ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - สมาคมตำรวจ รุดให้กำลังใจและรับฟังปัญหาข้อขัดข้องกับพนักงานสอบสวนคดี 22 รีสอร์ตรุกป่าวังน้ำเขียว ที่โคราช หลังเกิดข่าวขัดแย้งป่าไม้จนต้องเสนอโอนคดีให้ “DSI” แนะชี้แจงการทำงานผ่านสื่อต่อเนื่องเหตุเป็นคดีปชช.สนใจ ยันไม่มีผลประโยชน์และอิทธิพลใดครอบงำ แต่ยอมรับทำงานลำบากอ้างเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขณะจนท.ป่าไม้ลงพื้นที่ตรวจบ้านพักรีสอร์ตงาบป่า อ.วังน้ำเขียว ล็อต 2 จำนวน 37 แห่งเพิ่มเติม ก่อนแจ้งจับอีก
วันนี้ (16 ก.ย.) ที่ห้องประชุม วีไอพี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช นายกสมาคมตำรวจ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อม พล.ต.ท. เหมราช ธารีไทย รองนายกสมาคมตำรวจ และคณะกว่า 10 คน เดินทางมาตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจพนักงานสอบสวนคดีบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่งรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และรับฟังปัญหาอุปสรรคการดำเนินคดี
โดยมี นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว ปลัดจังหวัดนครราชสีมา ทำหน้าที่แทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน และ พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิ์ศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.ภ.จว.) นครราชสีมา 1 ใน พนักงานสอบสวน และพนักงานสอบสวนคดีทั้งหมดทั้ง ตำรวจและฝ่ายปกครอง เข้าชี้แจงรายละเอียด
พล.ต.อ.สุวรรณ สุวรรณเวโช นายกสมาคมตำรวจ เปิดเผยว่า จากกรณีข่าวการบุกรุกป่าในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว โดยเฉพาะที่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่งไปแล้วนั้น คดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างกว้างขวาง และมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า เป็นกรณีผลประโยชน์ขัดกันของเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ถึงขั้นมีการร้องขอให้โอนคดีไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งข้อเท็จจริงพนักงานสอบสวนได้ทุ่มเทสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานอย่างหนักและต่อเนื่องมาตลอด ไม่ได้มีเรื่องผลประโยชน์หรืออิทธิพลใด ๆ เข้ามาครอบงำการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด
วันนี้ (16 ก.ย.) คณะกรรมการสมาคมฯ จึงเดินทางมาให้กำลังใจพนักงานสอบสวน และร่วมหารือถึงข้อขัดข้องต่างๆ ซึ่งหน้าที่ของสมาคมฯ คือการส่งเสริมสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมให้เป็นไปอย่างถูกต้อง และส่งเสริมการปฏิบัติราชการของเจ้าหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นผลดีแก่ประเทศชาติโดยรวม
ทั้งนี้ จากการหารือทำให้ทราบว่า พนักงานสอบสวนทำงานค่อนข้างลำบาก เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เนื่องจากพื้นที่ที่แจ้งความดำเนินคดีกลายเป็นชุมชนมีคนอยู่จำนวนมาก มีผลกระทบกับหลายส่วน และเจ้าหน้าที่เองต้องระวังไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องการเลือกปฏิบัติ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องหาทางออกร่วมกันในหลายหน่วยงานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่พนักงานสอบสวนทุกคนมีกำลังใจที่ดี และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามหลักกฎหมายที่มีอยู่
“ทางคณะกรรมการสมาคมฯ ได้แนะนำให้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออย่างต่อเนื่องเพราะประชาชนให้ความสนใจในคดีนี้ ซึ่งปัญหาและข้อขัดข้องต่างๆ ที่ได้รับทราบในวันนี้จะนำเสนอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐบาลต่อไป” พล.ต.อ.สุวรรณ กล่าว
ด้าน พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนทำคดีนี้ด้วยความระมัดระวัง จนขณะนี้สามารถหาตัวผู้กระทำผิดซึ่งเป็นเจ้าของบ้านพักและรีสอร์ตที่แท้จริงทั้ง 22 แห่งมาได้และได้แจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหาทั้งหมดแล้ว ขอเรียนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ขณะนี้มีผู้ประกอบการบางรายไปแจ้งศาลปกครองว่าเจ้าหน้าที่เลือกปฏิบัติละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากในพื้นที่ที่มีการแจ้งความดำเนินคดีนั้นกลายเป็นชุมชน และผู้กระทำผิดอ้างว่าไม่ได้บุกรุกป่าแต่ซื้อสิทธิ์ต่อมาจากชาวบ้าน มีเสาไฟฟ้า ประปา และถนนเข้าไปถึงทุกแปลง และมีเอกสารครอบครองเป็นใบเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภบท. 5) ซึ่งขณะนี้ทุกอย่างอยู่ระหว่างการสอบสวน
“อย่างไรก็ตามยืนยันว่าพนักงานสอบสวนทุกคนยังมีกำลังใจที่ดี และเร่งทำคดีอย่างมุ่งมั่นด้วยความระมัดระวัง หาหลักฐานให้ครอบคลุมมากที่สุด แม้จะถูกมองไม่ดีก็ตาม และยืนยันที่จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขอย้ำว่าไม่มีใครมีอิทธิพลใดอยู่เหนือการทำงานของพนักงานสอบสวนทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรงไปตรงมา” พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กล่าว
ด้าน นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินการกับรีสอร์ตบ้านพัก 22 แห่ง ที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ว่า ขณะนี้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมาอยู่ระหว่างการประสานขอข้อมูลหลักฐานจากทางพนักงานสอบสวนที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดฯ เป็นหัวหน้า เพื่อประกอบการเสนอให้อธิบดีกรมป่าไม้พิจารณาลงนามอนุมัติให้ใช้มาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2504 เข้าติดป้ายประกาศสั่งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายใน 45 วัน ซึ่งคาดว่าจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน จะสามารถยื่นเสนออธิบดีกรมป่าไม้ อนุมัติ ได้
ล่าสุดในวันนี้ (16 ก.ย. ) คณะทำงานชุดเฉพาะกิจเพื่อสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีการบุกรุกทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่ต่อเนื่อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักรีสอร์ต เพิ่มเติมที่เข้าข่ายบุกรุกป่าสงวนป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว อีก 37 แห่ง หลังจากได้รับการยืนยันผลการเปรียบเทียบจากภาพถ่ายทางอากาศจากกรมป่าไม้ว่าบ้านพักรีสอร์ตทั้งหมดบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนฯ โดยคณะทำงานได้ทำการสำรวจว่า บ้านพักรีสอร์ตทั้งหมดบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติมากน้อยเท่าใด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน ก่อนที่จะดำเนินการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีล็อตที่ 2 กับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป
