ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-รองผบก.โคราช เต้นโต้คดีรีสอร์ต 22 แห่งรุกป่า “วังน้ำเขียว”ไม่อืด อ้างเดินหน้าไปตามขั้นตอน ล่าสุดคดีคืบไปมาก เจ้าของรีสอร์ตส่งตัวแทนเข้าแสดงตัวกับพนักงานสอบสวนแล้ว 18 ราย กร้าวไม่มีใครมากดดันได้ เตรียมเรียกท้องถิ่นชี้แจงที่มาเอกสารสิทธิ ก่อนประชุมสรุปคดีส่งอัยการสั่งฟ้อง ด้านผู้ว่าฯ โคราช ยังหงอรูดซิปปาก เปิดโฉมทีมพนักงานสอบสวนคดีรุกป่าวังน้ำเขียวสุดอืด 17 คน
พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่งบุกรุกป่าสงวนแห่ชาติ ป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดี วานนี้ (30 ส.ค.) ว่า จนถึงขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก เจ้าของรีสอร์ตและบ้านพักได้ส่งตัวแทนเข้ามาแสดงตัวพร้อมยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดินดังกล่าวแก่พนักงานสอบสวนเกือบครบทั้งหมดแล้ว รวมประมาณ 18 ราย มีเพียงไม่กี่รายที่แจ้งว่าอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ และจะกลับมาแสดงตัวในภายหลัง สำหรับเอกสารหลักฐานการครอบครองที่ดินที่ผู้ประกอบการนำมาแสดงนั้น ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากจะเสียรูปคดี
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปพนักงานสอบสวนจะเรียกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนคดี เนื่องจากมีเอกสารที่ออกโดยทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้ประกอบการนำมาเป็นหลักฐานโต้แย้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องเรียกมาชี้แจงตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วจะมีการประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการสั่งฟ้องต่อไป
“ยืนยันว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไม่ได้ล่าช้า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนเพียงแต่ต้องใช้เวลาในการสอบสวนบ้าง แต่ก็เดินหน้าไปทุกวันและจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด”
เมื่อถามถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนนัดหมายให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงไปชี้จุดเมื่อวันที่ 25 ส.ค.รวม 22 จุด แต่ตำรวจไปแค่จุดเดียวก็ยกเลิกภารกิจกะทันหันนั้น พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กล่าวว่า ไม่ใช่การยกเลิกภารกิจ แต่เนื่องจากได้ข้อมูลครบถ้วนหมดแล้ว เพราะการลงชี้จุดได้ทำตั้งแต่วันที่มีการแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียว แต่ยังขาดอยู่อีกเล็กน้อยจึงได้นัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาในวันดังกล่าว และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็แยกย้ายกันกลับเท่านั้น
สำหรับกรณีที่มีข่าวว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองเข้ามากดดันพนักงานสอบสวนจนทำงานไม่ได้นั้น พ.ต.อ.วชิรวิญช์ ยืนยันว่า ไม่มีใครมากดดันหรือมาแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่โคราชได้ ทุกอย่างเดินหน้าไปตามขั้นตอน แต่จะเปิดเผยรายละเอียดอะไรมากไม่ได้ เนื่องจากเกรงจะเสียรูปคดี
ส่วนที่ทางป่าไม้จะเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาทำคดีมีแทนตำรวจท้องที่ เพราะคดีมีปัญหาล่าช้าถูกกดดันจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองนั้น พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกรมป่าไม้ที่จะเสนอไป แต่คดีนี้ไม่ใช้เรื่องที่สลับซับซ้อนอะไรมากมาย และตำรวจเราก็ทำงานกันอยู่แล้ว ไม่ได้ถูกขัดขวางหรือกดกันแต่อย่างใด
นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กล่าวถึงกรณีที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียว ด้วยตัวเองว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ และไม่มีคำสั่งหรือกำหนดการลงมา อย่างไรก็ตาม หากท่านรัฐมนตรีมาดูก็จะเห็นสภาพปัญหาตามข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ซึ่งทางกระทรวงฯ อาจมีการตั้งคณะกรรมาการขึ้นมาช่วยเหลือเพิ่มเติม
สำหรับรีสอร์ต บ้านพัก 22 แห่งที่แจ้งดำเนินคดีเป็นล็อตแรกไปแล้วนั้น ทางป่าไม้จะดำเนินการไปตามขบวนการทางกฎหมายให้ชัดเจนทั้งหมดก่อน แล้วจึงจะแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับรีสอร์ตบ้านพักที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียวในล็อตที่สองอีก 17 แห่ง และยังมีอีกกว่า 20 แห่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามาอีกในล็อตที่สาม ซึ่งการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวนก็ให้ทำหน้าที่ของเขาไป ในส่วนของเจ้าหน้าที่ปาไม้ก็ทำหน้าที่ไปตามอำนาจของกฎหมายป่าไม้
ส่วนการทำงานในพื้นที่มีความหนักใจและถูกกดดันจากกลุ่มผู้มีอิทธิพล นักการเมืองนั้น ต้องทำตามขั้นตอนและตอนนี้มันหยุดไม่ได้แล้ว เพียงแต่กระบวนการของคดีอาญานั้น หากการสอบสวนยังไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมันจะเสียหายตรงที่หาตัวผู้รับผิดชอบทางแพ่งไม่ได้ แต่ในเรื่องพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุกนั้นทางป่าไม้สามารถเอาคืนมาได้แน่ ฉะนั้น เจ้าของรีสอร์ตทั้ง 22 รายต้องชัดเจนโดยเขาต้องออกมารับผิดหรือไม่ เราต้องรู้ตัวถึงจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ หากไม่รู้ตัวมันก็สูญเปล่า
นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี บ้านพักรีสอร์ต 22 แห่ง บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว ได้ปฎิเสธที่จะตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับปัญหาคดีดังกล่าว โดยได้รีบเดินหนีผู้สื่อข่าวไปทันที ทั้งนี้ นายระพี ได้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับคดีบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียว มาโดยตลอด
อนึ่ง สำหรับคดีบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่งบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว ที่เจ้าพนักงานป่าไม้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.วังน้ำเขียว และพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีตามคดีอาญาที่ 734/2554-755/2554 ปจว.ข้อ 9 ลงวันที่ 10 ส.ค.2554 นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ออกคำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 3055/2554 เรื่อง “การเข้าควบคุมสอบสวนและแต่งตั้งพนักงานสอบสวนคดีเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรของชาติอื่นๆ” ลงวันที่ 18 ส.ค.2554 แต่งตั้งพนักงานสอบสวนทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจเพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าวร่วมกันรวม 17 คนโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน
พนักงานสอบสวนอีก 16 คน ประกอบด้วย 1.นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว ปลัดจังหวัดฯ 2.พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ทฤธิศักย์ รอง ผบก.นครราชสีมา 3.นายชัยยงค์ ฮมภิรมย์ นายอำเภอวังน้ำเขียว 4.พ.ต.อ.กิตติ ฤทธิ์เวโรจน์ พงส.(สบ.4)ภวจ.นครราชสีมา 5.พ.ต.อ.กิตติ กองแสงศรี ผกก.สภ.วังน้ำเขียว 6. พ.ต.ท.โชติ ตระกูล รองผผก.(สส.) สภ.วังน้ำเขียว 7.พ.ต.ท.เสนอ คงวิชรฉัตร พงส.(สบ.3) สภ.วังน้ำเขียว 8.พ.ต.ท.คมกฤช เคนชา พงส.(สบ.3)สภ.วังน้ำเขียว 9.พ.ต.ท.เด่น สุขใหม่ พงส.(สบ.3)สภ.วังน้ำเขียว 10.พ.ต.ต.เนติรัฐ บุษรา พงส.(สบ.2) สภ.วังน้ำเขียว 11.พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รองผกก.(สส.) สภ.โพธิ์กลาง 12.พ.ต.ท.ภานุเทพ ไชยคำภา รองผกก.(สส.) สภ.ปักธงชัย 13. พ.ต.ท.ธวัชชัย สร้อยสวัสดิ์ รองผกก.(สส.)สภ.อุดมทรัพย์ 14.พ.ต.ท.อภินันท์ ปลื้มมะรัง พงส.(สบ.3) สภ.เมืองนครราชสีมา 15.นายธรรมธรรศ ทองสำโรง ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ) และ 16.นายอิทธิพล สุยะลา ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ)
พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะพนักงานสอบสวนคดีบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่งบุกรุกป่าสงวนแห่ชาติ ป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดี วานนี้ (30 ส.ค.) ว่า จนถึงขณะนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก เจ้าของรีสอร์ตและบ้านพักได้ส่งตัวแทนเข้ามาแสดงตัวพร้อมยื่นเอกสารสิทธิการถือครองที่ดินดังกล่าวแก่พนักงานสอบสวนเกือบครบทั้งหมดแล้ว รวมประมาณ 18 ราย มีเพียงไม่กี่รายที่แจ้งว่าอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ และจะกลับมาแสดงตัวในภายหลัง สำหรับเอกสารหลักฐานการครอบครองที่ดินที่ผู้ประกอบการนำมาแสดงนั้น ไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากจะเสียรูปคดี
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปพนักงานสอบสวนจะเรียกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อประกอบสำนวนคดี เนื่องจากมีเอกสารที่ออกโดยทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ผู้ประกอบการนำมาเป็นหลักฐานโต้แย้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องเรียกมาชี้แจงตามขั้นตอนของกฎหมาย หลังรวบรวมพยานหลักฐานครบถ้วนแล้วจะมีการประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อสรุปสำนวนคดีส่งให้อัยการสั่งฟ้องต่อไป
“ยืนยันว่าการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ไม่ได้ล่าช้า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนเพียงแต่ต้องใช้เวลาในการสอบสวนบ้าง แต่ก็เดินหน้าไปทุกวันและจะทำให้เสร็จเร็วที่สุด”
เมื่อถามถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนนัดหมายให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ลงไปชี้จุดเมื่อวันที่ 25 ส.ค.รวม 22 จุด แต่ตำรวจไปแค่จุดเดียวก็ยกเลิกภารกิจกะทันหันนั้น พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กล่าวว่า ไม่ใช่การยกเลิกภารกิจ แต่เนื่องจากได้ข้อมูลครบถ้วนหมดแล้ว เพราะการลงชี้จุดได้ทำตั้งแต่วันที่มีการแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียว แต่ยังขาดอยู่อีกเล็กน้อยจึงได้นัดเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาในวันดังกล่าว และเมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็แยกย้ายกันกลับเท่านั้น
สำหรับกรณีที่มีข่าวว่ามีกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองเข้ามากดดันพนักงานสอบสวนจนทำงานไม่ได้นั้น พ.ต.อ.วชิรวิญช์ ยืนยันว่า ไม่มีใครมากดดันหรือมาแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่โคราชได้ ทุกอย่างเดินหน้าไปตามขั้นตอน แต่จะเปิดเผยรายละเอียดอะไรมากไม่ได้ เนื่องจากเกรงจะเสียรูปคดี
ส่วนที่ทางป่าไม้จะเสนอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้ามาทำคดีมีแทนตำรวจท้องที่ เพราะคดีมีปัญหาล่าช้าถูกกดดันจากกลุ่มผู้มีอิทธิพลและนักการเมืองนั้น พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกรมป่าไม้ที่จะเสนอไป แต่คดีนี้ไม่ใช้เรื่องที่สลับซับซ้อนอะไรมากมาย และตำรวจเราก็ทำงานกันอยู่แล้ว ไม่ได้ถูกขัดขวางหรือกดกันแต่อย่างใด
นายสุเทพ ปวเรศวิทยาฬาร ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) กล่าวถึงกรณีที่นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียว ด้วยตัวเองว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบ และไม่มีคำสั่งหรือกำหนดการลงมา อย่างไรก็ตาม หากท่านรัฐมนตรีมาดูก็จะเห็นสภาพปัญหาตามข้อเท็จจริงอยู่แล้ว ซึ่งทางกระทรวงฯ อาจมีการตั้งคณะกรรมาการขึ้นมาช่วยเหลือเพิ่มเติม
