ประจวบคีรีขันธ์ - จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสับปะรดไทย กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสับปะรด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงาน “100 ปี สับปะรดไทยที่ 1 ในโลก” เพื่อสร้างแบรนด์ในการเป็นเมืองสับปะรดของโลกให้เป็นเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ทั้งพื้นที่เพาะปลูกผลผลิตและการส่งออกที่มากที่สุดของประเทศถึง 3 หมื่นล้าน/ปี และเชื่อว่ากิจกรรมครั้งนี้จะพัฒนาควบคู่ไปกับการท่องเที่ยว
วันนี้ (15 ก.ย.) ณ ศูนย์จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยนายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสับปะรดไทย และนายยุทธศาสตร์ วิยาภรณ์ พัฒนาการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นางปิ่นนาถ เจริญผล ผอ.ททท.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกันแถลงข่าวในการจัดงาน “100 ปี สับปะรดไทย ที่ 1 ในโลก” จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 8 ตุลาคม 2554 ที่สนามกรมทหารราบที่ 153 ริมถนนเพชรเกษม อ.ปราณบุรี
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานเกษตรจังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด พาณิชย์จังหวัด และอำเภอปราณบุรี ร่วมจัดงานเพื่อ รำลึกถึงความสำคัญของสับปะรดประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากเป็นปีที่ครบ 100 ปี ของการปลูกสับปะรดต้นแรกในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ อีกทั้งยังเป็นผลผลิตทางการเกษตรที่สร้างรายได้เข้าจังหวัดสูงสุด มีพื้นที่ปลูกมากที่สุด ส่งออกต่างประเทศได้มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทย และเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการตอกย้ำความโดดเด่นให้ทั่วโลกรู้จักสับปะรดที่ประจวบคีรีขันธ์
นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า สับปะรดเป็นผลิตผลทางการเกษตรที่สร้างรายได้เข้าสู่จังหวัดมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และมีพื้นที่ปลูกมากที่สุดในปัจจุบัน 450,000 กว่าไร่ ผลผลิตสับปะรดมากกว่า 9 แสนตัน/ปี มีการส่งออกสับปะรดกระป๋องจากประจวบฯประมาณกว่า 1 หมื่นห้าพันล้านบาท/ส่วนภาพรวมทั้งประเทศเฉลี่ยส่งออกกว่า 3 หมื่นล้าน/ปี อีกทั้งทางจังหวัดได้มีการกำหนดวิสัยทัศน์ในการพัฒนาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ขึ้นมาใหม่ตั้งแต่ปี 2555-2558 เป็นต้นไป คือ “ เมืองท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่า สับปะรด มะพร้าวที่หนึ่งของโลก สังคมแห่งมิตรไมตรี”
ภายในงานมีกิจกรรมที่เสริมสร้างภาพลักษณ์ของการเป็นเมืองสับปะรดอันดับหนึ่งของโลก มากมาย เช่น ขบวนพาเหรดแฟนซีสับปะรด ในพิธีเปิดงาน ที่มีขบวนพาเหรดถึง 14 ขบวน การเจรจาการค้ากับประเทศรัสเซีย และเทรดเดอร์ ผู้นำเข้า ส่งออกกว่า 20 คนโดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ การสัมมนาวิชาการเกี่ยวกับสับปะรด ทั้งการแปรรูป การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ สับปะรดราคาเดียว สับปะรดที่โรงงานต้องการ และการลดกรดไนเตรท นิทรรศการกระบวนการผลิตสับปะรด ตั้งแต่ปลูกจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อการส่งออก เป็นต้น
นายวีระกล่าวอีกว่า เพื่อให้เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปและประชาคมโลก รวมทั้งเพื่อร่วมกันสร้างภาพลักษณ์ อัตลักษณ์แห่งความเป็นเมืองสับปะรดของโลก ให้เป็นเป็นที่ยอมรับ ในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะผลผลิตและมาตรฐานการส่งออกสับปะรดและผลิตภัณฑ์จากสับปะรดระดับโลก
“ผมต้องทำให้เหมือนงานเทศกาลสับปะรด เหมือนงานเทศกาลใหญ่ๆในต่างประเทศ เพื่อต้องการเชิญชวนให้นักลงทุนมาลงทุนกิจการที่เกี่ยวข้องกับสับปะรด สร้างประจวบคีรีขันธ์ ให้มีชื่อเสียง” ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กล่าว และว่า
“นอกจากนั้น ผมจะบันทึกภาพในงานครั้งนี้นำไปเผยแพร่ที่ประเทศเยอรมัน ในงานเกี่ยวข้องกับผลไม้กระป๋องของทั่วโลก ให้รู้ว่าราชาสับปะรดอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เราต้องสร้างแบรนด์ขึ้นมาให้ได้ เพื่อให้ทั่วโลกได้รับรู้ว่า สับปะรดไทยที่ 1 ในโลกอยู่ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์”
ด้าน นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมสับปะรดไทย กล่าวว่า เมื่อ10ปีที่ผ่านมามีการจัด 90 ปีสับปะรดไปแล้วเช่นกันที่อำเภอปราณ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งในครั้งนี้สมาคมฯให้การสนับสนุนการจัดงาน “100 ปี สับปะรดไทย ที่ 1 ในโลก” ครั้งนี้อย่างเต็มที่ โดยเชิญประกอบการโรงงานสับปะรดในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 16 โรงงาน เข้าร่วมงาน
นอกจากนั้นได้ร่วมกับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ จัดนิทรรศการแสดงเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องจักรกลการผลิตสับปะรดกระป๋อง นวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับกระบวนการผลิตสับปะรดเพื่อการส่งออก ผลิตภัณฑ์กระดาษจากใบสับปะรด ระบบการป้องกันปัญหามลพิษจากโรงงาน และนอกจากนี้สมาคมฯ ร่วมกับหอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดฯ ได้ให้การสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งในการจัดงานครั้งนี้
พร้อมกันมีการยืนยันว่าการปลูกสับปะรดต้นแรกในจังหวัดประจวบฯ เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2454 โดยนายทอง อิ่มทั่ว ผู้ใหญ่บ้านบ้านเบญจพาส ต.วังก์พง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้หน่อสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียมาจากพ่อค้าชาวปากีสถาน ที่เดินทางมาจากเกาะหมาก (เกาะปีนัง) นำมาปลูกจนแพร่หลาย กลายเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของประจวบคีรีขันธ์ และเป็นที่มาของสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียมาจนถึงปัจจุบันนี้
นางปิ่นนาถ เจริญผล ผอ.ททท.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าทาง ททท.ประจวบฯ ให้การสนับสนุนในเรื่องของการประชาสัมพันธ์ ผ่านทางช่องทางต่างๆ ทั้ง ทีวี วิทยุ เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ ตลอดจนเข้าไปจัดนิทรรศการเรื่องราวของแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ผู้ที่ร่วมงานได้รับรู้ และสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ การนำกิจกรรมสับปะรดมาสร้างแบรนด์ของจังหวัด ก็เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว เพราะหากนึกถึงต้องสับปะรดที่ประจวบคีรีขันธ์เท่านั้นที่เป็นหนึ่งเดียว
ขณะเดียวกัน นายยุทธศาสตร์ วิยาภรณ์ พัฒนาการจังหวัดประจวบฯ กล่าวว่า ได้แบ่งพื้นที่การจัดงานออกเป็นโซนต่างๆ รวม 6 โซน ประกอบด้วย โซนที่ สินค้า OTOP ของดีเมืองประจวบฯและของดี 4 ภาค คัดสรรผลิตภัณฑ์ 3-5 ดาว มีบูทการจัดแสดงและจำหน่าย 180 บูท โซนที่ 2 เวทีสัมมนา ประชุมวิชาการ เจรจาธุรกิจ โซนที่ 3 นิทรรศการประวัติสับปะรด เทคโนโลยีเครื่องจักรเกี่ยวกับสับปะรด และ นิทรรศการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท.ประจวบฯ
โซนที่ 4 เวทีการแสดงของแต่ละอำเภอและเต็นท์อาหาร โซนที่ 5 การแสดงของดี 8 อำเภอ และ โซนที่ 6 พิธีเปิดงานและแลนด์มาร์คของงาน ที่สำคัญมีการจัดการแข่งขัน และการประกวดผลผลิตสับปะรด เช่น การประกวดสับปะรดผลสด การประกวดธิดาสับปะรด ประกวดการทำอาหารคาว-หวานจากสับปะรด และนวัตกรรมอาหารจากสับปะรด การแข่งขันปลอกสับปะรด กินสับปะรด โดยคณะกรรมการจัดงานได้จัดเตรียมอำนวยความสะดวกแก่ผู้เข้าร่วมงานทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความปลอดภัยที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ อปพร. ดูแลตลอดการจัดงาน พร้อมเตรียมพื้นที่จอดรถไว้อย่างเพียงพอสำหรับผู้ที่เดินทางมาเข้าร่วมงาน
สำหรับบรรยากาศในการแถลงข่าวครั้งนี้ ทางจังหวัดได้เน้นทุกอย่างเป็นสับปะรด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อที่ใส่เป็นเสื้อสับปะรด มีการจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากสับปะรด การปลอกสับปะรดโชว์ของผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การตำส้มตำสับปะรดให้ส่วนราชการ และสื่อมวลชนได้รับประทาน การนำสับปะรดมาทำเป็นแกงคั่วสับปะรดที่ขึ้นชื่อของจังหวัด การนำผลิตภัณฑ์ที่แปรรูปสับปะรดมาจัดแสดง เพื่อสร้างสีสันในการจัดงาน 100 ปี สับปะรดไทย ที่ 1 ในโลก ที่จะจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 30 ก.ย. - 8 ต.ค.54 ที่ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์