คนบางระกำจมน้ำใกล้ครึ่งปี-บางพื้นที่ไร้ทางออก/เรือแจกเล็กไปไม่กล้าพาย-เงินชดเชยเงียบฉี่

พิษณุโลก – คนบางระกำจมน้ำย่างเข้าสู่เดือนที่ 5 แล้ว บางพื้นที่ไร้ทางออกสู่โลกภายนอกสิ้นเชิง หลังน้ำท่วมถนนมิด แถมเรือแจก “บางระกำโมเดล” กลายเป็นเรือเล็ก-เก่า ชาวบ้านไม่กล้าพายฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกราก ต้องยกให้ภารโรงใช้พายตรวจรอบโรงเรียน-วัดเท่านั้น แถมเงินชดเชยเงียบเป็นเป่าสาก ขณะที่ชลประทานพิษณุโลก รับบางระกำต้องช้ำต่อ เพราะผันน้ำลงแม่น้ำน่านไม่ได้ หวั่นทำเมืองปากน้ำโพวิกฤตเพิ่ม

รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า ชาวบ้านกรุงกรัก ม.2 ต.ท่านางาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมานานหลายเดือน ไม่มีเส้นทางเข้าออกหมู่บ้าน ต้องใช้เรือเป็นพาหนะเดินทาง เนื่องจากระดับน้ำท่วมขัง ในพื้นที่กลางทุ่งลึก 3 เมตร และยาวนาน 5 เดือน โดยหน่วยรัฐเข้าไปช่วยเหลือน้อยมาก เนื่องจากเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกล ใช้เวลาเดินทางด้วยเรือ 50 นาทีถึง 1 ชั่วโมง (ทางตรง 8 กิโลเมตร) จากเดิมที่เคยใช้เวลาเดินทาง 15 นาทีจากตัวอำเภอบางระกำ

หลังจาก พ.ต.ท.ณัฎฐวัฒน์ พ่วงพร้อม สารวัตรกองกำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 หัวหน้าหน่วยสันติบาลพิษณุโลก ได้รับแจ้งเรื่องดังกล่าวจึงได้ร่วมกับพระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาส วัดราชบูรณะ จ.พิษณุโลก และชมรมสื่อมวลชน รวบรวมเครื่องอุปโภคบริโภคจากผู้ใจบุญผ่านวัดราชบูรณะ นำไปมอบถุงยังชีพแก่ชาวบ้านที่เดือดร้อนหนักสุดในชุดแรก 30 ชุดและมอบน้ำดื่มแก่คนในหมู่ 2 บ้านกรุงกรักให้ครบทั้ง 125 ครัวเรือนบริเวณหน้าโบสถ์ เพราะเหลือเพียงไม่กี่จุดที่น้ำยังไม่ท่วม

พ.ต.ท.ณัฎฐวัฒน์ บอกว่า ทราบความเดือดร้อนของชาวบ้าน โดยเฉพาะชาวบางระกำที่ถูกท่วมขังมานาน จึงได้นำสิ่งของมาช่วยเหลือ โดยรวบรวมข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม ร่วมกับสื่อฯ และวัดราชบูรณะมามอบให้เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนอีกทาง
และวันนี้(15 ต.ค.54)เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ และคณะได้ลงพื้นที่หมู่ 10 บ้านวังดาน ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มอบถุงยังชีพแก่ชาวบ้านที่เดือดร้อนอีก 300 ชุดพร้อมน้ำดื่ม โดยนำเงินที่ได้รับจากตู้บริจาคและสิ่งของบริจาคจากสโมสรไลออนส์พิษณุโลก, ดร.อังคณา หิรัญสาลี ผอ.ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 พิษณุโลก, พล.ท.วิเชียร ไชยปกรณ์ กกต.พิษณุโลก มอบแก่ชาวบ้านวังดาน

นางเร เพชรหมัด อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.2 บ้านกรุงกรัก ต.ท่านางงาม กล่าวว่า น้ำท่วมทุกปี ก็ไม่สูงมาก แต่ปีนี้น้ำเยอะและท่วมนาน 4-5 เดือนแล้ว ก่อนน้ำยังไม่ท่วม ผู้ว่าฯ จะมาเยี่ยมชาวบ้าน แต่หลังน้ำท่วมสูง ไม่เคยมีใครเข้ามาดูแลเลย ชาวบ้านต้องออกไปรับของที่ด้านนอกไกลออกไปถึง 18 กิโลเมตร ต้องนั่งเรือนานเป็นชั่วโมง เลยไม่มีใครออกไปรับข้างนอก

สำหรับเรือที่ทางอำเภอมอบให้ คนในหมู่บ้านได้มา 4-5 ลำ แต่เป็นเรือสีเหลืองเล็กๆ น้ำท่วมสูงและเชี่ยวกรากก็ไม่มีใครกล้าใช้พายออกไป ที่เห็นๆ ก็ภารโรงใช้ดูแลรอบวัดและโรงเรียน

“ยอมรับว่าที่ผ่านมาไม่ค่อยมีใครเดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน ตลอด 5 เดือนมีถุงยังชีพมาแจกเพียง 5 ครั้งที่หมู่บ้าน ส่วนปัญหาเงินๆ ทองๆ นาถูกน้ำท่วม ชาวบ้านยังไม่ได้รับเงินชดเชยน้ำท่วมไร่ละ 2,222 บาท รับแต่เงินบ้านน้ำท่วมหลังละ 5,000 บาท ทราบว่า คนตำบลชุมแสงสงคราม และตำบลคุยม่วง รับเงินไปก่อนตำบลอื่นในบางระกำ เพราะมีข่าวค่าหัวคิวบางระกำ”

นางบรรจง ออมพลศิริ อายุ 44 ปี 95/6 หมู่ 2 ต.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า เดือนร้อนหนัก ไม่สามารถเข้าออกตัวเมือง ตั้งแต่ปลายเดือนกรกฎาคม 54 รวม 4-5 เดือนแล้ว ยังดีที่มีไฟฟ้าใช้ แต่ระบบน้ำประปาแทบใช้การไม่ได้

“ดินฉันทำนาอยู่ 27 ไร่ ก็ยังไม่ได้รับเงินชดเชยไร่ละ 2,222 บาท สงสัยว่า จะลืมไปแล้ว หลังจากเจอข่าวหัวคิวชดเชยน้ำท่วมที่ ต.ชุมแสงสงคราม เลยเงียบไปเลย แม้ส่งข้อมูลความเสียหายไปแล้ว ส่วนที่ได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐนอกจากถุงยังชีพคือ เรือยืมพาย คนในหมู่บ้านกรุงกรัก ได้รับเพียง 4-5 ลำ พอใช้สัญจรได้ แต่ไปได้ไม่ไกล เพราะเรือเล็กและเก่า นั่งได้คนเดียว หางเสือไม่มี น้ำเชี่ยวขึ้นสูง ก็ไม่กล้าไปไหนไกล พายแต่ในแถบบ้านตนเอง”

นายไพศาล แวงไชยภูมิ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 กรุงกรัก ต.ท่านางาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ทุกคนได้รับเงินชดเชย 5,000 บาท แต่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยน้ำท่วมนา ทราบว่า ทางอำเภอกำลังตรวจสอบอยู่ เพราะส่งเรื่องไปหมดแล้ว ทราบว่าเกษตรกำลังรอเซ็นอนุมัติ จึงยังไม่สามารถจ่ายเงินชดเชยไร่ละ 2 พันบาทได้ ยิ่งเจอข่าวหัวคิวเงินน้ำท่วม 2 ตำบลก็เสียหายไปหมดทั้งบางระกำ

“สำหรับหมู่บ้านผม 125 หลังคาเรือนยังไม่มีใครได้รับเงิน จึงไม่มีค่าหัวคิวเหมือน ต.ชุมแสงสงคราม”

นางทุเรียน ก้านใหญ่ ชาวบ้านหมู่ 8 ต.ท่านางาม ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กล่าวว่า คำว่า บางระกำโมเดลก็ดีเหมือนกัน ทำให้ได้รับถุงยังชีพและเรือพลาสติกยืมพาย ที่ผ่านมาชาวบ้านในหมู่บ้านลงชื่อขอเรือประมาณ 6 ลำ เป็นเรือยืมพายของอำเภอบางระกำ(สีดำ), และเรือสีเขียว แม้จะเป็นเรือบริจาค ของ บจก.จอยสปอร์ต แอนด์ เอสซีจี ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของบางระกำโมเดล

ด้านนายบรรดิษฐ์ อินต๊ะ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วม(ณ วันที่ 14 ต.ค.54) พื้นที่พิษณุโลก น้ำยังคงท่วมขังมากสุดที่บางระกำ เพราะน้ำจากจังหวัดกำแพงเพชรและสุโขทัย ได้ไหลเข้าสู่แม่น้ำยม ท่วมขังพื้นที่ต่ำดั้งเดิมของบางระกำ ทำให้ขณะนี้ปริมาณน้ำท่วมขังเป็นวงกว้างเหมือนเดิม พอเริ่มลดระดับเล็กน้อย

“เวลานี้แม่น้ำน่านเมืองพิษณุโลกลดระดับลงมากอยู่ที่ 8.33 เมตร และระดับน้ำของแม่น้ำน่านต่ำกว่าแม่น้ำยมแล้ว หากเป็นสถานการณ์ปกติชลประทาน จะระบายน้ำจากน้ำยมลงน้ำน่านด้วยคลอง ดีอาร์2.8 เพื่อนำน้ำท่วมขังออกพื้นที่บางระกำ แต่สถานการณ์ขณะนี้ พื้นที่จังหวัดนครสวรรค์ยังประสบวิกฤติน้ำสูงมาก จึงขอให้ชาวอำเภอบางระกำอดทนรอไปก่อน คาดว่า อีก 1 สัปดาห์ จะเริ่มระบายน้ำออกสู่แม่น้ำน่านได้ เพื่อให้คนบางระกำบรรเทาจากน้ำท่วมขังเป็นเวลานานได้บ้าง”นายบรรดิษฐ์กล่าว

ประมวลข่าว “บางระกำโมเดล” แก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริงหรือ!?