xs
xsm
sm
md
lg

เตรียมแบ็กโฮ-จนท.100 นาย รื้อบ้านฮุบป่า “ทับลาน” - แฉวังน้ำเขียวรุกล็อตใหญ่ 200 ราย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เดินหน้าปฏิบัติการ “คืนผืนป่าให้แผ่นดิน” ป้ายหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- อุทยานฯทับลาน เตรียมรถแบ็กโฮ พร้อม จนท.100 นาย นำอธิบดีเข้ารื้อถอนอาคารบ้านพักฮุบป่าอุทยานฯเป้าหมาย 3 แห่ง รวมกว่า 60 ไร่ใน อ.นาดี ปราจีนฯ และ อ.วังน้ำเขียว โคราช เผยเดินหน้าจับกุมรุกป่าเข้มข้นต่อเนื่อง พบรุกป่าอุทยานฯทับลานล็อตใหญ่ตั้งเป็นชุมชนกว่า 200 ราย เขต อ.วังน้ำเขียว เสนอกรมฯขอความชัดเจนดำเนินการ ชี้ ต้องให้หลายหน่วยงานเข้าช่วย ด้านป่าไม้โคราชเตรียมยื่นขอความเห็นชอบผู้ว่าฯบังคับใช้ ม.25 พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ สั่งรื้อรีสอร์ต 22 แห่งงาบป่าวังน้ำเขียวในสัปดาห์หน้า

วันนี้ (9 ก.ย.) นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน เปิดเผยถึงการดำเนินการกับกลุ่มผู้บุกรุกป่าอุทยานฯทับลาน ว่า ล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการปักป้ายประกาศให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างตามมาตรา 22 แห่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 ไปครบทั้งหมดแล้วกว่า 100 ราย โดยแบ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ดำเนินคดีมาตั้งแต่ปี 2543-2544 จำนวนกว่า 50 ราย ล่าสุด มีเจ้าของสิ่งปลูกสร้างที่เป็นทั้งบ้านพัก รีสอร์ต ได้ยื่นอุทธรณ์เข้ามากว่า 30 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบ ซึ่งถือเป็นสิทธิ์ของผู้ประกอบการที่สามารดำเนินการได้ ส่วนที่ไม่ยื่นอุทธรณ์นั้นเนื่องจากเห็นว่าศาลตัดสินแล้ว และบางรายหาตัวผู้กระทำผิดไม่เจอ ซึ่งต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ส่วนบ้านพัก รีสอร์ต ที่คดีเป็นที่สิ้นสุดและศาลสั่งให้รื้อถอน นั้น มีจำนวน 3 ราย เนื้อที่รวมกว่า 60 ไร่ ประกอบด้วย 1.บ้านพักของ นายธีรศักดิ์ พรอนันต์ฤกษ์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เนื้อที่ 7ไร่ 3 งาน 7 ตารางวา 2.บ้านพักของ นายวิเชียร เอมอุ่นจิตร์ เนื้อที่ 20 ไร่ 98 ตารางวา และ 3.บ้านพักของ นายสมชาย คูหาแก้ว เนื้อที่ 33 ไร่ 1 งาน 13 ตารางวา ทั้ง 2 แห่งตั้งอยู่ใน ต.อุดมทรัพย์ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งหากไม่รื้อถอนเองเจ้าหน้าที่จะเข้าทำการรื้อถอนต่อไป

กรณี นายดำรงค์ พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช คนใหม่ มีกำหนดเดินทางลงพื้นที่เพื่ออำนวยการสั่งการรื้อถอนบ้านพักรีสอร์ตที่คดีเป็นที่สิ้นสุดด้วยตัวเองในสัปดาห์หน้า นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งจากทางกรม ว่า อธิบดีจะลงพื้นที่ในวันใด แต่ทางอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว ทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ต้องใช้ในการเข้าไปรื้อถอนประมาณกว่า 100 นาย และ รถแบ็กโฮอีก 2 คัน หากอธิบดีลงมาก็พร้อมเข้าปฏิบัติการรื้อถอนบ้านพักสิ่งปลูกสร้างเป้าหมายทั้ง 3 แห่งดังกล่าวได้ทันที ซึ่งคาดว่าจะทำการรื้อถอนแล้วเสร็จได้ภายในวันเดียว เนื่องจากมีสิ่งปลูกสร้างไม่มากนั้น เป็นลักษณะอาคารพาณิชย์ บ้านพัก รวมประมาณ 4-5 หลัง เท่านั้น

นายเทวินทร์ กล่าวอีกว่า อุทยานฯทับลาน ยังคงเดินหน้าในการนำพื้นที่ป่ากลับคืนจากกลุ่มผู้บุกรุก และมีการปราบปรามอย่างเข้มข้น ซึ่งในช่วงที่ตนเข้ามารับตำแหน่งตั้งแต่เดือน เม.ย. 2554 จนถึงขณะนี้ ดำเนินการปราบปรามกลุ่มผู้บุกรุกป่าไปหลายรายแล้ว มีทั้งรายเล็กและรายใหญ่ สามารถนำผืนป่ากลับมาได้แล้วกว่า 2,000 ไร่ โดยครั้งล่าสุด เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการจับกุมผู้บุกรุกป่าอุทยานฯ ได้อีก ซึ่งเข้ามาสร้างบ้านพักตากอากาศจำนวน 4 หลัง บนพื้นที่ 4 ไร่ ในเขต ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้ผู้ต้องหา 1 คน จับกุมไปเมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา

ส่วนในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมานั้น เป็นพื้นที่ที่มีปัญหาการรุกป่าอุทยานฯ ทับลานที่ใหญ่มาก จนกลายเป็นชุมชน ตั้งเป็นชุมชนมีผู้บุกรุกมากกว่า 200 รายในเขต ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว เรื่องนี้ต้องมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยกันดำเนินการ เพราะมีการบุกรุกเป็นวงกว้าง เฉพาะอุทยานแห่งชาติทับลานเพียงแห่งเดียวคงมีกำลังไม่เพียงพอ ฉะนั้น เรื่องนี้ทางอุทยาฯ จึงได้ทำหนังสือสอบถามไปยังกรมอุทยานฯ เพื่อขอความชัดเจนในการดำเนินการ หากมีคำสั่งอย่างไรเจ้าหน้าที่ก็พร้อมปฏิบัติการ
นายเทวินทร์  มีทรัพย์  หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน
“ผู้ประกอบการที่เข้ามาบุกรุกส่วนใหญ่อ้างว่าซื้อสิทธิ์มาจากชาวบ้านเดิมที่อยู่มาก่อน ไม่ได้บุกรุกป่าเองแต่อย่างใด ซึ่งตามหลักของกฎหมายแล้วการกระทำดังกล่าวถือว่าผิดเพราะที่ดินที่ให้ชาวบ้านทำกินอยู่ในเขตอุทยาน ตาม มติ ครม.2541 ไม่สามารถเปลี่ยนมือหรือซื้อขายกันได้ และจะสร้างเป็นบ้านพักหรือรีสอร์ตก็ทำไม่ได้ ผิดวัตถุประสงค์อยู่แล้ว” นายเทวินทร์ กล่าว

ด้าน นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) เปิดเผยกับการดำเนินการกับบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่ง บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดเข้ามาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และวันนี้ (9 ก.ย.) ถือเป็นวันสุดท้ายของการติดป้ายประกาศแจ้งการตรวจยึดจับกุมดำเนินคดี ในพื้นที่ทั้ง 22 แห่ง เพื่อให้มาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ภายใน 15 วัน ซึ่งได้ติดป้ายไปเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนี้ไปทางสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ฯ จะขอทราบรายละเอียดจากพนักงานสอบสวนในพื้นที่ว่ามีใครมาแสดงตัว จากนั้นจะสรุปประมวลข้อมูลทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าที่ดินผืนใดที่ต้องยับยั้งหรือผืนใดที่จะดำเนินการสั่งให้รื้อถอนตาม มาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ได้เลย

จากนั้นจะได้ทำหนังสือเสนอขอความเห็นชอบในการออกประกาศสั่งรื้อถอนตามมาตรา 25 ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และอธิบดีกรมป่าไม้ เห็นชอบต่อไป ก่อนนำประกาศดังกล่าวไปปักไว้ที่หน้ารีสอร์ตเป้าหมายให้ดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายในเวลา 45 วัน หากเกินจากวันที่กำหนดเจ้าหน้าที่จะเข้าไปรื้อถอนทันที คาดว่า จะทำหนังสือขอความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาในวันจันทร์ที่ 12 ก.ย.นี้

ขณะที่ นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การดำเนินการเกี่ยวกับคดีบุกรุกป่าวังน้ำเขียว ต้องแยกส่วนให้ชัดเจน เพราะตนสวมหมวก 2 ใบ คือ ใบที่ 1 ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีรีสอร์ตบ้านพัก 22 แห่งรุกป่าวังน้ำเขียว ซึ่งขณะนี้คดีคืบหน้าไปมากพนักงานสอบสวนพยายามทำงานอย่างรัดกุมเพื่อหาหลักฐานให้มัดแน่นตัวผู้กระทำผิดซึ่งมีการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีกันทุก 1-2 สัปดาห์

ส่วนหมวกอีกใบคือ ในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หากเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะเสนอขอความเห็นชอบในการออกประกาศตามมาตรา 25 นั้น ขอไปศึกษาข้อมูลก่อนว่าผู้ว่าฯ มีอำนาจอย่างไรในกฎหมายนี้ ก่อนจะตัดสินใจดำเนินการอะไรไป
กำลังโหลดความคิดเห็น