สำหรับรีสอร์ต บ้านพัก 22 แห่งที่แจ้งดำเนินคดีเป็นล็อตแรกไปแล้วนั้น ทางป่าไม้จะดำเนินการไปตามขบวนการทางกฎหมายให้ชัดเจนทั้งหมดก่อน แล้วจึงจะแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีเพิ่มเติมกับรีสอร์ตบ้านพักที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียวในล็อตที่สองอีก 17 แห่ง และยังมีอีกกว่า 20 แห่งที่จะเพิ่มเติมเข้ามาอีกในล็อตที่สาม ซึ่งการดำเนินคดีอาญาของพนักงานสอบสวนก็ให้ทำหน้าที่ของเขาไป ในส่วนของเจ้าหน้าที่ปาไม้ก็ทำหน้าที่ไปตามอำนาจของกฎหมายป่าไม้
ส่วนการทำงานในพื้นที่มีความหนักใจและถูกกดดันจากกลุ่มผู้มีอิทธิพล นักการเมืองนั้น ต้องทำตามขั้นตอนและตอนนี้มันหยุดไม่ได้แล้ว เพียงแต่กระบวนการของคดีอาญานั้น หากการสอบสวนยังไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดมันจะเสียหายตรงที่หาตัวผู้รับผิดชอบทางแพ่งไม่ได้ แต่ในเรื่องพื้นที่ป่าไม้ที่ถูกบุกรุกนั้นทางป่าไม้สามารถเอาคืนมาได้แน่ ฉะนั้น เจ้าของรีสอร์ตทั้ง 22 รายต้องชัดเจนโดยเขาต้องออกมารับผิดหรือไม่ เราต้องรู้ตัวถึงจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ หากไม่รู้ตัวมันก็สูญเปล่า
นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี บ้านพักรีสอร์ต 22 แห่ง บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว ได้ปฎิเสธที่จะตอบคำถามของผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับปัญหาคดีดังกล่าว โดยได้รีบเดินหนีผู้สื่อข่าวไปทันที ทั้งนี้ นายระพี ได้พยายามหลีกเลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับคดีบุกรุกป่า อ.วังน้ำเขียว มาโดยตลอด
อนึ่ง สำหรับคดีบ้านพักรีสอร์ต 22 แห่งบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว ที่เจ้าพนักงานป่าไม้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.วังน้ำเขียว และพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้ดำเนินคดีตามคดีอาญาที่ 734/2554-755/2554 ปจว.ข้อ 9 ลงวันที่ 10 ส.ค.2554 นั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ออกคำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 3055/2554 เรื่อง “การเข้าควบคุมสอบสวนและแต่งตั้งพนักงานสอบสวนคดีเกี่ยวกับป่าไม้และทรัพยากรของชาติอื่นๆ” ลงวันที่ 18 ส.ค.2554 แต่งตั้งพนักงานสอบสวนทั้งฝ่ายปกครองและฝ่ายตำรวจเพื่อทำการสอบสวนดำเนินคดีดังกล่าวร่วมกันรวม 17 คนโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน
พนักงานสอบสวนอีก 16 คน ประกอบด้วย 1.นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว ปลัดจังหวัดฯ 2.พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ทฤธิศักย์ รอง ผบก.นครราชสีมา 3.นายชัยยงค์ ฮมภิรมย์ นายอำเภอวังน้ำเขียว 4.พ.ต.อ.กิตติ ฤทธิ์เวโรจน์ พงส.(สบ.4)ภวจ.นครราชสีมา 5.พ.ต.อ.กิตติ กองแสงศรี ผกก.สภ.วังน้ำเขียว 6. พ.ต.ท.โชติ ตระกูล รองผผก.(สส.) สภ.วังน้ำเขียว 7.พ.ต.ท.เสนอ คงวิชรฉัตร พงส.(สบ.3) สภ.วังน้ำเขียว 8.พ.ต.ท.คมกฤช เคนชา พงส.(สบ.3)สภ.วังน้ำเขียว 9.พ.ต.ท.เด่น สุขใหม่ พงส.(สบ.3)สภ.วังน้ำเขียว 10.พ.ต.ต.เนติรัฐ บุษรา พงส.(สบ.2) สภ.วังน้ำเขียว 11.พ.ต.ท.อนันต์ พิมพ์เจริญ รองผกก.(สส.) สภ.โพธิ์กลาง 12.พ.ต.ท.ภานุเทพ ไชยคำภา รองผกก.(สส.) สภ.ปักธงชัย 13. พ.ต.ท.ธวัชชัย สร้อยสวัสดิ์ รองผกก.(สส.)สภ.อุดมทรัพย์ 14.พ.ต.ท.อภินันท์ ปลื้มมะรัง พงส.(สบ.3) สภ.เมืองนครราชสีมา 15.นายธรรมธรรศ ทองสำโรง ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ) และ 16.นายอิทธิพล สุยะลา ปลัดอำเภอ (จพง.ปค.ชำนาญการ)