนกระเทียมและแอปเปิล Yu Xing 8 ของจีน บริเวณดอนสามปู สามเหลี่ยมทองคำชายแดน สปป.ลาว-พม่า และฆ่ากัปตันและลูกเรือนรวม 13 ศพ และเรือได้ลอยลำได้เข้าเทียบฝั่งไทยที่ริมฝั่งเขตหมู่บ้านสบรวก ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ไทยจะขึ้นไปตรวจสอบและพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ 920,000 เม็ด บนเรือ แต่ต่อมาได้มีศพผู้เสียชีวิตทะยอยลอยไปติดริมฝั่งโดยถูกมัดมือและจ่อยิง ทำให้จีนได้เร่งรัดให้รัฐบาลไทยได้คลี่คลายคดี จนมีทหารจากกองกำลังผาเมืองทั้งระดับสัญญาบัตรระดับ พ.ต.-ร.ท.และชั้นประทวนรวม 9 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ชายแดนทยอยเข้ามอบตัวกับตำรวจ ข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและปิดบังซ่อนเร้นศพ ล่าสุด ยังมีกระแสว่า อาจจะมีการออกหมายจับนาย น.ซึ่งเป็นคนพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย หากมีหลักฐานพัวพันไปถึงด้วย
ด้านตำรวจไทยได้เร่งสอบพยานที่เป็นชาวจีนเพิ่มเติมช่วงต้นเดือน ม.ค.นี้ หลังจากสอบพยานอื่นๆ ไปแล้วร่วม 103 ปาก