พิษณุโลก - ชาวบ้านท่านางงาม-บางระกำพายเรือแห่รับถุงยังชีพ หลังน้ำท่วมถนนถูกตัดขาด เผย “เรือยืมพาย” บางระกำโมเดลที่แท้เป็นเรือเก่าจากปีก่อน ชาวบ้านโวยยังไม่ได้รับเงินชดเชยค่าบ้าน 5 พันบาท และค่าสวน ด้าน ผกก.ตชด.31 เผย ตำรวจควักเงินส่วนตัวจ่ายค่าน้ำมันบาน เหตุวิ่งเรือช่วยประชาชนจนเกินงบ ยันค่าน้ำมันมีแค่ที่คลังกองกำกับฯ ให้เบิกเท่านั้น ไม่เคยใช้งบฉุกเฉินของจังหวัดแม้แต่บาทเดียว
วันนี้ (21 ก.ย.) ที่ศาลาเอนกประสงค์ ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มี พ.ต.อ.เนรมิต ดุสิตากร ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 พร้อมคณะ ได้มอบถุงยังชีพพระราชทานให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วม โดยมีชาวบ้านจาก ต.ท่านางาม-บางระกำ เดินทางด้วยเรือมารับมอบถุงยังชีพพระราชทานจำนวน 480 คน
นางจำปา กันจร อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 270 ม.1 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก หนึ่งในประชาชนที่มารับมอบถุงยังชีพ ซึ่งได้นำฝรั่งจากสวนของตนเองมาวางขายเพื่อหารายได้ในระหว่างการรอรับถุงยังชีพ กล่าวว่า ฝรั่งที่นำมาจำหน่ายเป็นฝรั่งที่เก็บได้ทันเพียงรอยเดียว ก่อนที่สวนฝรั่งจำนวนประมาณ 400 ต้น ในพื้นที่ปลูก 5 ไร่ของตนจะถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด ทำให้ขาดรายได้ที่เคยได้ทุกวันจากการขายฝรั่ง
สำหรับการช่วยเหลือจากภาครัฐนั้น นางจำปา ระบุว่า ที่ผ่านมา ได้รับเพียงถุงยังชีพ แต่ยังไม่ได้รับทั้งเงินชดเชยค่าบ้าน 5 พันบาท และค่าสวนฝรั่งประมาณ 2 พันบาทเศษ ซึ่งตนกำลังรอเงินในส่วนนี้อยู่ ส่วนเรือยืมพายที่ทางราชการระบุว่าจะมีให้ยืมใช้ตามโครงการบางระกำโมเดลในระหว่างน้ำท่วม และจะต้องส่งคืนเมื่อน้ำลดลงนั้น ตนได้ไปลงชื่อขอยืมเรือ และได้รับเรือลำสีเหลืองมา 1 ลำ แต่พบว่าเรือลำดังกล่าวเป็นเรือที่จัดไว้เป็นเรือยืมพายตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแล้ว ไม่ใช่เรือใหม่ตามโครงการแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.อ.เนรมิต ดุสิตากร ผู้กำกับตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 เปิดเผยว่า กำลังพลจากตำรวจตระเวนชายแดนที่ 31 จำนวน 40 คนได้ลงพื้นที่ช่วยราษฎรในจังหวัดที่ประสพน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะที่ จ.พิจิตร และ จ.พิษณุโลก คาดว่ากำลัง ตชด.31จะต้องประจำอยู่ในพื้นที่ต่อไปอีกจนกว่าน้ำจะลดลง เนื่องจากสถานการณ์ในพื้นที่ยังน่าเป็นห่วง ไม่สามารถใช้รถยนต์ในการสัญจรได้ ต้องหันมาใช้เรือเป็นพาหนะแทน
พ.ต.อ.เนรมิต กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ปัญหาที่กำลังพลจาก ตชด.31 ประสบอยู่ก็คืองบประมาณในส่วนของค่าน้ำมันที่ไม่เพียงพอ เนื่องจากทาง ตชด.31 มีงบประมาณค่าน้ำมันเฉลี่ยที่ 360 ลิตรต่อสัปดาห์ สำหรับเรือที่ใช้งานทั้งหมด 8 ลำ ในพื้น จ.พิษณุโลก และ พิจิตร แต่ปรากฏว่าต้องใช้เรือมากกว่าปริมาณน้ำมันที่กำหนด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องสำรองจ่ายค่าน้ำมันไปก่อน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่เคยทำเรื่องของบประมาณในส่วนของงบภัยพิบัติฉุกเฉินจากผู้ว่าราชการจังหวัดแต่อย่างใด มีเพียงการทำหนังสือไปยัง อบต.ในพื้นที่ประสบภัยว่า หากมีงบประมาณเหลือก็ขอรับการสนับสนุนน้ำมันเชื้อเพลิง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด