ASTVผู้จัดการรายวัน-ป่าไม้โคราช เดินหน้างัด “ม. 25” พ.ร.บ.ป่าสงวนฯสั่งรื้อถอนรีสอร์ตบ้านพัก 22 แห่งรุกป่าสงวนฯ วังน้ำเขียว หลังปักป้ายแจ้งดำเนินคดีครบ 15 วัน 10 ก.ย.นี้ เผยล่าสุดไม่มีผู้ประกอบการรายใดโผล่หัวแสดงตัวกับป่าไม้ เตรียมขอดูหลักฐานจากพนักงานสอบสวนก่อนเสนอ “ผู้ว่าฯ-อธิบดีกรมป่าไม้”ลงนามประกาศสั่งทุบ ลั่นยึดคืนพื้นที่ป่าทั้ง 22 แห่งกลับมาให้ได้ ด้านผู้ว่าฯโคราชเริ่มขยับประเดิมเชือดล็อตแรก 6 ราย หลังพบผู้กระทำผิดชัดเจน เผยออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาภายใน 5 วัน ก่อนสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องส่งอัยการ
วานนี้(7 ก.ย.)นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8(นครราชสีมา) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับบ้านพัก
รีสอร์ตล็อตแรกจำนวน 22 แห่งที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่จะไปแสดงตัวกับพนักงานสอบสวนในส่วนคดีอาญา หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ เพราะเป็นการทำงานคนละส่วนกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 10 ก.ย.นี้จะครบกำหนด 15 วันที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้นำป้ายแจ้งการตรวจยึดจับกุมดำเนินคดี ไปปักแสดงไว้บริเวณหน้ารีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่ง เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้เจ้าของได้นำเอกสารหลักฐานการครอบครองที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหากรวมกับวันที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาที่ สภ.วังน้ำเขียว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ถือว่าครบ 1 เดือนเต็มแล้วที่ได้ให้โอกาสกับผู้ประกอบการดังกล่าว
ฉะนั้น การดำเนินการหลังจากวันที่ 10 ก.ย.นี้ไป ต้องเข้าสู่กระบวนการตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 คือติดป้ายประกาศสั่งให้เจ้าของบ้านพักรีสอร์ตทั้ง 22 แห่ง ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายใน 45 วันโดยขณะนี้ได้เตรียมเอกสารต่างๆ ในการออกประกาศไว้พร้อมแล้ว เพื่อยื่นเสนอให้ผู้มีอำนาจลงนามในประกาศดังกล่าวได้พิจารณาอนุมัติ
นายสุเทพ กล่าวว่า ก่อนเสนอให้มีการลงนามในประกาศดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะขอดูหลักฐานต่างๆ จากพนักงานสอบสวนในคดีอาญาก่อน เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานว่า มีใครมาแย้งหรือมาแสดงเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินใน 22 แปลงนี้ หรือไม่ แต่หากไม่มีการแย้งก็สามารถเข้าไปปักป้ายสั่งให้รื้อถอนได้ทันที
ส่วนการเสนออนุมัติในการใช้มาตรา 25 นั้นจะเสนอไปตามขั้นตอนคือ เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงนาม หากท่านไม่ลงนามตามกรอบเวลาที่เหมาะสมก็เสนอให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นผู้ลงนาม แทน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำป้ายประกาศให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายใน 30 วัน ตามอำนาจในมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ไปปักแสดงไว้ เพื่อแจ้งเตือนเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตทั้ง 22 แห่งให้ดำเนินการตามประกาศดังกล่าว โดยให้เวลาในการยื่นอุทธรณ์อีก 15 วัน หากครบกำหนดแล้วยังไม่มีการรื้อถอนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกทันที
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวนเด็ดขาด เพราะถึงอย่างไรเราต้องยึดคืนพื้นที่รีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่งกลับมาให้ได้ อีกทั้งทางอธิบดีกรมป่าไม้ก็ได้กำชับมาว่าให้เดินหน้าทำงานต่อไป อย่าไปทะเลาะกับใคร ส่วนที่ผ่านมาอาจมีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนก็ให้ขอโทษเขาไปและให้ระมัดระวังตัว
" เราจะจัดการกับผู้บุกรุกป่าสงวนฯ ทุกรายและยึดคืนพื้นที่ป่ากลับมาเป็นของกรมป่าไม้ของประเทศชาติให้ได้ ยกเว้นชาวบ้านที่เข้ามาอยู่อาศัยและทำกินก่อนการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งต้องพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม.มิ.ย.43 ต่อไป”
ด้านนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่งรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว ได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า มีพยานหลักฐานพอฟังได้ว่า พบตัวผู้กระทำผิดแล้ว 6 รายจากทั้งหมด 22 ราย หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2584 ม.54, ม.72, กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 และ ม.31 วรรคหนึ่ง และกระทำผิด พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ม.97 กับเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตทั้ง 6 รายดังกล่าว โดยจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งเจ้าพนักงานจะได้สอบปากคำเพิ่มเติมก่อนสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องส่งอัยการต่อไป.
วานนี้(7 ก.ย.)นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8(นครราชสีมา) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการกับบ้านพัก
รีสอร์ตล็อตแรกจำนวน 22 แห่งที่บุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมาว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดมาแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ แต่จะไปแสดงตัวกับพนักงานสอบสวนในส่วนคดีอาญา หรือไม่นั้น ยังไม่ทราบ เพราะเป็นการทำงานคนละส่วนกัน
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 10 ก.ย.นี้จะครบกำหนด 15 วันที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้นำป้ายแจ้งการตรวจยึดจับกุมดำเนินคดี ไปปักแสดงไว้บริเวณหน้ารีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่ง เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อให้เจ้าของได้นำเอกสารหลักฐานการครอบครองที่ดินมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และหากรวมกับวันที่เจ้าหน้าที่เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีอาญาที่ สภ.วังน้ำเขียว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ถือว่าครบ 1 เดือนเต็มแล้วที่ได้ให้โอกาสกับผู้ประกอบการดังกล่าว
ฉะนั้น การดำเนินการหลังจากวันที่ 10 ก.ย.นี้ไป ต้องเข้าสู่กระบวนการตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 คือติดป้ายประกาศสั่งให้เจ้าของบ้านพักรีสอร์ตทั้ง 22 แห่ง ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายใน 45 วันโดยขณะนี้ได้เตรียมเอกสารต่างๆ ในการออกประกาศไว้พร้อมแล้ว เพื่อยื่นเสนอให้ผู้มีอำนาจลงนามในประกาศดังกล่าวได้พิจารณาอนุมัติ
นายสุเทพ กล่าวว่า ก่อนเสนอให้มีการลงนามในประกาศดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะขอดูหลักฐานต่างๆ จากพนักงานสอบสวนในคดีอาญาก่อน เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานว่า มีใครมาแย้งหรือมาแสดงเอกสารสิทธิ์การถือครองที่ดินใน 22 แปลงนี้ หรือไม่ แต่หากไม่มีการแย้งก็สามารถเข้าไปปักป้ายสั่งให้รื้อถอนได้ทันที
ส่วนการเสนออนุมัติในการใช้มาตรา 25 นั้นจะเสนอไปตามขั้นตอนคือ เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ลงนาม หากท่านไม่ลงนามตามกรอบเวลาที่เหมาะสมก็เสนอให้อธิบดีกรมป่าไม้เป็นผู้ลงนาม แทน จากนั้นเจ้าหน้าที่จะนำป้ายประกาศให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปภายใน 30 วัน ตามอำนาจในมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ไปปักแสดงไว้ เพื่อแจ้งเตือนเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตทั้ง 22 แห่งให้ดำเนินการตามประกาศดังกล่าว โดยให้เวลาในการยื่นอุทธรณ์อีก 15 วัน หากครบกำหนดแล้วยังไม่มีการรื้อถอนเจ้าหน้าที่จะเข้าไปรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกทันที
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือไปยุ่งเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวนเด็ดขาด เพราะถึงอย่างไรเราต้องยึดคืนพื้นที่รีสอร์ตบ้านพักทั้ง 22 แห่งกลับมาให้ได้ อีกทั้งทางอธิบดีกรมป่าไม้ก็ได้กำชับมาว่าให้เดินหน้าทำงานต่อไป อย่าไปทะเลาะกับใคร ส่วนที่ผ่านมาอาจมีการเสนอข่าวคลาดเคลื่อนก็ให้ขอโทษเขาไปและให้ระมัดระวังตัว
" เราจะจัดการกับผู้บุกรุกป่าสงวนฯ ทุกรายและยึดคืนพื้นที่ป่ากลับมาเป็นของกรมป่าไม้ของประเทศชาติให้ได้ ยกเว้นชาวบ้านที่เข้ามาอยู่อาศัยและทำกินก่อนการประกาศเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งต้องพิสูจน์สิทธิ์ตามมติ ครม.มิ.ย.43 ต่อไป”
ด้านนายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่งรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง บริเวณเขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว ได้แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า มีพยานหลักฐานพอฟังได้ว่า พบตัวผู้กระทำผิดแล้ว 6 รายจากทั้งหมด 22 ราย หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อกล่าวหากระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2584 ม.54, ม.72, กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 และ ม.31 วรรคหนึ่ง และกระทำผิด พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ.2535 ม.97 กับเจ้าของบ้านพักรีสอร์ตทั้ง 6 รายดังกล่าว โดยจะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวนภายใน 5 วันทำการนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ซึ่งเจ้าพนักงานจะได้สอบปากคำเพิ่มเติมก่อนสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องส่งอัยการต่อไป.